Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 'ทักษิณ' จบทริปเยือนเชียงใหม่รอบ 17 ปี ระบุให้กำลังใจ 'เศรษฐา' เพราะวิกฤตปัจจุบันหนักกว่ายุคต้มยำกุ้ง วอนใครไม่ชอบหน้าขอให้ต่างคนต่างอยู่

เมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2567 Thai PBS รายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ ตลอด 3 วันตั้งแต่วันที่ 14-16 มี.ค. ว่า อบอุ่นและดีใจหลังจาก 17 ปีที่หายไปได้กลับมา รู้สึกคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน คิดถึงอาหาร วัฒนธรรมและคนเก่าๆ เป็นธรรมชาติที่ทำให้เรากระชุ่มกระชวยขึ้น

ส่วนช่วงสงกรานต์จะกลับมา จ.เชียงใหม่ อีกหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ช่วงสงกรานต์ก็มีความตั้งใจว่าจะกลับมาอีกครั้ง เพราะตนมีความรักในวัฒนธรรม ฉะนั้นจึงอยากกลับมาเพราะมีประเพณีรดน้ำดำหัว

เมื่อถามว่า กลับมาเชียงใหม่ครั้งนี้มองว่าอะไรควรพัฒนาเพิ่มมากขึ้น นายทักษิณ กล่าวว่า เรื่องฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาหนักที่สุดและมีความเป็นห่วง โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ก็รับทราบปัญหาและเร่งดำเนินการแก้ไข

นอกจากนี้ยังมีเรื่องความแห้งแล้งที่อยากให้ฟื้นโดยการไม่ต้องใช้น้ำมาก จะทำให้สภาพแวดล้อมชุ่มชื้นเขียวได้และจะทำให้อากาศกลับมาดี ซึ่งตนเป็นห่วงเพียงเท่านี้ แต่ถึงอย่างไรเศรษฐกิจก็ต้องดีและเชื่อว่านายกฯ ก็วางแผนที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะถ้าเศรษฐกิจดีทุกอย่างก็จะดีตาม พร้อมเปรียบว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าท้องไม่อิ่มก็ลำบาก”

ชี้วิกฤตปัจจุบันหนักกว่ายุคต้มยำกุ้ง

นายทักษิณ ระบุอีกว่า ให้กำลังใจนายเศรษฐาทุกเรื่อง เพราะงานวันนี้ยากกว่าสมัยช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง มีความซับซ้อนและยากมากกว่า ฝ่ายการเมืองก็ต้องร่วมมือกัน ฉะนั้นต้องให้กำลังใจข้าราชการฝ่ายประจำ และนักการเมืองก็ต้องร่วมมือกัน

ทั้งนี้จะให้ข้อคิดนายเศรษฐาอย่างไรบ้าง หลังจากที่เคยแก้วิกฤตต้มยำกุ้งมาก่อน นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนใหญ่นายเศรษฐาก็รู้ เพราะเป็นเรื่องเดิมที่เคยแก้ไขมา แต่บางอย่างก็ใช้ได้ บางอย่างก็ต้องเปลี่ยน เพราะโลกเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม ซึ่งหากมีอะไรก็จะเขียนแนะนำรัฐบาลเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะตนเป็นห่วงบ้านเมือง

ส่วนการเดินสายพบแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่อื่นๆ ขณะนี้ยังไม่ได้คิด เพราะต้องการใช้เวลากับครอบครัวก่อน ขอคนเสื้อแดงอย่าเพิ่งน้อยใจ ทุกอย่างต้องใช้เวลา อีกทั้งตนเพิ่งมาถึงก็ต้องระมัดระวังความประพฤติของตัวเองด้วยเช่นกัน พร้อมพูดติดตลกว่า ตนมาเครื่องบิน มาถึงบ้านช้ากว่าเรือ เรือใช้เวลาเดินทาง 1 เดือนถึงบ้าน แต่ตนมาเครื่องบินแท้ๆ แต่ใช้เวลา 6 เดือนกว่า

ลั่นดรามาคือเรื่องไม่จริง

นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวดรามาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่กลับถึงประเทศไทยและออกจากโรงพยาบาล ว่า คำว่าดรามาก็คือเรื่องไม่จริง “จบโอเคไหมครับ” ส่วนการเดินทางมาเชียงใหม่ครั้งนี้ ก็มีข่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงอาการป่วยนั้น ตนมองว่าไม่เป็นไร ภาวะจิตใจคนสำคัญกว่า ถ้าภาวะจิตใจแย่ ก็อาจจะทำให้อย่างอื่นรวนตามไปได้

เมื่อถามว่าสภาพจิตใจตอนนี้ดีเกิน 100% หรือยัง นายทักษิณ ตอบว่า ใจมันดีเพราะมีลูกสาว มีลูกชายอยู่ใกล้ๆ และยังมีหลานๆ อีก 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่ในวัย 75 ปีที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนาน “วันนี้กลับมาใครไม่ชอบหน้า ก็ต่างคนต่างอยู่ไป”

พร้อมยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีอาการป่วยจริง แต่กำลังใจดีทำให้หลายอย่างดีขึ้น แต่ทุกวันนี้ยังมีปัญหาการกดประสาทของกระดูกที่คอและหลัง รวมถึงยังมีอาการต่อเนื่องจากตอนที่ป่วยโควิด-19 ซึ่งตอนนั้นอาการหนักมาก นอนไอซียู 9 วัน ข้างในได้รับผลกระทบทำให้ตอนนี้ปอดยังคงมีจุดดำๆ อยู่

17 ปีที่รอคอย คนเสื้อแดงน้ำตาคลอได้เจอ “ทักษิณ” หลังรวมตัววัดโรงธรรมสามัคคี

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567 ว่าวันที่ 15 มีนาคม 2567 ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอำเภอบ้านเกิดของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นสถานที่เก็บอัฐิของคนตระกูลชินวัตร ยกเว้นบิดาและมารดาของนายทักษิณ ที่ย้ายอัฐิไปเก็บที่ อ.แม่ออน มีกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากมารวมตัวเพื่อให้กำลังใจ นายทักษิณ นำโดย นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง และยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคเพื่อไทย มารอให้กำลังใจตรงจุดนี้ด้วย อาทิ นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงอดีต สส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต สส.เชียงใหม่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีต สส.สุรินทร์ โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้ถือป้ายให้กำลังใจ มีข้อความ อาทิ รวมพลคนรักทักษิณเชียงใหม่, ยินดีต้อนรับนายกฯ ทักษิณ ปิ๊กสู่เชียงใหม่บ้านเฮา เป็นต้น และยังถือรูปถ่ายคู่นายทักษิณ มาต้อนรับด้วย 

ทั้งนี้ ทันทีที่ นายทักษิณ และครอบครัว รวมถึง นายพายัพ ชินวัตร น้องชายนายทักษิณ ที่ได้มาร่วมคณะเพิ่มเติม มาถึง มวลชนที่มารอให้การต้อนรับต่างกรูเข้าไปห้อมล้อมเพื่อมอบดอกไม้และถ่ายรูปร่วมกับ นายทักษิณ พร้อมตะโกนว่า “เรารักทักษิณ” โดย นายทักษิณ ได้เดินทักทายบรรดามวลชน สร้างความยินดีให้กับมวลชนเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับน้ำตาคลอดีใจที่ได้เจอ นายทักษิณ หลังจากไม่ได้เจอมานานร่วม 17 ปี 

จากนั้นนายทักษิณได้เคารพอัฐิของ นางเยาวลักษณ์ ชินวัตร พี่สาวคนโต ซึ่งเสียชีวิตในช่วงที่ นายทักษิณ ไปต่างประเทศ นายอุดร ชินวัตร น้องชาย และ น.ส.ทัศนี ชินวัตร น้องสาว จากนั้นนายทักษิณ พร้อมครอบครัว โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนจะเดินทางกลับบ้านพักในซัมมิท กรีนวัลเล่ย์ เชียงใหม่ คันทรีคลับ ที่ อ.แม่ริม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในระหว่างที่เดินพบปะทักทายกับมวลชนคนเสื้อแดง นายทักษิณ คล้ายมีอาการเหนื่อยล้า โดยหลังเคารพอัฐิก็มีคนคอยช่วยพยุงตัวยืนขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net