Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยสภาพความเป็นอยู่ของ “นารา เครปกะเทย” ที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาตัวตนและสภาพความเป็นหญิงเธอหลังจากถูกคุมขังในเรือนจำชายที่มีกฎเกณฑ์ที่บังคับให้ต้องทำสิ่งที่ขัดแย้งกับเพศสภาพของเธอ ทั้งการตัดผมสั้นเกรียน ห้ามเทคฮอร์โมนเพศหญิง

27 ก.ย. 2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำชายของ “นารา เครปกะเทย” หรือ อนิวัติ ประทุมถิ่น ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทกษัจริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีที่ถ่ายคลิป โฆษณาลาซาด้า 5.5 ร่วมกับหนูรัตน์และมัมดิวเมื่อปี 2565

ทั้งนี้คดีนี้นารามีทนายความของตัวเองให้ความช่วยเหลือทางคดี ไม่ได้เป็นคดีของศูนย์ทนายความฯ

นาราให้ข้อมูลกับศูนย์ทนายความฯ ถึงสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพของผู้ต้องขังที่เป็นผู้หญิงข้ามเพศที่ยังไม่ได้มีการผ่าตัดแปลงเพศและทำให้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำชายฝั่งผู้ต้องขังชาย ซึ่งนาราระบุว่ากฎเกณฑ์ในเรือนจำกดขี่และละเมิดตัวตนความเป็นผู้หญิงข้ามเพศอย่างเธอและเพื่อนผู้ต้องขังคนอื่นมาก ๆ เธอยกตัวอย่างเรื่องการต้องตัดผมทรงนักเรียน การห้ามเทคยาคุม และการห้ามใส่ยกทรงเพื่อปิดบังหน้าอก   

ศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าขณะนี้ นาราถูกตัดผมสั้นมากคล้ายทรงนักเรียนที่สั้นเกรียนทั้ง 3 ด้านเกือบขาว โดยประเด็นนี้นาราระบุว่าเคยขอให้ทางทนายความไปขอกับทางเรือนจำแล้วแต่เรือนจำยกระเบียบของราชทัณฑ์มาอ้างว่าต้องปฏิบัติตามทุกคนไม่มีข้อยกเว้น แต่นาราก็บอกว่ามีผู้ต้องขังอภิสิทธิ์ชนบางคนที่เป็นกลุ่ม ‘กลุ่มคนรวย’ สามารถไว้ผมยาวกว่าเพื่อนได้โดยเรือนจำจะอนุญาตให้ตัด ‘รองทรงสูง’ ได้ และบางเรือนจำอย่างเรือนจำ “คลองเปรม” ก็ยังอนุญาตให้ผู้ต้องขังข้ามเพศไว้ผมได้ยาวถึงระดับประบ่า

ทั้งนี้นาราระบุว่า พอถูกตัดผมสั้นเหมือนกันทุกคน ผู้ชายบางคนก็จะมาเล่นแรง ๆ กับเธอด้วย มาแกล้งตบหัวบ้าง พูดสรรพนามว่า ‘ไอ้’ บ้าง การมีผมยาวเหมือนผู้หญิง นาราบอกว่าเป็นสิ่งแสดงให้ผู้ชายได้หยุดคิดและให้เกียรติมากขึ้น เพราะบางคนไม่รู้จริง ๆ ว่าแต่ละคนเพศอะไรบ้าง เพราะทุกคนผมสั้น ใส่ชุดสีน้ำตาลเหมือนกันหมด นาราอยากให้ทุกคนให้เกียรติและเคารพความเป็นคนข้ามเพศบ้าง แค่นั้นก็พอแล้ว

นอกจากเรื่องทรงผมแล้ว การเข้าไปอยู่ในเรือนจำทำให้นาราไม่ได้รับฮาร์โมนเพศหญิง หรือ “ยาคุม” เนื่องจากเป็นสิ่ง “ต้องห้าม” ในเรือนจำชายแม้ว่าทางเรือนจำจะอนุญาตให้กับผู้หญิงข้ามเพศที่ “แปลงเพศ” แล้วโดยต้องมีใบรับรองแพทย์มาเท่านั้น แต่เธอที่มีหน้าอกแล้วหรือมีสรีระคล้ายผู้หญิงแล้วแต่ถ้ายังไม่แปลงเพศเรือนจำก็ไม่อนุญาตให้ทานฮอร์โมนเอสโตรเจนต่อไปเพื่อกดทับความเป็นชายไว้เพื่อคงสรีระและความเป็นผู้หญิงไว้

ในกรณีที่เป็นหญิงข้ามเพศที่ยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศไม่ได้มีการตัดอัณฑะออกจะยังมีการผลิตฮอร์โมนเพศชายตามธรรมชาติทุกวัน ทำให้มีหนวดกลับมาขึ้นหนาดกดำ และมีอารมณ์ทางเพศถี่ขึ้น เกิดมัดกล้ามเนื้อชัดขึ้น

นาราระบุด้วยว่าเธอที่ผ่าตัดหน้าอกมาแล้วแต่ไม่สามารถใส่ยกทรงได้ ต้องใส่แต่เสื้อผู้ต้องขังผ้าบางๆ สีน้ำตาลแค่ตัวเดียว จุกซิลิโคนสำหรับปิดหัวนมก็ไม่มีให้ใช้ จึงต้องคอยระวังในการก้ม เดิน วิ่งมาก แม้กระทั่งนั่งเฉยๆ ก็อาจจะโป๊ได้แล้ว

ทางศูนย์ทนายความฯ ระบุว่าเนื่องจากยกทรงที่มีโครงเหล็กข้างในเป็นสิ่งต้องห้ามในเรือนจำหญิงอยู่แล้วเพราะอาจถูกนำมาใช้ในการทำร้ายร่างกายกันเองได้ ทางเรือนจำมีการแจกเสื้อในแบบไม่มีโครงเหล็กให้ฟรี และบางทีก็แอบใช้สปอร์ตบลาได้ แต่เรื่องนี้ในทางฝั่งเรือนจำชายไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้ผู้ต้องขังที่เป็นหญิงข้ามเพศเลย

ศูนย์ทนายความฯ ยังระบุอีกว่าทุกวันนี้นารายังต้องใช้เครื่องสำอางค์เก่าที่เหลือจากผู้ต้องขังอื่นซึ่งเป็นเครื่องสำอางค์ของชมรม To be number One ที่ใช้สำหรับแต่งหน้าทำการแสดงหรือการแข่งขันในเรือนจำเช่น ร้องเพลง หรือกีฬาสี และทุกวันนี้เธอก็ต้องใช้สิ่งเหล่านี้อย่างประหยัดเฉพาะวันสำคัญเช่นวันที่ออกมาศาล ส่วนสีที่ใช้ทาเล็บก็เป็นเพียง ‘สีทาผนัง’ ที่เรือนจำใช้ทาซ่อมแซมพระพิฆเนศ เพื่อที่เธอยังคงความเป็นผู้หญิงของเธอ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net