Skip to main content
sharethis

ตำรวจ สน.ดุสิต สั่ง 'พีมูฟ' ย้ายพื้นที่ชุมนุมออกห่างหน้าทำเนียบรัฐบาล ไปหน้า UN ภายในเที่ยงวันนี้ (5 ก.พ. 2567) ผู้ชุมนุมยืนยันปักหลักการชุมนุมบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลต่อไป ไม่มีกำหนด จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของการชุมนุมในครั้งนี้

 

5 ก.พ. 2567 เฟซบุ๊กเพจ “ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม P-move” รายงานเวลา 09.25 น. ตำรวจสถานีนครบาลดุสิตได้เข้าพบบริเวณด้านหน้าสถานที่ชุมนุม และแจ้งให้ประชาชนแก้ไขการชุมนุมสาธารณะตามมาตรา 7 วรรคท้าย โดยมีเนื้อหาดังนี้ "ตามคำสั่งกองบังคับตำรวจนครบาล วันที่ 2 ก.พ. 2567 ขอให้ออกประกาศห้ามชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาลในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร โดยการจัดการชุมนุมของกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม มีจำนวนผู้เข้าร่วมประมาณ 500 คน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนและกีดขวางทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล"

ในช่วงท้ายของการประกาศ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ย้ายไปจัดการชุมนุมบริเวณหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) ภายในเวลา 12.00 น. ของวันนี้ (5 ก.พ. 2567) ซึ่งทาง P-move ยังคงยืนยันว่าจะปักหลักการชุมนุมบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลต่อไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจุดประสงค์ของการมาชุมนุมจะบรรลุตามเป้าหมายของการชุมนุมในครั้งนี้

ภาพ พีมูฟ

ทั้งนี้ ทาง P-move ได้ออกแถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ฉบับที่ 1 เรื่อง ประกาศปักหลักชุมนุมพีมูฟทวงสิทธิ ทวงสัญญาประชาชน ระบุ

นับเป็นเวลากว่า 3 เดือน หลังพวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ได้ปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งแรกในสมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน พวกเราได้ลงแรง ลงใจ พัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายทั้ง 10 ด้านให้ปรากฏแก่สาธารณชน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ข้อเสนอเรื่องปากท้อง ที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย สิทธิในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและภัยพิบัติ สิทธิและสถานะบุคคล ความเป็นคนและศักดิ์ศรีของกลุ่มชาติพันธุ์ รวมถึงข้อเสนอว่าด้วยการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การกระจายอำนาจ และร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม และ 16 ตุลาคม 2566

อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าการดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งเชิงนโยบายและรายกรณีของรัฐบาลชุดนี้ช่างล่าช้า ในหลายครั้งก็เฉไฉ ไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับปากไว้กับประชาชน การกระทำตรงกันข้ามกับปากพูด เปิดทางให้ราชการใช้อำนาจกฎหมายที่ไร้ความเป็นธรรมไล่รุกชาวบ้าน ทั้งการดำเนินคดี ยึดที่ทำกิน ขับไล่ประชาชนออกจากพื้นที่ดั้งเดิมของตัวเอง ซึ่งหายนะที่เกิดแก่ประชาชนคนยากคนจนเช่นนี้ ก็สืบเนื่องจากฝ่ายนโยบายมีความเพิกเฉย จิตใจที่เย็นชา และความหน้ามืดตาบอดจนมองไม่เห็นและไม่อาจรู้สึกร่วมไปกับความทุกข์ร้อนของประชาชน

เป็นต้นว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ไม่เคยเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าพบ ไม่เคยมอบนโยบายอันเป็นประโยชน์และเป็นธรรมต่อการแก้ไขปัญหาและคืนสิทธิ์ให้ประชาชน ไม่กล้าหาญเพียงพอที่จะปรับแก้กฎหมายและนโยบายเดิมที่ล้าสมัยและเป็นภัยคุกคามต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากล เป็นเหตุให้ขณะนี้พีมูฟมีกรณีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากถึง 169 กรณี คิดเป็นจำนวนมากถึง 63.5 ของจำนวนกรณีปัญทั้งหมดในพีมูฟ และมีกรณีเร่งด่วนมากถึง 13 กรณี ที่ชาวบ้านกำลังถูกไล่ที่ จับกุมดำเนินคดี เสี่ยงคุกตะราง

และเป็นต้นว่าสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ที่กำกับดูแลโดย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งควบตำแหน่งประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ขณะนี้เราขอเรียนว่า สคทช. กำลังพยายามทำลายแนวทางสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ หรือ โฉนดชุมชน โดยการแบ่งแยก ยุยงให้ประชาชนในพื้นที่ต้องแตกแยกในเรื่องแนวทางแก้ปัญหา เป็นเครื่องมือของหน่วยงานราชการอื่นๆ ในการแย่งยึดที่ดินของประชาชนด้วยการบีบให้คนจนต้องรับโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งเป็นมรดกบาปจากรัฐบาล คสช.

เมื่อรัฐบาลบิดพลิ้ว หน่วยงานรุกไล่ เฉื่อยชาเฉไฉ ไม่แก้ปัญหา คนจนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ก็ถึงเวลาทวงสัญญาประชาชน วันนี้พวกเราพีมูฟขอประกาศเปิดศักราชการชุมนุมปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไปอย่างไม่มีกำหนด ณ ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล จนกว่าจะบรรลุข้อเรียกร้องทั้งหมด ได้แก่

1. เดินหน้าโฉนดชุมชน ยุติการคุกคามประชาชนด้วย คทช. โดยต้องเปิดประชุมคณะกรรมการโฉนดชุมชนและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ

2. แก้ปัญหาเรื่องด่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเราขอเปิดเจรจากับรัฐมนตรี พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อหารือกรอบแนวทางการทำงานร่วมกันทั้งระบบรายกรณีและนโยบาย และหากไม่เปิดโอกาสให้เราได้เข้าพบ เราจะไม่ร่วมประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้

3. เปิดประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินทั้งระบบ ซึ่งมี ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นประธาน เพื่อนำข้อสรุปการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเข้าสู่คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่มี ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานต่อไป

เรายืนยันว่าพร้อมปักหลักชุมนุมยาว และขอประกาศเชิญชวนพี่น้องประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายร่วมให้การสนับสนุน ทั้งเสบียงอาหาร น้ำดื่ม ยาสามัญ เครื่องนอน เครื่องครัว และอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ สำหรับการชุมนุมปักหลักค้างคืน รวมถึงขอเชิญชวนพี่น้องเข้าร่วมการชุมนุมของพวกเรากลุ่มพีมูฟได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

พีมูฟทวงสิทธิ สร้างอำนาจกำหนดชีวิตประชาชน

5 กุมภาพันธ์ 2567

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net