Skip to main content
sharethis

'เศรษฐา' มองกรณีมีข่าวการปล่อยตัว 'ทักษิณ' ในวันที่ 18 ก.พ. นี้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เผยให้เกียรติอดีตนายกทุกคน หากมีโอกาสพร้อมขอคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ - เน้นย้ำฝ่ายความมั่นคง อารักขาบุคคลสำคัญ พร้อมพัฒนากองทัพยกระดับการศึกษาและความเป็นอยู่ของกำลังพล

17 ก.พ. 2567 เวลา 08.40 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครพนม สกลนครและอุดรธานี ระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ. 2567  ถึงขั้นตอนการปล่อยตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการพักโทษว่าเข้าใจว่าจะมีการปล่อยตัวในวันที่ 18 ก.พ.  เชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กรมราชทัณฑ์  และโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีการรายงานขั้นตอนอะไรที่เป็นพิเศษหรือไม่ ก็เป็นไปตามที่พูด ตามที่ข่าวออกมาแล้ว เป็นไปตามกฎหมายทุกอย่าง

ส่วนการปล่อยตัวจะเป็นในช่วงกลางคืนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่ทราบเลยครับ ผมไม่ทราบ แต่เป็นวันที่ 18 ผมไม่ทราบ ไม่แน่ใจในข้อกฎหมาย วันที่ 18 คือวันที่ 18 ไม่แน่ใจ ไม่ได้มีการคุยกัน ไม่ได้ลงรายละเอียด ผมเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย”

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะมีโอกาส ไปเจอกับนายทักษิณ หรือไม่ หลังได้รับการปล่อยตัว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องดูตามความเหมาะสม ส่วนที่ถามมาว่าจะไปขอคำแนะนำอะไรหรือไม่ ในฐานะนายกฯ ตนให้เกียรติอดีตนายกฯ ทุกท่าน  

“ถ้ามีโอกาสเจอกันตามงาน หรือถ้ามีเรื่อง หรือถ้ามีความจำเป็นที่นายกฯ ในอดีตมีความชำนาญในเรื่องนั้นเป็นพิเศษ ตนไม่เขินอายที่จะไปปรึกษา วันนั้นเจอ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ก็คุยกันเป็นชั่วโมง มีหลายเรื่องที่ท่านให้คำแนะนำมา” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ส่วนจะแค่ขอคำปรึกษา หรือตั้งเป็นคณะทำงานหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น ไม่ทราบว่าท่านอยากทำแบบนั้นหรือเปล่า ไปพูดก้าวล่วงแบบนั้นมันก็ไม่ถูกต้อง เชื่อว่าท่านจากไปหลายปีแล้ว ก็คงมีเรื่องที่อยากจะทำ ท่านเองก็ไม่สบายอยู่ด้วย ก็ต้องดูความเหมาะสม

เน้นย้ำฝ่ายความมั่นคง อารักขาบุคคลสำคัญ

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงการร่วมรับประทานอาหารกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ และนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า วานนี้ (16 ก.พ.) ได้ไปรับประทานอาหารเย็น กับ ผบ. ทั้ง 3 เหล่าทัพ ซึ่งมีการพูดคุยอย่างสม่ำเสมอในเรื่องการพัฒนากองทัพอยู่แล้ว รวมถึงการพูดคุยในข้อกังวลใจต่าง ๆ
 
นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยเรื่องการอารักขาราชวงศ์และบุคคลสำคัญ ต้องเน้นย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ จะต้องทำให้ถูกต้อง ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ทุกคนก็เห็นตรงกันหมด
 
นายกฯ กล่าวถึงการพูดคุยเรื่องสวัสดิการของทหาร สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนเองได้ไปเยี่ยมแฟลตข้าราชการตำรวจ จึงได้สอบถามกับ ผบ.เหล่าทัพ ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของทหาร ไม่ใช่แค่มิติของที่อยู่อาศัย แต่รวมไปถึงด้านการศึกษา เพราะในปัจจุบันมีถึงแค่หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) แต่เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่โรงเรียนช่างฝีมือทหาร สามารถผลิตแรงงานเข้าสู่ตลาดได้ ซึ่งอุตสาหกรรมต่างๆ  ก็ยังคงต้องการแรงงานช่างฝีมือ ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพ ก็ยอมรับว่าในปัจจุบัน โรงเรียนช่างฝีมือทหารก็ยังมีอยู่เพียงในระดับ ปวช. ก็จะต้องมองว่าจะพัฒนาไปจนถึงในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และ ระดับปริญญาตรีต่อได้
 
สำหรับสถานพยาบาลต่างๆ ของเหล่าทัพ เช่น โรงพยาบาลภูมิพล ที่มีผู้เข้าไปรักษาหลักล้านต่อปี แต่เป็นบุคลากรของกองทัพเพียง 10% นายกฯ กล่าวว่า แสดงว่าโรงพยาบาลเหล่านี้ ให้การรักษาประชาชนเป็นอย่างดี รวมถึงสถานพยาบาลในกองทัพ หรือค่ายทหาร ดังนั้น การลงพื้นที่ในครั้งนี้ จะไปมอบโฉนดที่ดินกับกองทัพ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกก็จะเดินทางไปด้วย จึงจะถือโอกาสนี้ให้ผู้บัญชาการทหารบก พาไปดูสถานพยาบาลในค่ายทหาร รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ภายในค่ายทหาร ซึ่งตนเองมีความเป็นห่วงทุกภาคส่วน เราจะต้องดูแลพวกเขาให้มีศักดิ์ศรี และถ้าหากในอนาคตจะเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่น ก็สามารถทำได้อย่างสมศักดิ์ศรีเช่นกัน 


ที่มาเรียบเรียงจากเว็บไซต์รัฐบาลไทย [1] [2]
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net