'กัณวีร์’ ย้ำ ไม่โหวตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย หากมีพรรค 2 ลุงร่วมรัฐบาล แม้เป็นเพียงเสียงเดียวที่ต้องเป็นฝ่ายค้านก็ไม่ลังเล ย้ำเดินหน้าสันติภาพกินได้ และปรับยุทธศาสตร์เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะที่พรรคเป็นธรรมยุติบทบาทกับปาตานีบารูแล้ว และเริ่มทำงานกับทีมใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้และขยายไปทั่วประเทศ

13 ส.ค. 2566 พรรคเป็นธรรมแจ้งข่าวว่ามีการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 2 /2556 เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคในตำแหน่งที่ว่างลง และปรับยุทธศาสตร์เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า

นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ เปิดเผยถึงจุดยืนในการเลือกนายกรัฐมนตรี หลังจากพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวบรวมเสียงข้างมาก ที่อาจจะมีพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าร่วมรัฐบาล ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า พรรคเป็นธรรม จะโหวตให้นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่

นายกัณวีร์ ยืนยันว่า พรรคเป็นธรรมมีอุดมการณ์ชัดเจนที่เชื่อมั่นว่า การสถาปนาอำนาจรัฐต้องมาจากมติมหาชน การพยายามให้พรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 ไปเป็นฝ่ายค้าน เป็นรูปแบบที่บิดเบี้ยว การให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน จึงเป็นการทำให้ระบอบประชาธิปไตยบิดเบี้ยว ดังนั้น 1 เสียงของพรรคเป็นธรรม จึงชัดเจนว่า หากมีพรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาล จะไม่เลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ไม่ส่งเสริมการสืบทอดอำนาจ ซึ่งหากพรรคก้าวไกลจะตัดสินใจร่วมโหวตให้พรรคเพื่อไทยก็เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกล แต่พรรคเป็นธรรมจะไม่โหวตให้อย่างแน่นอน แม้จะกลายเป็นเสียงเดียวในสภาฯ ก็ตาม

"1 เสียงของพรรคเป็นธรรม เราตัดสินใจว่ายืนยันอุดมการณ์ ถ้ามีพรรคลุงเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาล และหากพรรคก้าวไกลจะโหวตให้นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พรรคเป็นธรรม ยืนยันว่าพร้อมเป็นเสียงเดียวในสภาฯ ที่ไม่โหวตให้พรรคเพื่อไทย เราจะค้านให้เต็มที่ และพร้อมจะเป็นฝ่ายค้านเสียงเดียวในสภาฯ ถ้ามี 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาล"

ขณะที่นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรค ยืนยันว่าเป็นไปตามอุดมการณ์ของพรรค และ สส.เพราะที่ผ่านมาพรรคเป็นธรรมได้สนับสนุนให้พรรคการเมืองพรรคอันดับ 1 เป็นผู้บริหารประเทศเป็นหลัก หากไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ก็ให้พรรคอันดับ 2 ซึ่งหากผิดจากนี้ ก็ไม่ร่วมด้วย รวมถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ไปจับมือกับพรรคอื่น ๆ โดยไม่มีพรรคอันดับ 1 ก็ไม่เห็นด้วย

นายกัณวีร์ เปิดเผยว่า พรรคเป็นธรรมเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า แม้จะเพิ่งจบการเลือกตั้งไป แต่จากการสนับสนุนของประชาชน จึงต้องสร้างความพร้อมจะเป็นพรรคที่ต่อสู้ในระดับชาติให้ได้ จะไม่ใช่พรรคพื้นที่ แต่จะปรับโครงสร้าง ข้อบังคับพรรค ทำให้พรรคเป็นธรรมมีประสิทธิภาพ ทำงานการเมือง เชิงยุทธศาสตร์มากขึ้น ซึ่งทีมเก่าในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ปาตานีบารู ได้ยุติบทบาทกับพรรคเป็นธรรมแล้ว โดยมีทีมใหม่เข้ามาทำงานทั้งหมด รวมถึงการทำงานของสาขาพรรค ก็ได้ตั้งสาขาใหม่ที่ จ.นราธิวาส มีนายฮาฟิส ยะโก๊ะ อดีตผู้สมัคร สส.จ.นราธิวาส พรรคเป็นธรรม มาเป็นหัวหน้าสาขา

"ทีมเก่ายุติบทบาทเราจะสร้างทีมใหม่ทั้งหมด พรรคเราเป็นพรรคใหม่ การเตรียมพร้อมเตรียมงานการเมือง เราเน้นตรงนั้น เรามีเวลาเพิ่มมากขึ้น ผมยืนยันว่าครั้งต่อไปการทำงานของพรรคเป็นธรรมจะขยายบทบาทในพื้นที่อื่นด้วย และยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ปาตานี ที่มีนโยบายสันติภาพปาตานี สันติภาพที่ยั่งยืน โดยเฉพาะสันติภาพกินได้ที่ใช้ได้ทุกพื้นที่ เพราะเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราใช้กลไกนิติบัญญัติ ในการผลักดันสร้างสันติภาพที่แท้ทริง"

นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า แม้ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านแต่จะใช้กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติผลักดันทุกนโยบายของพรรคเป็นธรรมให้เกิดขึ้นจริง และยังมีความหวังว่า รัฐบาลของประชาชนจะกลับมา เราอาจจะไม่ได้เป็นฝ่ายค้านอย่างที่กำลังมีความพยายามทำให้ประชาธิปไตยบิดเบี้ยวอยู่ก็ได้

ขณะที่นายปิติพงศ์ เปิดเผยว่า พรรคเป็นธรรม ไม่ส่งผู้สมัคร สส.ในการเลือกต้ังซ่อม สส.จ.ระยอง เพราะให้เกียรติ พรรรคก้าวไกลที่เป็นเจ้าของพื้นที่ได้ส่งผู้สมัคร โดยพรรคเป็นธรรมจะเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าที่คาดหวังจะให้มี สส.มากขึ้นด้วย