Skip to main content
sharethis

ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ยื่นหนังสือถึง ส.ว. เรียงร้องให้สอบจริยธรรม ส.ว. คนใดที่โหวตเลือก 'พิธา' เป็นนายกฯ เท่ากับเป็นการสนับสนุน สมรู้ร่วมคิด กับบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันกษัตริย์หรือไม่ และเหมาะสมที่จะครองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรือไม่

 

13 ก.ค. 2566 ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ยื่นหนังสือถึงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เรียงร้องให้สอบจริยธรรม ส.ว. คนใดที่โหวตเลือก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ระบุ พิธาและพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่เป็นปฏิปักษ์ปรปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิเช่น การยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112,  นำกฎหมายอาญา มาตรา 112 ออกจากหมวดความมั่นคง หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งล้วนเป็นการลดทอนพระราชอำนาจของสถาบันกษัตริย์อันเป็นการล้มล้างการปกครอง

ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)

วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๖

เรื่อง สอบจริยธรรม ส.ว. สมรู้ร่วมคิดกระทำการขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันทุกองค์กรในเรื่อง การล้มล้างการปกครอง

เรียน สมาชิกวุฒิสภา

 

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญชี้ชุมนุม 10 ส.ค. 2563 เป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่มีผลผูกพันทุกองค์กรในเรื่องการล้มล้างการปกครอง การเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วย "พระราชฐานะ" ของพระมหากษัตริย์ที่ทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและอยู่เหนือความรับผิดชอบทางการเมือง ตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ว่า พระมหากษัตริย์ทรงกระทำผิดมิได้ และให้มีการยกเลิกกฎหมายที่ห้ามเข้าไปล่วงละเมิด หมิ่นประมาท หมิ่นพระบรมเดชนุภาพสถาบันพระมหากษัตริย์ จะส่งผลกระทบต่อ "สถานะ" ของสถาบันฯ และนำไปสู่การบ่อนทำลายการปกครองในที่สุด การแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายดังกล่าว จะส่งผลให้สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ อยู่ในสถานะที่เคารพสักการะอันนำไปสู่การสร้างความปั่นป่วนและกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพที่เกินความพอเหมาะเกินควร โดยมีผลทำให้กระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และจะนำไปสู่การบ่อนทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด

ดังนั้นการที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ท่านใดที่โหวตให้กับพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี นั่นเท่ากับเป็นการสมรู้ร่วมคิดกระทำการขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่เป็นปฏิปักษ์ปรปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 นำกฎหมายอาญา มาตรา 112 ออกจากหมวดความมั่นคง เปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะหมวด 1 และหมวด 2 เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นการลดทอนพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์และหรือล้มล้างการปกครองนั่นเอง

อนึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ก่อนเข้ารับหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้ “ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ ชื่อสัตย์สุจริตเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ดังนั้นการที่สมาชิกวุฒิสภาท่านใดที่โหวตให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั่นเท่ากับว่าเป็นการสนับสนุนและหรือสมรู้ร่วมคิดกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ และเหมาะสมหรือไม่ที่จะครองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ดังนั้นทางศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) จึงอยากเห็นความสง่างามของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งถือว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในสภาสูงของรัฐสภาอันทรงเกียรติของไทยคงรักษาเกียรตินั้นด้วยชีวิต ดั่งคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ด้วยถ้อยคำที่ว่า "ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ"

 

จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณา

 

ลงชื่อ (นายอานนท์ กลิ่นแก้ว)

ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ผู้ร้อง

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net