Skip to main content
sharethis

ที่สหรัฐฯ ปัจจุบันการเรียนการสอนใน 'วิทยาลัยชุมชน' (Community College) มีความยืดหยุ่นขึ้น โดยเฉพาะการเรียนผ่านแผน 'การศึกษาตามความสามารถ' (CBE) ที่ไม่จำเป็นต้องเข้าห้องเรียนเสมอ เอื้อให้คนทำงานจบการศึกษาได้รวดเร็วขึ้น


ที่มาภาพ: Nash Community College

รายงานพิเศษจาก Stateline สื่อที่เกาะติดประเด็นท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าในปัจจุบัน การเรียนการสอนในวิทยาลัยชุมชน (Community College) มีความยืดหยุ่นขึ้น โดยเฉพาะกับนักศึกษาอายุมาก ที่กลับมาเรียนอีกครั้ง และเชี่ยวชาญในอาชีพที่ตนเองทำอยู่แล้ว

'แจ็กเกอลีน ยัลดา' (Jaqueline Yalda) เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในเท็กซัสมาเป็นเวลา 10 ปี เธอได้รับการเลื่อนตำแหน่งเมื่อต้นปี 2023 นี้ แต่ก่อนอื่น ทางแผนกกำหนดให้เธอต้องจบหลักสูตรกระบวนการยุติธรรมทางอาญาเสียก่อน

เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ยัลดาเข้าเรียนในวิทยาลัย และเมื่ออายุ 38 ปี เธอก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

แต่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Yalda ได้รับเกรด 'A' ในวิชากระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นจ่าสิบเอก ตอนนี้เธอมุ่งหวังที่จะเลื่อนขึ้นเป็นร้อยโท ซึ่งจะต้องสำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาเสียก่อน

ความลับของเธอ? เข้าเรียนหลักสูตรที่วิทยาลัยชุมชนเอล พาโซ (El Paso Community College) ผ่านแผนการเรียน 'การศึกษาตามความสามารถ' (Competency-Based Education หรือ CBE) ซึ่งทำให้เธอสามารถเรียนหลักสูตรออนไลน์ได้ตามต้องการ เธอเรียนจบใน 4 สัปดาห์ (จากที่เรียนได้ 8 สัปดาห์) เธอบอกว่าอาจารย์ตอบกลับอย่างรวดเร็วทางออนไลน์เมื่อเธอมีคำถาม

จ่าสิบเอกแจ็กเกอลีน ยัลดา ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเนื่องจากเธอสำเร็จหลักสูตรกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ในรูปแบบ 'การศึกษาที่เน้นความสามารถ' ทั้งนี้วิทยาลัยชุมชนจำนวนมากขึ้น นำแผนการเรียนการศึกษาที่เน้นความสามารถมาใช้ ซึ่งหลักสูตรนี้มุ่งเน้นไปที่นักศึกษาอายุมาก ที่กลับมาเรียนอีกครั้ง

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเรียนผ่านแผนการเรียน CBE” ยาลดา กล่าวในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์  “หลังจากเรียนแล้ว ฉันจะพิจารณาเรียนหลักสูตรอื่นที่ฉันต้องการอย่างแน่นอน ตอนแรกฉันรู้สึกกลัวเพราะฉันไม่เคยทำงานบน [แพลตฟอร์มการสอนทางไกล] มาก่อน แต่พอฉันปฐมนิเทศแล้ว…ฉันก็คิดว่า ‘ว้าว นี่มันง่ายและสะดวกจริงๆ’”

ผู้สนับสนุนแผนการเรียน CBE มองว่าการศึกษาที่เน้นความสามารถเป็นประโยชน์ต่อผู้ใหญ่วัยทำงานและนักศึกษาอื่น ๆ ที่ต้องการศึกษาหรือฝึกอบรมเพิ่มเติมเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน แต่นักวิจารณ์ รวมถึงนักการศึกษาส่วนหนึ่ง กลับมองว่ามันอาจทดแทนการเรียนรู้ในรูปแบบเดิมได้ไม่ดีนัก

แอมเบอร์ การ์ริสัน ดันแคน (Amber Garrison Duncan) รองประธานบริหารอาวุโสของ Competency-Based Education Network (C-BEN) ระบุว่าทั่วสหรัฐฯ มีวิทยาลัยชุมชนบางแห่งใช้แผนการเรียน CBE สำหรับบางหลักสูตรเท่านั้น แต่แคลิฟอร์เนียกำลังจะเป็นรัฐแรกที่ประสานแผนการเรียน CBE ข้ามวิทยาลัยชุมชน 8 แห่ง และอาจมีรัฐอื่น ๆ กำลังจะดำเนินรอยตาม 

ต่างจากชั้นเรียนในวิทยาลัยทั่วไป การศึกษาที่เน้นความสามารถไม่จำเป็นต้องให้นักศึกษาฟังการบรรยายในชั้นเรียน และแตกต่างจากหลักสูตรออนไลน์ที่นักศึกษาเข้าสู่ระบบและดูการบรรยายออนไลน์ที่บันทึกไว้ตลอดภาคการศึกษา นักศึกษาตามแผนการเรียน CBE สามารถจบหลักสูตรได้ตามประสบการณ์และความรู้ของตนเอง

เกรดจะขึ้นอยู่กับโครงงาน รายงาน หรือการสอบที่นักศึกษาทำเมื่อพวกเขารู้สึกว่าพร้อมที่จะพิสูจน์ว่าพวกเขาเชี่ยวชาญเนื้อหานี้

หลักสูตรต่างๆ แตกต่างจากหลักสูตรที่เปิดสอนโดยมหาวิทยาลัยออนไลน์เอกชนที่แสวงหาผลกำไร โดยมีราคาพอๆ กับหลักสูตรวิทยาลัยชุมชนของรัฐทั่วไป และมักใช้การเรียนรู้ในชีวิตหรือชุดทักษะเฉพาะเป็นข้อกำหนดเบื้องต้น แทนที่จะเป็นการนั่งเรียนในชั้นเรียน เช่น นักศึกษาปีที่ 2 ที่เชี่ยวชาญในประเด็นนั้นๆ อยู่แล้ว ก็สามารถข้ามการเรียนสอนและการประเมินสำหรับชั้นเรียนนั้นได้

การ์ริสัน ดันแคน กล่าวว่าในการประชุมของ C-BEN เมื่อเดือน ต.ค. 2023 แผนการเรียน CBE ได้รับความสนใจจาก “สถาบันทุกรูปแบบ ตั้งแต่วิทยาลัยชุมชนไปจนถึงมหาวิทยาลัย เป็นความเคลื่อนไหวที่เราเห็นว่าได้รับความสนใจในสาขาและสาขาวิชาที่แตกต่างกัน”

ถึงกระนั้น ผู้เชี่ยวชาญยังมีความสงสัยบางอย่างในหมู่ผู้สอนที่ประสบความสำเร็จ ในเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้เรียน

"มีอาจารย์หลายคนที่เห็นคุณค่าในการให้ความยืดหยุ่นในการเรียนรู้สำหรับนักศึกษาของเรา พวกเราก็ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นนี้พร้อมด้วยการทำงานอย่างมืออาชีพของเราด้วยเช่นกัน" ฟลาวเวอร์ ดาร์บี้ (Flower Darby) รองผู้อำนวยการศูนย์การสอนเพื่อการเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยมิสซูรี กล่าวระหว่างการประชุมออนไลน์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Chronicle of Higher Education ในเดือน ก.ย. 2023

แต่เธอกล่าวเสริมว่า แต่อาจารย์หลายคนก็รู้สึก “ขาดการเชื่อมต่อ” กับนักศึกษาเช่นกัน “พูดตามตรงเลย ฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้เราหลายคนมีความสุขในการสอนของเราคือการได้แลกเปลี่ยนและการเชื่อมโยงกับนักศึกษาของเรา” ดาร์บี้ กล่าว “ดังนั้น คำถามที่แท้จริงคือ … เราจะปลูกฝังความสัมพันธ์เหล่านั้นได้อย่างไร [ในแผนการเรียน CBE]”

โมเดลของรัฐต่างๆ


ที่มาภาพ: Nash Community College

จากวิทยาลัยชุมชน 8 แห่งในแคลิฟอร์เนียที่เข้าร่วมในโครงการนำร่อง มี 7 แห่ง ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการรับรองวิทยฐานะสำหรับวิทยาลัยชุมชนและวิทยาลัยระดับเริ่มต้น (Accrediting Commission for Community and Junior Colleges หรือ ACCJC) เมลิสซา วัลลาริน (Melissa Vallarin) โฆษกของเครือข่ายวิทยาลัยชุมชนแคลิฟอร์เนียระบุ

หลักสูตรในกลุ่มวิทยาเขตจะรวมถึงการศึกษาปฐมวัย การบริหารธุรกิจ กายภาพวิทยา สุขภาพ เทคโนโลยี เทคโนโลยียานยนต์ และศิลปะการทำอาหาร ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อเข้าถึง “ผู้ใหญ่วัยทำงาน ผู้สูงอายุ และนักศึกษาด้อยโอกาส” วัลลาริน ระบุ

เธอยังระบุว่าอุปสรรคสำคัญที่สุดคือการได้รับการรับรอง ซึ่งบางครั้งต้องอาศัยความรู้ที่นักศึกษาได้รับนอกเหนือจากการเรียนรู้แบบเดิมๆ เช่น จากประสบการณ์การทำงาน และมากกว่าวิธีการประเมินผลแบบเดิมๆ เช่น ชั่วโมงเรียน การวัดผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา หรือการประเมินทักษะโดยอาจารย์ผู้สอนแบบตัวต่อตัว

ส่วน การ์ริสัน ดันแคน กล่าวว่ารัฐต่างๆ ได้นำโครงการนี้มาใช้บางส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสาขาต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา และการค้าบางประเภทที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง

“คุณเห็นรัฐต่างๆ เริ่มสนับสนุนแผนการเรียนการสอนนี้มากขึ้นกว่าในอดีต” เธอกล่าวในการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “ฉันคิดว่ามีความกดดันอย่างมากในการเพิ่มการเข้าถึง แผนการเรียนที่อิงตามเวลา [ในชั้นเรียน] ยังคงยากสำหรับนักศึกษาที่ต้องจัดการเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน”

บางรัฐได้ดำเนินการขั้นแรกในการเสนอแผนการเรียน CBE ในวิทยาลัยชุมชนของตน รัฐแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการและให้เงินสนับสนุนหลักสูตร ในขณะที่วิทยาลัยเตรียมสื่อการสอนและขอการรับรอง วิทยาลัยชุมชนในเท็กซัสอย่างน้อย 6 แห่งเปิดสอนหลักสูตรที่มีแผนการเรียน CBE  มิชชี่ พาเกล (Myshie Pagel) คณบดีฝ่ายการศึกษาและอาชีพของวิทยาลัยชุมชนเอล พาโซ กล่าว

เมื่อปี 2022 รัฐเคนตักกี้ได้ออกคู่มือการวางแผนสำหรับวิทยาลัยชุมชนและวิทยาลัยเทคนิคที่กำลังพิจารณาใช้แผนการเรียน CBE วิทยาลัยชุมชนซอลท์เลค (Salt Lake Community College) ในรัฐยูทาห์เปิดแผนการเรียน CBE ใน 19 หลักสูตร และวิทยาลัยชุมชนในรัฐแมสซาชูเซตส์อย่างน้อย 1 แห่งเปิดสอนแผนการเรียน CBE ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย

มหาวิทยาลัยของรัฐบางแห่งยังเปิดสอนแผนการเรียน CBE ด้วย ตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-มิลวอคกี Wisconsin-Milwaukee (University of Wisconsin-Milwaukee) เปิดสอนแผนการเรียน CBE ในหลักสูตรอนุปริญญาสาขาศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ การถ่ายภาพเพื่อการวินิจฉัย การพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ความกังวล


ที่มาภาพ: Nash Community College

ผลสำรวจที่เผยแพร่ในเดือน ก.ค. 2023 ของนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนเอล พาโซ ที่เรียนภายใต้แผนการเรียน CBE พบว่าส่วนใหญ่ใช้เวลาเพียง 3-4 สัปดาห์ในการจบหลักสูตร ผลสำรวจพบว่า เกือบ 60% วางแผนที่จะลงทะเบียนเรียนภายใต้แผนการเรียน CBE เพิ่มเติม ในขณะที่นักศึกษาน้อยกว่า 1 ใน 4 ระบุว่าการเรียนในรูปแบบดังกล่าวไม่เหมาะสม

ส่วนความเห็นของอาจารย์จากการสำรวจ นอกจากชื่นชมแผนการเรียนการสอนแบบ CBE แล้ว พวกเขาก็ยังแนะนำการฝึกอบรมและทรัพยากรด้านเทคนิคเพิ่มเติม เพื่อสร้างสื่อการสอนและการบรรยาย

พาเกล กล่าวว่าการให้อาจารย์ผู้สอนตระหนักว่าการออกแบบหลักสูตรและการให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมในชั้นเรียนแบบตัวต่อตัวกับนักศึกษา เป็นกุญแจสำคัญสำหรับแผนการเรียนนี้ 

“นักศึกษานี่แหละที่ช่วยประหยัดเวลา ไม่ใช่อาจารย์” เธอกล่าว เนื่องจากอาจารย์ต้องพร้อมที่จะตอบคำถาม พบปะกับนักศึกษาทางออนไลน์ และมีเวลาทำงานตามปกติ เช่นเดียวกับคณะอื่นๆ พวกเขายังมีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตรด้วย พาเกลกล่าว

“ในฟากของอาจารย์ สิ่งที่คุณทำได้จริงๆ สำหรับนักศึกษาที่เพิ่งเข้าใจเนื้อหา คุณสามารถผลักดันพวกเขาผ่านพ้นไปได้” เธอกล่าว “หากนักศึกษากำลังประสบปัญหา การมีเวลาที่มากขึ้นจะช่วยเหล่าอาจารย์ได้ สำหรับการให้เวลากับนักศึกษาเหล่านั้น”

นอกจากนี้ยังมีการแสดงความกังวลในมติการประชุมสภาวิทยาลัยชุมชนมาเดรา (Madera Community College) เมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งมีความกังวลว่าแผนการเรียนแบบ CBE อาจทำให้ประเด็นความไม่เท่าเทียมกันในหมู่นักศึกษารุนแรงขึ้นแทนที่จะลดลง โดยการผลักให้นักศึกษาที่ยากจนเรียนหันมาเรียนผ่านแผนการเรียน CBE นี้มากกว่านักศึกษาที่มีฐานะดีกว่า มติดังกล่าวยืนยันว่าเหล่าอาจารย์ไม่ได้รับทราบถึงแผนการของวิทยาลัย

นอกจากนี้ เจฟฟรีย์ ราแกน (Jeffrey Ragan) ศาสตราจารย์ด้านวิชาภาษาอังกฤษ ได้แสดงความกังวลว่าแผนการเรียนนี้อาจส่งผลให้ค่าจ้างของอาจารย์ลดลง โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่าปัจจุบันอาจารย์ได้รับค่าตอบแทนตามจำนวนชั่วโมงการสอนในที่ทำงานเท่านั้น นอกจากนี้เขายังตั้งคำถามว่าอาจารย์จะได้รับการประเมินผลภายใต้โมเดลใหม่นี้อย่างไร.


ที่มา:
No more attending classes: These community colleges let students learn at their own pace (Elaine S. Povich, Stateline, 24 October 2023)


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net