Skip to main content
sharethis
  • 'เศรษฐา' แจงปม 'ชูวิทย์' อ้างใช้นอมินี แม่บ้าน รปภ. ถือหุ้น ซื้อที่ดินแปลงสุขุมวิท 55 ลั่นการกระทำใดๆ ที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริง ฝ่ายกฎหมายจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด
  • ด้าน 'ชูวิทย์' ฟ้อง 'เศรษฐา' และทนายวิญญัติ ใน 3 ข้อหา เตรียมนำหลักฐานให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ เพื่อเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดและทุกคนมาสอบ
  • ขณะที่ 'แสนสิริ' ชี้แจงเพิ่มเติม ยันบุคคลที่ 'ชูวิทย์' กล่าวอ้างไม่ใช่นอมินี 

16 ส.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 7.00 น. เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin' ถึงกรณี ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แถลงข่าวเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินแปลง สุขุมวิท 55 ที่ปัจจุบันคือโครงการ คุณ บาย ยู และทางบริษัท แสนสิริ (จำกัด) มหาชน ได้ออกแถลงการณ์ข้อเท็จจริงแล้วนั้น ว่า ตนอดีตเคยบริหารแสนสิริมากว่า 30 ปี บริษัทฯ ผ่านวิกฤตมาหลายครั้ง โดยที่ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจนเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของประเทศ เติบโตมาจนมีทรัพย์สินรวมเกือบ 130,000 ล้านบาท และมีกำไรมากกว่า 4,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับ เชื่อถือ จากทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น และสังคมทั่วไป น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ระดับหนึ่งว่าบริษัทแสนสิริได้ถูกบริหารอย่างมีธรรมาภิบาล

การตรวจสอบจากทุกฝ่ายนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และพร้อมให้ตรวจสอบ แต่การตรวจสอบจะต้องสร้างสรรค์ และทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ มีข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และไม่บิดเบือน หรือนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหารบริษัทฯ ที่ดินแปลงสารสินซื้อมาตามราคาตลาดที่เหมาะสม ส่วนที่ดินแปลงทองหล่อซื้อมาในราคา ตารางวาละ 1,100,000 บาท ซึ่งเป็นราคาตลาดตามปกติในขณะนั้น

"การกระทำใดๆ ที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริง ฝ่ายกฎหมายจะรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุดอย่างแน่นอน การที่ฝ่ายกฎหมายของบ้านเมืองเข้ามาตรวจสอบ เป็นเรื่องที่ถูกต้องและพึงกระทำ แต่การที่บุคคลหนึ่งปลุกปั่น ตั้งสมมติฐานขึ้นมาเอง โดยมีเป้าหมายบางประการ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง" แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ระบุ

'ชูวิทย์' ฟ้อง 'เศรษฐา' และทนายวิญญัติ ใน 3 ข้อหา เตรียมนำหลักฐานให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ เพื่อเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดและทุกคนมาสอบ

สำนักข่าวไทย รายงานความเคลื่อนไหวของ ชูวิทย์ วันนี้ ว่า ชูวิทย์ เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา เพื่อยื่นคำฟ้องเอาผิด เศรษฐา และวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ในข้อหาฟ้องเท็จ หมิ่นประมาท และละเมิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมเรียกค่าเสียหาย 9 หมื่นบาท ในกรณีที่เศรษฐา ส่งวิญญัติ มายื่นฟ้องตนเองที่ศาลอาญา เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กล่าวหากรณีหลีกเลี่ยงภาษีซื้อที่ดินย่านถนนสารสิน และขอให้ลบข้อความวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับการแสดงข้อมูลในครั้งนั้น และเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท

ชูวิทย์ กล่าวว่าการที่ตนเองมายื่นฟ้องเศรษฐา และวิญญัติ เพื่อให้ความจริงปรากฏต่อหน้าศาล เมื่อฟ้องมาตนเองก็จะฟ้องกลับ เพราะเมื่อเศรษฐา ลงชื่อจะเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี และในฐานนะตนเองเป็นประชาชนก็มีสิทธิ์ตรวจสอบได้ทุกประการ ทั้งเรื่องที่ดินสารสิน 12 คน โอน 12 วัน ที่ดินที่ทองหล่อซอย 12 ล่าสุดที่ตนแฉไป

ชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า อย่าคิดว่าตนเองจะกลัว เพราะตนเองจะไปยื่นฟ้องที่สภาทนายความให้ตรวจสอบมรรยาททนายความของวิญญัติ ในกรณีที่เปิดเผย พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งตนมองว่า วิญญัติ อาจจะเล่นการเมืองเกินไปจนไม่รู้ข้อกฎหมาย

ส่วนเงินที่ตนเองเรียกไปจำนวนเพียง 9 หมื่นบาท นั้นมาจากจำนวนเงินวันละ 1 หมื่นบาท นับตั้งแต่ที่ วิญญัติ มายื่นฟ้องตนเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 15 ส.ค. จำนวน 9 วัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองไม่ได้อยากได้เงิน แต่ต้องการเพียงข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่ทางฝั่งเศรษฐา กลับเรียกเงินจากตนเองจำนวนถึง 500 ล้านบาท และชูวิทย์ ยังมั่นใจว่าการยื่นฟ้องในครั้งนี้ศาลจะรับคำฟ้องแน่นอนเพราะหลักฐานที่มีมันชัดเจน อีกทั้งที่ผ่านมาตนเองเคยฟ้อง ทนายษิทรา และ สันธนะ มาแล้ว ซึ่งศาลท่านก็รับฟ้องทั้งหมด

ขณะพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) เวลา 10.00 น. ชูวิทย์ จะเดินทางไป พบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำข้อมูลหลักฐานไปให้และต้องการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งตัวละครที่เป็นแม่บ้าน เป็น รปภ. เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และหน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และนอมีนีทุกคนมาสอบปากคำ เพื่อให้ความจริงกระจ่าง เพราะถือว่าพฤติกรรมของเศรษฐา เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจรูปแบบหนึ่ง และเชื่อว่าพฤติกรรมร้ายกาจแบบนี้ถ้าไม่ใช่ผมก็คงไม่มีใครกล้าออกมาแฉ และจากนั้นก็จะเดินทางไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้สอบสวน บริษัท แสนสิริ ว่ามีการทำสัญญาซื้อขาย กู้ รวมถึงรายรับรายจ่ายทั้งหมดของบริษัท เพราะก็ถือว่าตนเองก็เป็น 1 ในผู้เสียหาย เนื่องจากตนเองก็ถือหุ้นแสนสิริ เช่นกัน จำนวน 2 หมื่นหุ้น ซึ่งตนเองก็ถือหุ้นมานานแล้ว เพราะหุ้นแสนสิริก็อยู่ในตลาดหลักทรัพย์

'แสนสิริ' ชี้แจงบุคคลที่ 'ชูวิทย์' กล่าวอ้างไม่ใช่นอมินี 

ด้าน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ เมื่อเวลา 17.45 น. ที่ผ่านมา มีเนื้อหาว่า โครงการคุณ บาย ยู จากคำพูดบิดเบือนกล่าวอ้างของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เรื่องนอมินี

  • บริษัท แสนสิริ ยืนยันว่า บุคคลที่กล่าวอ้าง ได้แก่ คุณพินิช คำยศ,คุณพีระพงษ์ ทานรัมย์,คุณสมศักดิ์ มติยาภักดิ์ และคุณยงยุทธ์ ประกิ่ง ไม่ใช่นอมินี และ/หรือตัวแทนของบริษัท แสนสิริ บริษัทในเครือของแสนสิริ กรรมการ หรือ ผู้บริหารแต่อย่างใด บุคคลดังกล่าวเป็นคนของบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตั้งแต่ปี 2551
  • ทั้งนี้ แสนสิริ ซื้อ และโอนที่ดินแปลงนี้โดยตรงจากบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ใช่การซื้อผ่านตัวกลาง หรือ รับโอนหุ้น ตามที่เป็นข่าว
  • และแสนสิริไม่เคยให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ขายแต่อย่างใด การจดจำนองเป็นการจำนองเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายของผู้ขาย ซึ่งวงเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่ครอบคลุมราคาที่ดิน และค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้น อันเนื่องมาจาการไม่ปฏิบัติตามสัญญาของผู้ขาย อย่างไรก็ตาม แสนสิริชำระเงินค่าที่ดินให้แก่ บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ครบถ้วน และได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามสัญญาเรียบร้อย ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net