Skip to main content
sharethis

ศาลพิษณุโลกพิพากษา “เซ็นเตอร์” มีความผิดตามมาตรา 112 แต่ให้รอกำหนดโทษ 2 ปี จากเหตุโพสต์ถึงการสลายชุมนุมตุลาคม 2563

4 ต.ค.2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลจังหวัดพิษณุโลกนัดฟังคำพิพากษาคดีของ “เซ็นเตอร์” (นามสมมติ) นักศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกฟ้องในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) จากการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการสลายการชุมนุมโดยการยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และฉีดน้ำแรงดันสูงในกรุงเทพฯ ช่วงกลางเดือนตุลาคม 2563 โดยจำเลยให้การรับสารภาพ และศาลได้ให้รอการกำหนดโทษเอาไว้ มีกำหนด 2 ปี

ศาลอ่านคำพิพากษา โดยสรุปเห็นว่าเมื่อพิจารณาประวัติการทำงาน การศึกษา พฤติการณ์จากรายงานการสืบเสาะ พบว่าจำเลยทำคุณความดี และคุณประโยชน์ต่อสังคม แต่รับข้อมูลจากสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นความเท็จเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง โดยได้กระทำการขออภัยโทษต่อพระบรมฉายาลักษณ์ ประกอบกับไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จึงเห็นควรให้โอกาสจำเลย พิพากษาให้รอการกำหนดโทษไว้ 2 ปี รายงานตัวต่อนักจิตวิทยาสังคมของศาล 4 ครั้งในระยะเวลา 1 ปี

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าเดิมคดีนี้ธรณินทร์ รักษ์ธนบดี ซึ่งเป็นเพื่อสมัยประถมของเซ็นเตอร์ เป็นผู้กล่าวหาไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก โดยตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 เซ็นเตอร์เคยได้รับการติดต่อจากตำรวจให้ไปพบ โดยไม่ได้มีหมายเรียก ไม่มีทนายความหรือผู้ไว้วางใจเข้าร่วม เขาได้ถูกตำรวจสอบประวัติ และให้ลงนามยินยอมให้รหัสผ่านเข้าเฟซบุ๊ก โดยไม่ได้มีหมายศาลในการเข้าถึงข้อมูล ในครั้งนั้น เขาถูกสอบสวนในฐานะพยาน โดยไม่ได้มีการแจ้งสิทธิตามกฎหมายอย่างแน่ชัด

จนกระทั่งช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 เขาได้รับหนังสือเชิญให้ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก อีกครั้งในวันที่ 6 ธ.ค. 2565 เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม โดยไม่ใช่เป็นหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ในครั้งนี้เขาเดินทางไปพบตำรวจพร้อมกับทนายความ พร้อมปรากฏว่าได้ถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา 112 ทันที และต่อมาวันที่ 27 ก.พ. 2566 ตำรวจยังเรียกไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) อีกด้วย

จนวันที่ 29 มี.ค. 2566 พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีของเซ็นเตอร์ต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก โดยบรรยายว่าโพสต์ของเซ็นเตอร์เป็นการโฆษณา ละเมิด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ดูหมิ่น ใส่ความ หมิ่นประมาทรัชกาลที่ 10 ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและถูกเกลียดชังจากประชาชน และเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net