Skip to main content
sharethis

ศาลปกครองเชียงใหม่อ่านคำพิพากษา ประชาชนชนะคดีฟ้องอดีตนายกฯ 'ประยุทธ์'-กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ช้า สร้างผลกระทบประชาชน สั่งทำแผนแก้ปัญหาฝุ่นภายใน 90 วัน นับตั้งแต่มีคำพิพากษา

 

19 ม.ค. 2567 สื่อไทยพีบีเอส (19 ม.ค.) ศาลปกครองเชียงใหม่ อ่านคำพิพากษา คดีเครือข่ายประชาชนภาคเหนือ ในฐานะผู้ฟ้อง ประกอบด้วย นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นพ.รังสฤษฏ์ กาญจนะวณิชย์ สภาลมหายใจเชียงใหม่ สภาลมหายใจภาคเหนือ และภาคประชาชน ฟ้องนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในประเด็นที่รัฐบาลเพิกเฉยการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือที่เป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขที่ส่งผลอย่างร้ายแรง 

ทั้งนี้ คำฟ้องมีข้อเรียกร้องสำคัญทางคดีดังนี้

  • ฟ้องนายกรัฐมนตรีให้ใช้อำนาจตามมาตรา 9 พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติอย่างร้ายแรงให้มีอำนาจสั่งการให้หน่วยงานทำหน้าที่อย่างเข้มงวด เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่ได้ใช้อำนาจนี้จนการแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 มีความล่าช้า ไม่ทันต่อความร้ายแรงของเหตุการณ์
  • ฟ้องคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” ซึ่งรัฐบาลประกาศแผนนี้มาตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากในระยะเวลา 4 ปีในการใช้แผนนี้ แทบจะไม่เห็นความคืบหน้าและปัญหายังคงความรุนแรงอยู่ นี่คือความผิดปกติที่เราไม่อาจยอมรับ

สื่อไทยพีบีเอส รายงานว่า การพิพากษาวันนี้ ศาลปกครองเชียงใหม่พิจารณาโดยเปิดเผย ให้ประชาชนสามารถเข้าร่วมฟังพิจารณาคดีได้ ซึ่งคดีที่ประชาชนฟ้องนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับคดีฝุ่น PM 2.5 เป็นการฟ้องคดีเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

ล่าสุด เวลา 10.00 น. ศาลปกครองเชียงใหม่สั่งนายกรัฐมนตรี และ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ทำแผนแก้ปัญหาฝุ่นภายใน 90 วัน นับแต่คำพิพากษา

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองเชียงใหม่ได้ปัดตกการฟ้องคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ต่อความล้มเหลวในการตรวจสอบข้อมูลตลอดห่วงโซ่อุปทานอันเกี่ยวเนื่องกับแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ซึ่งส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังประเทศไทย และไม่รับอุทรณ์เพื่อพิจารณาคดี 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net