Skip to main content
sharethis

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้อง 21 อดีตแกนนำและแนวร่วม พธม.ชุมนุมบริเวณรัฐสภา วันที่ 5-7 ตุลาฯ ปี 51 ชี้ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ มุ่งเปิดโปงทุจริต 

2 พ.ย.2566 ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า วันนี้ (2 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณา 806 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.4924/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 70 ปีเศษ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) กับพวกรวม 21 คน ซึ่งเป็นอดีตแกนนำและแนวร่วม พธม. เป็นจำเลยที่ 1-21 กรณีกลุ่ม พธม. เคลื่อนการชุมนุมจากทำเนียบรัฐบาล ไปปิดล้อมรอบอาคารรัฐภา ช่วงวันที่ 7 ต.ค. 2551 ไม่ให้รัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประชุมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือแล้วมีข้อวินิจฉัยตามที่โจทก์อุทธรณ์ว่าการชุมนุมของกลุ่มฯเป็นไปโดยสงบและชอบธรรมหรือไม่ เห็นว่า การชุมนุมของกลุ่มฯเป็นการชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่นำโดย สมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต่อต้านการทุจริตต่อจากยุคของทักษิณ ชินวัตร และประกาศว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 239 และ มาตรา 309 เพื่อช่วยให้ทักษิณไม่ถูกยึดทรัพย์และไม่ต้องรับโทษจำคุก และมีนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจเป็นมหาชน สร้างความเสียหายให้กับประเทศ จะเห็นได้ว่ามีนโยบายหลายๆข้อที่ทำให้คนจากหลายภาคส่วนไม่พอใจ จึงได้ออกมาโต้แย้งโดยการชุมนุมเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ ตั้งแต่ เดือน พ.ค.2551 จนถึงวันที่ถูกสลายการชุมนุมวันที่ 7 ต.ค.2551 จำเลยที่ 1-2,4-21 ได้กล่าวเน้นย้ำให้ชุมนุมด้วยความสงบ ห้ามนำอาวุธเข้ามา และไม่มีการวางแผนทำผิดกฎหมาย เป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ต่อมามีการเข้าสลายการชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 ลักษณะจู่โจมโดยที่ผู้ชุมนุมยังไม่ทันตั้งตัวจนเกิดความวุ่นวาย ทำให้ผู้ชุมนุมวิ่งหลบหนี บางส่วนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก็สน้ำตา เป็นการปฏิบัติข้ามขั้นตอน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าได้ประสานขอรถน้ำจาก กทม.แต่ไม่ได้รับการร่วมมือส่งรถน้ำมาให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยิงแก็สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตร ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย บางรายถึงขั้นเสียชีวิต ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนไม่พอใจและหันมาตอบโต้ตำรวจโดยใช้ที่ยิงหนังสติ๊ก โดยใช้ด้ามธงปลายแหลม กระบองและหนังสติ๊กใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นการกระทำของผู้ชุมนุมบางคน โดยไม่มีใครสั่งการ ถือว่าเป็นเจตนาส่วนตัวมิอาจนำมาถือเป็นเจตนาของทุกคนในกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ขณะที่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความยืนยันว่า พวกจำเลยชุมนุมโดยไม่สงบ ซึ่งไม่อาจชี้ได้ว่า จำเลยที่ 1-2,4-21 เป็นผู้สั่งการ แต่ความวุ่นวายเกิดมาจากการเริ่มยิงแก็สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหรือ กสม.เห็นว่าเจ้าหน้าที่กระทำขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน มีการยิ่งแก็สน้ำตาจำนวนมาก เกินความจำเป็น อีกทั้งศาลปกครองสูงสุดได้มีคำวินิจฉัยว่าการะทำของเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำละเมิดต่อกลุ่มผู้ชุมนุม การกระทำของ จำเลยที่ 1-2,4-21 ไม่เป็นความผิดตามป.อาญา มาตรา 215,216 309, 310 ที่ศาลชั้นต้นพิพากยกฟ้องจำเลยมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษยกฟ้อง

ส่วนอัยการโจทก์จะมีการยื่นฎีกาต่อหรือไม่นั้น ก็อยากขอความเป็นธรรมไปยังอัยการสูงสุด เพื่อขอให้พนักงานอัยการไม่ยื่นฎีกา

สำหรับคดีนี้ถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีการอื่นใดอันมิใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือ กระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, เป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่ง อย่างใดทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยผู้กระทำมีอาวุธ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิกมั่วสุม, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 216, 309, 310

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net