Skip to main content
sharethis

"พร้อมอยู่ยาว และต้องมีหลักประกันชัดเจน" ผู้ชุมนุม 'พีมูฟ' ปักหลักหน้าทำเนียบ ยื่นข้อเสนอถึง ครม. เศรษฐา เปิดการเจรจา และมีมติเห็นชอบดันนโยบาย 9 ด้านลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ขัดขวางการชุมนุม ด้าน ตร.แจ้งผู้ชุมนุมให้กลับไปชุมนุมหน้า UN ภายใน 13.00 น. วันนี้  

 

3 ต.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก "ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ" รายงานวันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 9.36 น. ออกแถลงการณ์ เรื่อง เจตจำนงพีมูฟทวงสิทธิ สร้างอำนาจกำหนดชีวิตประชาชน 

รายละเอียดหนังสือ

นับตั้งแต่ช่วงระยะเวลาของการหาเสียงเลือกตั้ง จนถึงวันที่จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ข้อเสนอเชิงนโยบาย 9 ด้าน เพื่อแก้ไขปัญหาของคนทุกข์คนยากนั้น เป็นหัวใจหลักในการเคลื่อนไหวของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ มาโดยตลอด โดยเราได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2566 ณ ทำเนียบรัฐบาล และยื่นถึงรัฐบาลรวมถึงฝ่ายค้านอีกครั้งในวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา

ข้อเสนอเชิงนโยบายทั้ง 9 ด้านนั้นสะท้อนเจตจำนงอันแรงกล้าของพวกเราประชาชนคนจนว่าเราต้องการดำรงอยู่ในแผ่นดินนี้อย่างมีสิทธิ มีศักดิ์ศรี อยู่ในสังคมที่มองเห็นความเป็นมนุษย์ของพวกเราผู้ถูกอำนาจกฎหมายและนโยบายกดทับ การบีบคั้นให้เราต้องส่งต่อความจนจากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่งนั้นควรจบสิ้น ด้วยเชื่อมั่นว่าพวกเราทุกคนสามารถมีส่วนช่วยสร้างสรรค์สังคมประชาธิปไตยที่โอบรับคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ มิใช่สังคมที่เอื้อต่ออภิสิทธิ์ชนส่วนน้อยให้กดขู่ ขูดรีด เบียดขับรุกไล่ และกัดกินจิตวิญญาณให้เรามิอาจกล้าฝันถึงชีวิตในสังคมที่ดีกว่านี้

จากรัฐบาลเดิมจนถึงรัฐบาลใหม่ เรายืนยันว่ายังไม่เห็นท่าทีที่ชัดเจนของฝ่ายนโยบายในการผลักดันข้อเสนอของพวกเราสู่แนวทางปฏิบัติ ซ้ำยังปรากฏนโยบายของรัฐบาลใหม่อีกหลายประการที่จะสร้างผลกระทบกับประชาชนในอนาคต อาจกล่าวได้ว่าปัญหาเก่ายังไม่แก้ และมีแนวโน้มเดินหน้าแนวนโยบายซ้ำเติม นอกจากนั้น เมื่อวานนี้ในระหว่างที่เราได้ร่วมเคลื่อนไหวเนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ก็พบว่ามีการสกัดกั้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เราเคลื่อนขบวน รวมถึงมีการอ้างมาตรการทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 และเจรจาให้เราย้ายสถานที่ปักหลักชุมนุม สร้างบรรยากาศปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนที่ออกมาเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐาน ในขณะที่เสียงเรียกร้องของเราว่าอยากพบนายกรัฐมนตรีกลับถูกบ่ายเบี่ยง ไม่ได้รับการตอบสนองมาโดยตลอด

วันนี้ พีมูฟจึงประกาศปักหลักชุมนุมเป็นครั้งแรกในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน และขอประกาศเจตจำนงของเราต่อรัฐบาลและสาธารณชน ดังนี้

1. รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ต้องเปิดการเจรจากับพีมูฟเพื่อให้มีความชัดเจนในการเดินหน้าข้อเสนอเชิงนโยบาย 9 ด้าน สร้างหลักประกันทางนโยบายด้วยการมีมติเห็นชอบในการประชุมคณะรัฐมนตรี 

2. รัฐบาลต้องกำกับดูแลไม่ให้มีการใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อกดดัน ข่มขู่ หรือสร้างภาระทางคดีความต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานแสดงออกเรียกร้องต่อรัฐบาล

เรายืนยันว่าข้อเสนอเชิงนโยบายและข้อเรียกร้องรายกรณีของพีมูฟนั้นเป็นวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างจริงใจ เนื่องจากเป็นปัญหาเรื้อรังสั่งสมมาหลายยุคสมัย และระหว่างนี้เราพร้อมจะปักหลักชุมนุม ณ ทำเนียบรัฐบาลอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าจะได้ข้อยุติ เพื่อที่ดิน เสรีภาพ ประชาธิปไตย

3 ตุลาคม 2566
ณ ประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล

นโยบาย 9 ด้านลดความเหลื่อมล้ำ

วานนี้ (2 ต.ค.) พชร คำชำนาญ ให้สัมภาษณ์ถึง นโยบาย 9 ด้านของพีมูฟ ไม่ได้เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิด แต่มีการยกร่างมาตั้งแต่ปี 2562 และใช้นโยบาย 9 ด้านรณรงค์มาโดยตลอด และรณรงค์ช่วงการเลือกตั้ง 

สำหรับนโยบาย 9 ด้านของพีมูฟ ประกอบด้วย 1. แก้ไขรัฐธรรมนูญ และยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ส่งผลกระทบต่อเสรีภาพของประชาชน 2. กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น 3. ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 4. กระจายที่ดินทำกินและคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม 5. ทบทวนนโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ 6. ส่งเสริมให้ชุมชนมีการจัดการร่วมในภัยพิบัติ 7. คุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ และสิทธิความเป็นมนุษย์ 8. คุ้มครองสิทธิของคนไร้สถานะ และ 9. ส่งเสริมรัฐสวัสดิการ 

พชร ยกตัวอย่างข้อเรียกร้องของพีมูฟ เรื่องการแก้ไข รัฐธรรมนูญ ทางพีมูฟยืนยันในหลักการแก้ไขได้ทุกหมวดทุกมาตรา และทางสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% เรื่องสิทธิชุมชนในรัฐธรรมนูญ หรือการกระจายอำนาจ เราจะเน้นเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับนโยบายการทวงคืนผืนป่า ซึ่งเป็นผลกระทบจากนโยบายยุค คสช. ทำให้เกษตรกรหลายคนไม่มีที่ดินทำกิน การจัดการเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิสถานะเรื่องชาติพันธุ์ และรัฐสวัสดิการต้องถ้วนหน้า 

"เราตั้งใจให้นโยบาย 9 ด้าน อยู่ในคำแถลงการณ์ของรัฐบาลเศรษฐา 1 ว่าแต่สุดท้ายก็คือดูเหมือนแต่ละข้อ… ไม่ปรากฏไปตามเจตนารมณ์เท่าไร" พชร กล่าว 

พชร กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ พีมูฟ เคยไปชุมนุมหน้ารัฐสภา ระหว่างที่มีการแถลงนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา และทางรัฐบาลไม่ได้มีท่าทีตอบรับข้อเสนอของพีมูฟ แต่อย่างใด ไม่มีการนัดหมาย หรือการหารือมากกว่านี้ว่านโยบาย 9 ด้านนี้จะได้รับการผลักดันอย่างไร

พชร กล่าวต่อว่า เรื่องจุดมุ่งหมายการชุมนุมจะไม่เน้นไปที่กดดันให้รัฐบาลต้องมีการตั้งคณะกรรมการ หรือคณะทำงาน ศึกษานโยบาย 9 ด้านของทางพีมูฟ เนื่องจากมองว่าสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การตั้งคณะทำงานลักษณะนี้เหมือนเป็นการเตะถ่วงเวลา และทำให้นโยบายไม่เดินหน้า วันนี้จึงคาดหวังว่าจะมีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน โดยตรง และต้องการความชัดเจนในทุกด้าน และพอมีผลรับรองในแต่ละด้าน ก็ต้องมีมติรับรองมา ชัดเจนเป็นแนวทางแนวนโยบายให้เรา

"พร้อมอยู่ยาว และต้องมีหลักประกันที่ชัดเจน เบื้องต้น ต้องมีการรับรองมติ ครม. ออกมาให้เป็นแนวนโยบายที่ชัดเจน เราพร้อมจะอยู่ 1 ครม. 2 ครม. หลังจากนี้" พชร กล่าว และระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลมีการมาพูดคุยเพื่อหารือหาแนวทางแก้ไข ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนวันนี้ (3 ต.ค.)  

ตร.เจรจาให้ย้ายไปชุมนุมหน้า UN

เพจเฟซบุ๊ก "ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม" ได้รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมบริเวณเกาะกลางคู่ขนาน ประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทางผู้ชุมนุมเริ่มปักหลักค้างแรมตั้งแต่วานนี้ (2 ต.ค.) โดยวันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.50 น. ได้มีตำรวจ สน.ดุสิต เดินทางมาเจรจากับกลุ่มขบวนการพีมูฟ ให้ย้ายกลับไปปักหลักชุมนุมหน้าสำนักงานสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนินนอก ตามที่ได้มีการจดแจ้งขออนุญาตชุมนุมก่อนหน้านี้ ภายในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 3 ต.ค. 2566 และไม่ให้ลงมากีดขวางทางสัญจรของสาธารณะ 

นอกจากนี้ ทางตำรวจยังอ้างด้วยว่า ผู้ชุมนุมกระทำขัดกับประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบทำเนียบรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม จำนงค์ หนูพันธ์ สมาชิกพีมูฟ กล่าวว่า ได้มีการแจ้งกับ สน.นางเลิ้ง ว่าจะมีการชุมนุมที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ 16.00 น. 3 ต.ค. 2566 จนถึงเวลา 19.00 น. วันที่ 20 ต.ค. 2566

เฟจเฟซบุ๊ก "Friends Talk" รายงานวันนี้ (3 ต.ค.) สถานการณ์เมื่อเวลา 13.22 น. ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ผู้ชุมนุมยังคงปราศรัย และปักหลักหน้าทำเนียบรัฐบาล เผชิญหน้ากับแนวกั้นของตำรวจ


 

เมื่อเวลา 14.16 น. สุรเมธ น้อยอุบล ผู้สื่อข่าว สื่ออิสระ "Friends Talk" รายงานว่าทางแกนนำของการชุมนุมพีมูฟ กล่าวยืนยันว่าจะไม่มีการย้ายที่การชุมนุมไปที่อื่นๆ เพราะต้องการพบนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เท่านั้น ซึ่งต้องรอติดตามว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป 

นอกจากนี้ สุรเมธ กล่าวว่า กองกำลังควบคุมฝูงชน ปัจจุบันจะไม่ได้ใส่เครื่องแบบสีกรมท่า อีกต่อไปแล้ว แต่จะใส่ชุดเครื่องแต่งกายด้วยสีกากี โดยที่แขนจะติดสัญลักษณ์บ่งบอกสังกัดว่า "กองกำลังควบคุมฝูงชนตำรวจนครบาล" 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net