Skip to main content
sharethis

3 ส.ว. ‘อำพล-วันชัย-ประภาศรี’ ย้ำจุดยืนเดิม โหวต ‘พิธา’ ขณะที่ ส.ว. บางส่วนเริ่มกลับลำ อ้างเรื่อง ม.112

3 ส.ว. ย้ำจุดยืนเดิม โหวตนายกฯ ตามเสียงข้างมาก

ส.ว. ประภาศรี ไม่ติดใจเรื่อง ม. 112 หรือหุ้นไอทีวี

ประภาศรี สุฉันทบุตร ที่เคยโพสต์ข้อความว่าสนับสนุนพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังสนับสนุนพิธาเป็นนายกฯเช่นเดิม เนื่องจากจะโหวตให้พรรคเสียงข้างมาก หากพิธาไม่ได้รับเลือกเป็นนายกฯ แล้วพรรคอันดับ 2 เสนอแคนดิเดตเป็นนายกฯก็จะเลือกนายกฯ จากพรรคอันดับ 2 แต่หากยังไม่ได้รับเลือกอีก แล้วพรรคเสียงข้างน้อยเสนอตัวเป็นนายกฯ ตนจะไม่เลือก

เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ติดใจในเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลนั้น ประภาศรีกล่าวว่า เรื่องมาตรา 112 หรือเรื่องหุ้นไอทีวีเป็นเรื่องขององค์กรที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา ส.ว. ไม่มีหน้าที่ไปตัดสินเรื่องเหล่านี้

ส.ว. วันชัย ย้ำโหวตนายกฯ ตามเสียงข้างมาก

วันชัย สอนศิริ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 7 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนก็โหวตให้ในหลักการเดิม ที่เคยประกาศไว้ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้งว่าใครรวมเสียง ส.ส.ได้เกินกว่ากึ่งหนึ่ง ก็จะเลือกพรรคนั้นคนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี อันเป็นไปตามหลักประชาธิปไตยและความต้องการของประชาชน ทั้งเพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ และถือหลักว่า "คนโกหกแล้ว ไม่ทำชั่วไม่มี" พูดแล้วคำไหนคำนั้น ไม่เช่นนั้นเราจะเป็นคนตระบัดสัตย์ทั้งต่อตัวเองและคนอื่น

ส.ว. อำพล ชี้ปิดสวิตช์เท่ากับขัดมติมหาชน

อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กถึงการนัดประชุมร่วมรัฐสภา ในวันพฤหัสที่ 13 ก.ค. ที่จะถึงนี้ ที่จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีระบุว่า 

“ผมเตรียมโหวตให้คนที่พรรคการเมืองรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนฯ เสนอชื่อ เพื่อให้เข้าไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากบริหารประเทศต่อไป ใช้เหตุผลเดียวกันกับที่เคยใช้ตอนโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเมื่อปี 62 จะกลับกลิ้งเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ประวัติศาสตร์จะจารึกและบันทึกไว้ครับ ที่จริงตนก็ไม่อยากใช้อำนาจตามบทเฉพาะกาล ม.272 นี้

แต่เมื่อหน้าที่นี้ยังมีอยู่ ก็จำเป็นต้องทำหน้าที่ต่อไป เพื่อให้กลไกและกติกาตามรัฐธรรมนูญ ที่ใช้อยู่เดินหน้าไปได้ โดยจะทำหน้าที่แบบ “ไม่ตั้งตนเป็นใหญ่” ไม่หาเหตุผลใดๆ มาอ้างเพื่อขวางเสียงประชาชน

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีความพยายามเสนอแก้ไขหน้าที่และอำนาจนี้ หรือที่เรียกว่า “ปิดสวิตช์ ส.ว.” ด้วยมองว่า ส.ว. ไม่ควรมีหน้าที่และอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยที่แท้จริง ควรเป็นหน้าที่และอำนาจของ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงเท่านั้นซึ่งผมเห็นด้วย

ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการขอแก้ไข ตนจึงโหวตเห็นด้วยให้ปิดสวิตช์ ส.ว. แต่เสียง ส.ว. เห็นด้วยไม่ถึง 1 ใน 3 (ไม่ถึง 84 เสียง) คือเสียง ส.ว. ส่วนใหญ่ยังไม่ต้องการให้ปิดสวิตช์ มาตรา 272 จึงยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ (=สวิตช์ยังเปิดอยู่) ถ้าจะอ้างปิดสวิตช์ตอนนี้ ก็จะเท่ากับอ้างเพื่อไม่ทำหน้าที่ และกลายเป็นการขัดขาคนที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี

ส.ว. บางส่วนเริ่มกลับลำ อ้างเรื่อง ม.112

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ประชาไท รวบรวมท่าที่มีแนวโน้มสนับสนุนพิธาและแสดงออกขณะนั้นได้ 22 คน 

แต่หลังจากพรรคก้าวไกลยังยืนยันมีนโยบายเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อสภาผู้แทนราษฎร ทำให้เสียง ส.ว.หลายคนที่เคยระบุพร้อมจะสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ เกิดความลังเล พร้อมกลับลำไม่โหวตสนับสนุนพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี

ฉลิมชัย เฟื่องคอน 

6 ก.ค.66 มติชนออนไลน์ รายงานว่า เฉลิมชัย เฟื่องคอน ส.ว. กล่าวว่า ตอนนี้ตนเปลี่ยนใจ จะไม่โหวตให้พิธาแล้ว หลังจากพิจารณานโยบายมาตรา 112 ทำให้รู้สึกว่าโหวตให้ไม่ได้ แต่ถ้าพิธา ยอมยกเลิกก็พร้อมยกมือให้

ขณะที่ก่อนหน้านั้น 11 พ.ค. 66 เฉลิมชัย กล่าวในเวทีเสวนาในหัวข้อ ‘สมาชิกวุฒิสภาในฐานะหุ้นส่วนประชาธิปไตย’ ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า ตนจะพิจารณาเลือกนายกฯ โดยจะเอาพรรคการเมืองที่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ คือ 251 เสียงขึ้นไปเป็นหลัก

ทรงเดช เสมอคำ

วันที่ 6 ก.ค.เช่นกัน มติชนออนไลน์ รายงานว่า ทรงเดช เสมอคำ ส.ว. เป็นอีกคนที่กลับลำ โดยกล่าวว่า เดิมเคยมีหลักการโหวตให้พรรคการเมืองที่รวบรวมเสียง ส.ส. ข้างมากได้เกิน 250 เสียงเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าพิธา ยังมีจุดยืนแก้ไขมาตรา 112 ก็ไม่สามารถโหวตให้เป็นนายกฯ ได้ เพราะมาตรา 112 แตะต้องไม่ได้ ไม่ว่าจะยกเลิกหรือแก้ไข ดังนั้น ถ้าพรรคก้าวไกลยังมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ก็จะไม่โหวตให้พิธาเป็นนายกฯ จะต้องยกเลิกการแก้ไขมาตรา 112 เท่านั้น ค่อยมาว่ากัน

ทั้งที่เมื่อ 17 พ.ค. 66 คมชัดลึก รายงานว่า สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ทรงเดช ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน จ.สุโขทัย พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคก้าวไกล

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net