Skip to main content
sharethis

คปท. ยื่นราชทัณฑ์ ชี้แจงอาการป่วย 'ทักษิณ' พร้อมให้หน่วยงานอื่นไปสังเกตการณ์ร่วม เตรียมยื่น ป.ป.ช.สอบการทำหน้าที่ เอื้อประโยชน์นักโทษ มองได้ลดโทษจาก 8 เป็น 1 ปี ก็มากพอแล้ว - เสื้อแดงปทุมธานี เตรียมยื่นหนังสือค้านกลุ่ม คปท. ขอตรวจสอบอาการป่วยทักษิณ

22 ก.ย. 2566 ที่กรมราชทัณฑ์ นายพิชิต ไชยมงคล และ นายนัสเซอร์ ยีหมะ แกนนำ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึง อธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอให้เปิดเผยกรณีการอนุญาตให้ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาตัวนอกเรือนจำ

โดยหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เรียกร้องให้เปิดเผย ข้อเท็จจริงให้สาธารณะทราบ ดังนี้

1.ให้ชี้แจง เปิดเผยอาการป่วยของ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ต้น 2 ช่วง คือ

1.1. อาการป่วยแรก ที่อนุญาตออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เพราะที่กรมราชทัณฑ์และแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ชี้แจงนั้นเป็นการอ้างการป่วยก่อนเดินทางเข้ามารับโทษที่เมืองไทย  ไม่ใช่การป่วยจากการต้องขังในเรือนจำที่อ้างการป่วยหนักจากอาการเดิมต้องใช้แพทย์เฉพาะทางรักษา แต่จากการเข้าเยี่ยมของญาติซึ่งเป็นลูกสาวผู้ต้องขัง อย่าง น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร กลับออกมาชี้แจงว่า น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ป่วยด้วยอาการเครียด และเพลีย เท่านั้น อาการดังกล่าวก็เป็นอาการปกติของผู้ต้องขังช่วงแรกที่จะเป็น ซึ่งสามารถดูแล และรักษาได้ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์

​​1.2. อาการผ่าตัดที่อ้างว่ามีการผ่าตัดใหญ่ นำมาสู่การอนุญาตให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำต่อไปอีกนั้น มีการผ่าตัดอะไร เพราะไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนจากทั้งแพทย์ที่รักษาและจากกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แตกต่างกับกรณีที่ ผู้ต้องขังเอกชัย หงส์กังวาน ที่แพทย์และกรมราชทัณฑ์สามารถอธิบายการป่วยและการรักษาได้อย่างเปิดเผยตามสิทธิ์ที่สามารถเปิดได้ การปกปิด ไม่ชี้แจงแก่สังคมเท่ากับเป็นการตอกย้ำว่า พวกท่านร่วมกันใช้ อำนาจ ตำแหน่ง หน้าที่ ไปในทางที่อาจจะนำมาซึ่งการเอื้อประโยชน์เป็นการเฉพาะแก่ ผู้ต้องขังรายใดรายหนึ่ง เท่ากับการกระทำผิดต่อหน้าที่ ในฐานะเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบให้เกิดความเท่าเทียม คปท.จะเฝ้าติดตามเรื่องนี้และพร้อมจะยื่นให้ ปปช.ได้ทำการตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่ของท่านอย่างถึงที่สุด

2. ขอให้อนุญาตให้หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน อื่นๆ /องค์กรด้านกฎหมาย ทนายความอื่น /กรรมาธิการสภา  เข้าไปสังเกตการณ์ป่วยของผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นสิ่งที่สากลได้ยึดปฏิบัติมา และราชทัณฑ์ไทยก็เคยยึดปฏิบัติให้องค์กรด้านสิทธิ์ได้เข้าไปเยี่ยมและสังเกตุการณ์ผู้ต้องขังในเรือนจำมาแล้ว

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่านายพิชิตกล่าวว่า ภายหลังที่ น.ช.ทักษิณได้อ้างสิทธิ์ในการเป็นผู้ป่วยและย้ายมารักษาตัวนอกเรือนจำตั้งแต่เมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้อนุญาตให้มีการรักษาตัวต่อเนื่องหลัง จากที่ผ่านไป 30 วัน โดยอ้างว่าเป็นความเห็นของคณะแพทย์ที่ระบุว่า มีการผ่าตัดใหญ่ของนักโทษ 

จนทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยว่า กระบวนการส่งตัวของ น.ช.ทักษิณ ไปรักษาตัวนอกเรือนจำเป็นการใช้อภิสิทธิ์โดยการอ้างระเบียบราชทัณฑ์ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้ต้องขังคนใดคนหนึ่งหรือไม่  

และการป่วยที่กล่าวอ้างไม่ใช่การป่วยที่เคยรักษาตัวจากต่างประเทศ เพราะเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย นายทักษิณมีอาการปกติ จึงไม่สามารถนำเอกสารการรักษาตัวจากต่างประเทศมาอ้างในการรักษาตัวนอกเรือนจำ อีกทั้งการผ่าตัดล่าสุด ก็มีความสงสัย เพราะไม่มีการชี้แจงรายละเอียดแก่สังคม จึงอยากเรียกร้องให้เปิดเผยข้อเท็จจริงให้สาธารณะทราบ 

ทางข้อมูลในส่วนของอาการป่วยแรกที่อนุญาตออกไปให้รักษาภายนอกเรือนจำ และการผ่าตัดใหญ่ครั้งล่าสุดการผ่าตัดอะไร เพราะไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนจากแพทย์และกรมราชทัณฑ์

ยังชี้แนะทางออกที่ดีที่สุดว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ต้องอนุญาตให้มีองค์กรอื่น และบุคคลภายนอกเข้าไปสังเกตการณ์เรื่องนี้

นายพิชิตยังบอกว่า ตนไม่เชื่อว่า นายทักษิณป่วยจริง และหากยังไม่ได้รับการชี้แจงอีก ทาง คปท.ก็จะเดินหน้าในการยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจะเฝ้าติดตามเรื่องนี้ พร้อมยื่นให้ ป.ป.ช.การตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอย่างถึงที่สุด 

ด้านนายนัสเซอร์ กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้ควรจะไปจบที่ทราบข้อเท็จจริงว่า น.ช.ทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่ เพราะหากป่วยจริง กระบวนจุดนี้ก็จะจบ แต่ปัญหาวันนี้คือยังไม่สามารถมีใครพิสูจน์และว่า น.ช.ทักษิณป่วยจริงหรือไม่ ย้ำว่า การป่วยเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อการนอนนอกเรือนจำ เพราะ น.ช.ทักษิณ เป็นนักโทษ ไม่ใช่อดีตนายกฯ ธรรมดา ซึ่งหากเป็นนักโทษ และไม่ได้ป่วย ต้องกลับไปนอนคุก ย้ำว่านายทักษิณอย่ามาใช้อภิสิทธิ์เพราะการลดโทษจาก 8 ปีเหลือ 1 ปีก็ถือว่ามากพอแล้ว

เสื้อแดงปทุมธานี เตรียมยื่นหนังสือค้านกลุ่ม คปท. ขอตรวจสอบอาการป่วย ทักษิณ

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่าวันนี้ (22 ก.ย.) ที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดงปทุมธานี ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดกลางลาดสวาย ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี กลุ่มคนเสื้อแดงปทุมธานี นำโดยนายศรรัก มาลัยทอง นาวาอากาศเอกนิพล สำเภาทอง อดีตทหารอากาศ นายสมศักดิ์ ล้อเพชรรุ่งเรือง ได้ออกมาตอบโต้เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กรณีกลุ่ม คปท.ได้ไปยื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อให้แถลงถึงอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร ที่รักษาตัวอยู่ รพ.ตำรวจ พร้อมกับเปิดเผยรายชื่อแพทย์ที่รักษานั้น

โดยนายศรรัก มาลัยทอง แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้ทางมวลชนคนเสื้อแดง ได้กล่าวว่า การที่กลุ่ม คปท.ไปยื่นเรื่องดังกล่าวนั้น เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งท่านทักษิณ ท่านไม่ได้มีความผิด แต่ท่านถูกรัฐประหาร กลุ่มที่เป็นปรปักษ์กับท่านก็พยายามยัดเยียดความผิดให้กับท่านมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาท่านก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมาอย่างมากมาย จึงอยากถามว่ากลุ่ม คปท.ที่ผ่านมาทำอะไรมาบ้าง

ในขณะที่ในตอนนี้ทุกกลุ่มเขาได้เข้าสู่หมวดการปรองดอง เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งทำให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าจะมีดำเนินการยุติปัญหาด้านคดีความของทุกสีทุกกลุ่มเพื่อนำพี่น้องทุกสีออกมาจากเรือนจำเป็นอันดับแรก เพื่อประเทศชาติจะได้มีความสมัครสามัคคีกัน 

ทั้งนี้ทางกลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านแก่กระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องที่กลุ่ม คปท.ไปยื่นขอให้เผยอาการของท่านทักษิณ และแพทย์ที่รักษาท่าน เพื่อให้กลุ่ม คปท.ยุติเรื่องดังกล่าวที่จะลามไปถึงความขัดแย้งอีกครั้งต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net