Skip to main content
sharethis

คนงานที่ถูกเอาเปรียบจากการไปทำงานเก็บเบอร์รีที่สวีเดน และฟินแลนด์ เคลื่อนไหววันที่ 2 ยื่นหนังสือถึงกรมจัดหางาน ขอให้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบ และมีมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง 'ธนพร' เสนอ รมว.แรงงาน แถลงแสดงความจริงใจ ป้องกันคนตกเป็นเหยื่อเพิ่ม

 

8 ก.พ. 2567 สื่อ ภราดร เกตุเผือก ถ่ายทอดสดออนไลน์วันนี้ (8 ก.พ.) ที่หน้ากระทรวงแรงงาน ประตู 3 เมื่อเวลาประมาณ 11.03 น. แรงงานเก็บเบอร์รีที่ประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ ที่ได้รับผลกระทบจากการค้ามนุษย์ เดินทางมายื่นหนังสือถึงกรมจัดหางาน กระทรวงแรงงาน โดยเรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ควรแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาโดยการออกแถลงการณ์ ทั้งมาตรการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันระยะสั้นต่อแรงงานที่อาจจะตกเป็นเหยื่อในอนาคต

ธนพร วิจันทร์ ตัวแทนจากเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน วันนี้ได้มาร่วมเรียกร้องกับคนงานเก็บเบอร์รีที่สวีเดน และฟินแลนด์ กล่าวปราศรัยบนรถเครื่องเสียงว่า คนงานเก็บเบอร์รีวันนี้เดินทางมาที่กระทรวงแรงงาน เนื่องจากถูกบริษัทนายหน้านำแรงงานไปทำงานที่สวีเดนและฟินแลนด์เอาเปรียบ ไปเก็บเบอร์รีแล้วกลับมาเป็นหนี้เป็นสิน และไม่ได้รับเงินประกัน อยากให้กระทรวงแรงงานชี้แจงว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ยังไง

“เอาคนงานจากประเทศไทยไปทำงาน มีการหักเงินประกัน 1.2 แสนบาท แต่พอแรงงานกลับมา ก็หักจนแรงงานไม่เหลืออะไรเลย บ้านถูกยึด รถถูกยึด แรงงานได้รับผลกระทบวันนี้เขามาเรียกร้อง และอยากฟังตัวแทนจากกระทรวงแรงงานจะทำยังไงกันต่อ ไม่ใช่บอกว่าจะทำอย่างเร่งด่วน และเร่งรัด เราอยากเห็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และมีกระบวนการตรวจสอบบริษัทที่เอาเปรียบแรงงาน” ธนพร กล่าว 

สำหรับวานนี้ (7 ก.พ.) แรงงานเก็บเบอร์รีได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงสถานทูตฟินแลนด์ สถานทูตสวีเดน สหภาพยุโรป สหประชาชาติ และทำเนียบรัฐบาล และเช้าวันนี้ ก่อนมายื่นหนังสือถึงกระทรวงแรงงาน คนงานเก็บเบอร์รีได้เดินทางไปที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้มีการตรวจสอบว่า สิ่งแรงงานเก็บเบอร์รีเผชิญปัญหาทำงานแล้วไม่ได้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม หรือปัญหาอื่นๆ เข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ และก่อนหน้านี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษแล้ว 

หลังจากนั้น ตัวแทนจากกรมจัดหางาน ได้ออกมารับหนังสือที่หน้าประตู 3 และได้มีการพูดคุยกับแรงงานที่มายื่นหนังสือ

เบื้องต้น ตัวแทนแรงงานรายหนึ่งเผยว่า เธอเรียกร้องให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยขอให้มีสัดส่วนของสมาชิกที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการไปทำงานเก็บเบอร์รีที่ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย โดยอยากให้ระบุว่าคณะทำงานนี้จะมีบทบาทอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง แรงงานรายเดิมเรียกร้องด้วยว่าอยากให้ตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษร มากกว่าโทร. หรือคุยผ่านมือถือ 

ต่อมา แรงงานอีกรายขอให้กระทรวงแรงงานตรวจสอบบริษัทจัดหาแรงงานไปทำงานเก็บเบอร์รีที่ประเทศฟินแลนด์และสวีเดนทั้งหมด เนื่องจากเขาทราบข่าวว่าต่างประเทศมีการระบุว่าเรื่องอาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และการค้าทาส จึงอยากให้กระทรวงมีมาตรการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มข้น

ตัวแทนกรมจัดหางาน ระบุต่อว่า เห็นด้วยว่าเราควรจะมาคุยกัน เรื่องความเดือดร้อน และช่องโหว่ทางกฎหมายเกิดขึ้น แต่ตรงนี้เริ่มต้น รมว.กระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ลงมาดูเรื่องนี้แล้ว

ด้านธนพร วิจันทร์ กล่าวว่า ในระยะสั้น เธออยากให้กรมจัดหางานแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหา โดยเบื้องต้น อยากให้พัพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แถลงถึงมาตรการตรวจสอบ และมาตรการลงโทษต่อบริษัทที่เอาเปรียบแรงงาน อย่างน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้มีแรงงานตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้น เนื่องจากตอนนี้เข้าใกล้ฤดูเก็บเบอร์รีแล้ว 

ทั้งนี้ แรงงานอีกหลายคนได้เข้ามาคุยกับตัวแทนกรมจัดหางาน เช่น บริษัทส่งออกแรงงานไม่ยอมทำหนังสือสัญญาจ้าง และออกสลิปเงินค่าตอบแทนให้แรงงานที่ไปทำงาน โดยแรงงานเข้าใจว่ากฎหมายบังคับให้บริษัทต้องทำหนังสือสัญญาจ้าง เมื่อไม่มีหนังสือสัญญาจ้าง แรงงานจึงเดือดร้อนไม่สามารถไปร้องเรียนกระทรวงแรงงานได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐาน

แรงงานอีกรายสะท้อนว่า ปัญหาไม่ได้รับเงินประกันคืน โดยบริษัทอ้างเหตุผล เช่น คนงานไปเก็บบลูเบอร์รี แทนที่จะไปเก็บสตอว์เบอร์รี ทำให้ผิดเงื่อนไข และไม่ได้รับเงินประกันคืน ซึ่งแรงงานมองว่าไม่เป็นธรรม 

แรงงานคนเดิมสะท้อนด้วยว่ามีบางบริษัทไม่ยอมสมัครกองทุนให้คนงาน และสอบถามว่าทำไมกรมจัดหางานถึงอะลุ่มอะล่วยให้บริหารต่อได้

ตัวแทนกรมจัดหางาน ระบุว่า ประเด็นนี้ต้องไปดูในรายละเอียดและหาข้อมูลเพิ่มว่าทำไมบริษัทไม่ได้จ่ายเงินกองทุน และส่งแรงงานไปได้ นายจ้างพาไป หรือเดินทางไปด้วยตนเอง อันนี้ต้องไปดูรายกรณี ถ้าบริษัทเป็นผู้จัดส่ง และไม่ได้จ่ายเงินเข้ากองทุน กระทรวงแรงงานจะขอไปตรวจสอบก่อน 

หลังจากพูดคุย กรมจัดงานยังไม่ได้รับปากเรื่องการแก้ไขปัญหา แต่ตัวแทนกรมจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และแรงงานที่ได้รับความเดือดร้อน ได้แลกเปลี่ยนช่องทางติดต่อด้วยกัน เพื่อประสานงานการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมที่กระทรวงแรงงาน คนงานเครือข่ายเก็บเบอร์รีป่าที่สวีเดน และฟินแลนด์ เดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อให้มีการตรวจสอบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเข้าข่ายการละเมิดสิทธิหรือการเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่

รายละเอียดหนังสือเครือข่ายเก็บเบอร์รีป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์ 

เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สส. และผู้อำนวยการทุกท่าน 

พวกเราเป็นคนงานจากเครือข่ายเก็บเบอร์รีป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์

ด้วยจดหมายนี้ พวกเราขอเรียกร้องให้ท่านช่วยกันหยุดขบวนการค้าแรงงานไทยไปที่ประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ เพื่อไปเก็บผลเบอร์รีป่า (และล่าสุด เก็บเห็ด และผลไม้ชนิดอื่นด้วย) และด้วยจดหมายฉบับนี้ พวกเราต้องการให้เกิดความมั่นใจได้ว่า แรงงานเก็บเบอร์รีป่าชาวไทยหลายร้อยคนที่กำลังอยู่ในกระบวนการเรียกร้องความยุติธรรม จะได้รับค่าชดเชยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม ทั้งการชดเชยด้านเศรษฐกิจและในด้านอื่นๆ

พวกเราตระหนักดีว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 พวกนายหน้าของอุตสาหกรรมเบอร์รีป่าของสวีเดน และฟินแลนด์ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนต่างก็ได้พากันกดดันหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ให้อนุญาต ให้พวกเขาสามารถนำเข้าแรงงานจากประเทศไทยที่มีพันธะหนี้กับบริษัทปีละหลายพันคน โดยแรงงานเก็บเบอร์รีเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นคนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

ในวันนี้ พวกเราเข้าใจว่าความพยายามเพิ่มการเก็บเบอร์รีป่า ในสแกนดิเนเวียให้ได้จำนวนมากขึ้นโดยอาศัยแรงงานที่นำเข้ามาจากประเทศไทย เริ่มต้นขึ้นมาจากความพยายามฟื้นฟูอุตสาหกรรมเบอร์รีป่าที่ประเทศสวีเดน และฟินแลนด์ ให้รอดพ้นจากการเป็นเพียงบันทึกแห่งประวัติศาสตร์ - อันเนื่องจากประชาชนของประเทศทั้งสองไม่มีใครยอมทำงานที่ได้ค่าแรงต่ำเช่นกันอีกต่อไป

พวกเราตระหนักดีว่า ในแต่ละปีแรงผลักและแรงดึงดูดให้พวกเราคนทำงานไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยและชาวบ้าน ให้พากันยอมจ่ายค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ไปกับการทำงานอย่างไม่ได้พักผ่อนเป็นเวลา 2.5 เดือน (ผู้สื่อข่าว : ราวประมาณ 2-3 เดือน) ในพื้นที่ป่าของประเทศโลกเหนือ ไม่ได้แสดงให้เห็นอะไรมากหรือน้อยไปกว่าการจงใจของธุรกิจโลกเหนือ (ขบวนการค้ามนุษย์) ที่จะเอาเปรียบเท่าที่จะทำได้ จากสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศของเรา

พวกเราตระหนักดีว่า เพราะการเข้ามาเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่ภาครัฐตลอด 18 ปีที่ผ่านมา บริษัทเบอร์รีป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์ กระทำการอย่างมีเป้าหมายชัดเจนต่อการปฏิเสธระบบสัญญาจ้าง พวกเราเริ่มตระหนักได้มากขึ้นเรื่อยๆ ว่าพวกเราถูกล้อลวงและถูกหลอกให้ต้องแบกรับความเสี่ยงเกือบทั้งหมดของความพยายามที่จะขยายตลาดของอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งในอดีตดำรงอยู่บนการไม่ต้องจ่ายค่าแรงงานใดๆ ทั้งสิ้น

เครือข่ายแรงงานเก็บเบอร์รีป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์ ได้ร่วมกันเขียนจดหมายนี้ในนามของแรงงานไทยหลายหมิ่นคนที่ถูกหลอก ให้กู้หนี้ยืมสินจากประเทศไทย เพื่อนำไปชำระค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มสมัครงานจนถึงวันที่เดินทางกลับบ้าน ค่าใช้จ่ายที่รวมถึงการเตรียมตัวเดินทางไปประเทศสวีเดน หรือฟินแลนด์, ค่าตั๋วเครื่องบิน, จ่ายค่าความทุกข์ยากที่ต้องจำกัดตัวอยู่ในที่พักมาตรฐานต่ำสุดเท่าที่จะเป็นไปได้, จ่ายค่าอาหารที่แย่ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้, จ่ายค่าเช่ารถที่แทบจะไม่สามารถขับลงท้องถนนได้, ต้องจ่ายค่าน้ำมัน, ค่าอุปกรณ์ และเสื้อผ้าที่จำเป็นสำหรับการทำงานในป่าเช่นนี้

ความจริงที่ว่า ขบวนการหลอกลวงแรงงานเก็บเบอร์รีนี้ กระทำการอย่างโหดร้ายต่อครอบครัวไทยหลายพันครอบครัว โหดร้ายถึงที่สุดต่อคนงานหลายร้อยครอบครัว ด้วยการให้ความหวังว่าคนงานจะได้เงินเป็นแสนจากการทำงาน 2-3 เดือน แรงงานไทยที่ไม่มีเงินสำรองหลายพันคน ถูกหลอกให้กู้ยืมเงินในประเทศไทยจำนวนกว่าหนึ่งแสนถึงสองแสนบาท เพื่อนำไปอุดหนุนความมั่งคั่งให้กับธุรกิจในสวีเดน และฟินแลนด์ (ประเทศที่มีรายได้สูง) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา เมื่อรวมการสูญเสียทางเศรษฐกิจของครอบครัวที่ยากจนชาวไทย ความเสียหายมีมูลค่าถึง 8,000-12,000 ล้านบาท

พวกเราคนเก็บเบอร์รีชาวไทยทุกคนต้องอดทนทำงานหนักไม่ต่ำกว่า 800 ชั่วโมง เพื่อปลดพันธนาการหนี้เบอร์รีของเรา แม้ว่าเราทุกคนจะทำงาน 10-20 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลา 70 วันโดยไม่หยุด แต่มีคนงานเพียงแค่ประมาณ 10% เท่านั้นที่สามารถบรรลุเป้าหมายได้รายได้ตามคำสัญญา พวกตัวแทนนายหน้าไม่เคยถึงความจริงเรื่องนี้ และไม่บอกเล่าถึงความเจ็บปวดที่เกิดจากสภาวะหนี้สิน และจากการบาดเจ็บที่เกิดจากการทำงานนี้

ในประเทศไทย เราจินตนาการว่าสแกนดิเนเวียอยู่ภายใต้กฎหมายแรงงานที่เข้มงวด เราต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่แรงงานตามฤดูกาลชาวต่างชาติจะตระหนักว่ามันไม่เป็นจริงเช่นนั้น งานที่เราเลือกเข้ามาทำ กลับกลายเป็นงานต้มตุ๋นเราประเภทหนึ่ง เป็นงานที่พยายามอำพรางตัวเองว่าเป็นงานที่ถูกต้องชอบธรรม งานที่ดูถูกความหวังและความคาดหวังของพวกเรา และทำให้พวกเราส่วนใหญ่ต้องยากจนข้นแค้น หรือมีชีวิตอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม

การต่อสู้เพื่อสิทธิและการเรียกร้องความยุติธรรมของเราถูกบดบังด้วยความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดจากการรัฐประหารสองครั้งติดต่อกัน ตามมาด้วยความล้มเหลวในการบริหารงานภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร ได้เปิดโอกาสให้กลุ่มนายทุนที่ต้องพึ่งพาแรงงานติดพันธะสัญญาหนี้ และขบวนการค้ามนุษย์ได้รับโอกาสให้เติบโตตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 มีการออกวีซ่าไม่น้อยกว่า 120,000 ใบ เพื่อการค้าสมุนษย์แรงงานไทยไปเก็บเบอร์รีป่าในสวีเดนและฟินแลนด์

เราจินตนาการว่า คนสวีเดนและคนฟินแลนด์ไม่ต้องการเป็นเจ้าภาพในการพยายามจัดตั้งระบบการใช้แรงงานทาสยุคใหม่ และในประเทศที่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของระบอบประชาธิปไตย จะต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐที่สามารถออกมายอมรับได้ว่า การมีเป้าหมายเพื่อที่จะตักตวงผลประโยชน์จากการทำงานนับ สิบล้านชั่วโมงของแรงงานไทยที่จัดส่งให้โดยข้าราชการที่อยู่ภายใต้การปกครองของทหารนั้น เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้

สวีเดนและฟินแลนด์จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อหนี้สินของแรงงานเก็บเบอร์รีที่ไม่เคยถูกสำรวจมาเลย และดูแลการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับคนงานไทยหลายพันคนที่ถูกหลอกล่อ ให้ไปอุดหนุนความพยายามที่จะเพิ่มความมั่งคั่งให้กับอุตสาหกรรมเบอร์รีป่า คนงานเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการชดเชย

เครือข่ายแรงงานเก็บเบอร์รีป่าที่สวีเดนและฟินแลนด์ขอนำเสนอข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้ 

  1. หยุดระบอบค้ามนุษย์แรงงานไทยไปเก็บเบอร์รีที่สวีเดน และฟินแลนด์ โดยทันที จนกว่าคนงานที่เสียหายจะได้รับการชดเชย และจนกว่าจะมีการเจรจากรอบกฎหมายแรงงานที่คุ้มครองผลประโยชน์ให้คนงานอย่างเต็มที่
  2. ฟินแลนด์และสวีเดนจะต้องสร้างความมั่นใจว่าจะมีมาตรการเร่งรัดสอบสวนดำเนินคดีกับทุกคนและทุกฝ่ายที่ร่วมกันก่ออาชญากรรมค้ามนุษย์ ทั้งในประเทศไทย สวีเดน และฟินแลนด์ เพื่อคืนความยุติธรรมและชดเชยให้คนงานที่เสียหาย และเพื่อดำเนินคดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมการค้ามนุษย์
  3. เพื่อให้สอดคล้องกับกลไกปกป้องและดูแลผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่มีกรอบกฎหมายอยู่แล้ว จะต้องมีการดำเนินการช่วยเหลือทางกฎหมายและทางการเงินแก่แรงงานเก็บเบอร์รีชาวไทย ที่คดีการค้ามนุษย์ของพวกเขาอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยทางการ พร้อมด้วยจดหมายฉบับนี้ พวกเราขอนำเสนอข้อมูลที่รวบรวมโดยเครือข่ายของเรา เกี่ยวกับความสูญเสียและความเสียหายของแรงงานเก็บเบอร์รีกว่า 300 คน
  4. เปิดให้มีการเจรจาใหม่ โดยกรอบของวิถีรัฐต่อรัฐ G2G (รัฐบาลต่อรัฐบาล) ทั้งนี้จะต้องยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โดยที่มีตัวแทนคนงานเก็บเบอร์รีป่าเข้าร่วมเจรจาด้วย ต้องมีการกำหนดเป็นพิเศษว่าเป็นนายจ้างจะปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงานด้วยความสุจริตใจ โดยที่นายจ้างจะต้องรับผิดชอบ - ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง, ทั้งต้องจ่ายค่าจ้างที่เหมาะสม, ค่าทำงานล่วงเวลา, ค่าดูแลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย, โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะไม่สามารถหักออกจากรายได้ของคนงานได้
  5. จนกว่าการสืบสวนคดีอาชญากรรมข้ามชาติในปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ในอุตสาหกรรมเบอร์รีป่าของสวีเดน และฟินแลนด์ ควรถูกขึ้นบัญชีดำ โดยสหภาพยุโรป จนกว่าจะมีการวางกรอบกติกาใหม่ที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานของสวีเดน และฟินแลนด์ อย่างเคร่งครัด 
  6. เราขอเน้นย้ำว่า หากประเทศไทย ต้องการมุ่งสู่การวางนโยบายด้านการดูแลแรงงานย้ายถิ่น อย่างยั่งยืน ทั้งแรงงานที่เข้ามาในประเทศไทย และแรงงานที่ออกไปทำงานที่ต่างประเทศ ประเทศไทยจำเป็นต้องนำแนวทาง "นโยบาย 4R" มาใช้

 

  1. แก้ไข (Resolve) เพื่อให้แน่ใจว่าการคำนึงถึงความเสียหายของคนงาน จะได้รับพิจารณาอย่างเต็มที่ และด้วยความเคารพต่อหลักการยุติธรรมสากล
  2. สอบสวนใหม่ (Reinvestigative) เพื่อให้มั่นใจว่ามีการตรวจสอบสัญญาบ่งชี้ถึงการค้ามนุษย์ ซึ่งอาจรวมถึงการเปิดคดีที่ถูกยกฟ้องไปแล้วมาสอบสวนใหม่
  3. เจรจาต่อรองใหม่ (Renegotiate) โดยการเปิดการเจรจาอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าแรงงานข้ามชาติได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเต็มที่
  4. การเริ่มต้นชีวิตใหม่ (Resettle) โดยการจัดทำโครงการเพือ่สนับสนุนเริ่มต้นชีวิตใหม่ของแรงงานที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืนด้วยการมุ่งเน้นเพื่ออนาคตที่ดีกว่านี้ เราหวังว่าเนื้อหา และข้อเรียกร้องของพวกเราในจดหมายฉบับนี้จะได้รับการพิจารณา และนำไปดำเนินการโดยความจริงใจจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับชาติ นานาชาติ และข้ามชาติ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net