ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วย ยกเลิกโครงการประชุมวิชาการสังคมศาสตร์ ม.นเรศวร เหตุดราม่า ‘เพนกวิน’ ร่วมเวที ด้านนิสิต ม.นเรศวร แถลงเปิดผนึกประณามการยกเลิกโครงการประชุมวิชาการ ย้ำ ม.นเรศวร ต้องมีเสรีภาพทางวิชาการ
5 มิ.ย. 2566 เว็บไซต์ Lanner รายงานว่าสืบเนื่องจากการยกเลิกโครงการประชุมวิชาการ ครบรอบ 55 ปี ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการวิพากษ์วิจารณ์การเชิญ ‘เพนกวิน’ พริษฐ์ ชิวารักษ์ มาร่วมการประชุมในฐานะนักวิชาการอิสระ โดยผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ชี้ว่าไม่เหมาะสมหรือไม่ที่จะถือว่า ‘เพนกวิน’ เป็นนักวิชาการทั้งที่มีคดีติดตัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยวันนี้ (5 มิ.ย.) ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เผยแพร่แถลงการณ์แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อคำแถลงการณ์ของ ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรที่ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ‘เกรงว่าจะมีเหตุขัดแย้งเกิดขึ้นในอนาคต’ พร้อมทั้งชี้ว่านี่เป็นการปิดโอกาสของนิสิต-นักศึกษา และเป็นการปิดกั้นความเจริญก้าวหน้าของวงการวิชาการประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
แถลงการณ์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่อง การยกเลิกการจัดโครงการประชุมวิซาการ ในวาระครบรอบ 55 ปี ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จากกรณีการยกเลิกการจัดโครงการประชุมวิชาการฯ อันเนื่องมาจากกระแสต่อต้านการเชิญหนึ่งในนักกิจกรรมทางการเมืองเพื่อเป็นองค์ปาฐกในโครงการประชุมวิชาการฯ ตามคำชี้แจงของภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร วันที่ 4 มิถุนายน 2566 นั้นภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความเห็นร่วมกันว่าการจัดการประชุมวิชาการครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับนิสิต-นักศึกษาประวัติศาสตร์ ระดับปริญญาตรี ในการแสดงความสามารถทางวิชาการผ่นการนำเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนความรู้กับนิสิต-นักศึกษาและคณาจารย์จากต่างสถาบัน อันจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการผลิตงานวิจัยทางประวัติศาสตร์ในประเทศไทยต่อไปในภายหน้าการยกเลิกการจัดโครงการด้วยเหตุผลดังกล่าวอย่างกะทันหันจึงไม่เพียงแต่จะเป็นการปิดโอกาสสำหรับนิสิต-นักศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นการปิดกั้นความเจริญก้าวหน้าของวงการวิชาการประวัติศาสตร์ในประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ ความเห็นต่างย่อมเป็นเรื่องปรกตีในสังคมประชาธิปไตย และประชาชนทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นของตนได้อย่างเต็มที่ตราบเท่าที่ความคิดเห็นนั้นไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุคคลอื่น และสามารถจัดเวทีสาธารณะเพื่อทำเสนอความคิดเห็นของท่านคู่ขนานไปด้วยได้ จึงไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องปิดกั้นความเห็นต่างตราบเท่าที่ท่านยังยึดมั่นในหลักการสังคมประชาธิปไตยเช่นกัน การฝืนรั้งไม่ให้มีการรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ในห้วงเวลาที่สังคมไทยเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทุกมิติและทุกระดับเช่นนี้ ไม่ส่งเสริมปัจจัยเชิงบวกต่อการสร้างสังคมประชธิปไตยที่เราและท่านใฝ่ฝันแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงขอแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการแทรกแซงการบริหารจัดการโครงการฯ ที่ขัดต่อเสรีภาพทางวิชาการของอาจารย์และนิสิต-นักศึกษา และยืนยันให้การสนับสนุนภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ในการจัดโครงการประชุมวิชาการฯ โดยมี นายพริษฐ์ ชิวารักษ์เป็นองค์ปาฐกต่อไป ภาควิชาประวัติศาสตร์ |
นิสิต ม.นเรศวร แถลงเปิดผนึกประณามการยกเลิกโครงการประชุมวิชาการ ย้ำม.นเรศวร ต้องมีเสรีภาพทางวิชาการ
นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวจากทางด้านมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยนิสิตจากพรรคเพื่อนนเรศวร หรือ Puean Naresuan Party ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกประณามการยกเลิกโครงการประชุมวิชาการดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมชี้ว่าสิ่งที่สถาบันการศึกษาควรทำ ไม่ใช่การยกเลิกการจัดงาน แต่เป็นการทำให้สังคมตระหนักถึงความหลากหลายทางความคิด และสร้างสังคมที่ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้ ทั้งภายนอกและภายในมหาวิทยาลัย
‘สิ่งที่สำคัญที่สุดที่สถาบันการศึกษาควรจะทำ ไม่ใช่การยกเลิกการจัดงาน แต่เป็นการทำให้สังคมตระหนักถึงความหลากหลายทางความคิด การสร้างสังคมที่ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ทั้งในมหาวิทยาลัยและสังคมภายนอก ดังนั้น ความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งจนเป็นเหตุให้ยกเลิกงาน จึงเป็นความไม่ใส่ใจต่อเสรีภาพทางวิชาการ อันเป็นหลักการพื้นฐานของกระบวนการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย หากหลักการพื้นฐานเพียงเท่านี้ถูกลิดรอด เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า มหาวิทยาลัยนเรศวรแห่งนี้ได้มอบเสรีภาพทางความรู้ให้แก่พวกเราอย่างแท้จริง’ ข้อความส่วนหนึ่งจากแถลงการณ์ของพรรคเพื่อนนเรศวร
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)