ทรูวิชั่นตัดสัญญาณภาพรายการข่าวบีบีซีชิ้นสัมภาษณ์ "ทิม พิธา" เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งและกระแสต่างๆ ที่มีต่อพรรค ก่อนหน้านี้บริษัทก็เคยทำมาแล้วหลายครั้งกับข่าวที่เกี่ยวกับการเมืองไทยและบริษัทยังเคยเปิดรับสมัครตำแหน่งเซ็นเซอร์ข่าวต่างประเทศ 

ทรูวิชั่นส์ เมื่อไหร่จะเลิกถือวิสาสะบล็อคข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศเกี่ยวกับเมืองไทยนะ? ก่อนหน้านี้ CNN ABC ก็โดน เช้านี้เซ็นเซอร์บีบีซีสัมภาษณ์พิธา | Here is what’s being shown on screen during @BBCWorld’s segment that features @pakhead interviewing @Pita_MFP from @MFPThailand: pic.twitter.com/daUyvdBvWY

— Thanyarat Doksone (@8td) May 30, 2023

30 พ.ค.2566 ธัญญารัตน์ ดอกสน นักข่าวจากสำนักข่าวบีบีซี ทวีตลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุว่าช่วงเช้าวันนี้ช่องทรูวิชั่นตัดสัญญาณภาพรายการของสำนักข่าวบีบีซีช่วงที่มีการสัมภาษณ์พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยทางช่องขึ้นข้อความ "Program will resume shortly" (รายการจะกลับมาฉายในไม่ช้า)

เนื้อหาบางส่วนของการสัมภาษณ์ที่สำนักข่าวบีบีซีตัดนำมาเผยแพร่บนเว็บไซต์ของสำนักข่าวภาคภาษาอังกฤษ

ทั้งนี้เนื้อหาที่ปรากฏในการสัมภาษณ์ระหว่างโจนาธาน เฮด นักข่าวจากบีบีซี และพิธา เป็นเรื่องหลังการเลือกการเลือกตั้งที่ผ่านมา รวมถึงมีคำถามที่เกี่ยวกับนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เป็นข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์แต่ถูกกระแสต่อต้านและ ส.ว.ก็แสดงท่าทีขัดขวางเหตุใดพรรคจึงไม่ยุติการผลักดันเรื่องนี้

พิธาตอบคำถามเรื่องนี้ว่าเป็นนโยบายที่พรรคให้สัญญาไว้กับประชาชนและจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนก็ยังลงคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลเป็นจำนวนถึง 14 ล้านเสียงอีกด้วย

ที่ผ่านมา เมื่อ 25 เม.ย.2563 บริษัททรูเคยประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งเซ็นเซอร์ข่าวต่างประเทศเป็นการเฉพาะ โดยระบุเนื้องานที่เจ้าหน้าที่ในตำแหน่งนี้ต้องทำคือการตรวจสอบสื่อต่างๆ เพื่อตัดส่วนที่ไม่เหมาะสมออก และ 2. ปฏิบัติงานควบคุมการออกอากาศรายการช่องข่าวต่างประเทศ เพื่อไม่ให้เนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายหรือข้อห้ามของประเทศไทย โดยเฉพาะขัดต่อ “กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย มาตรา 112” ถูกออกอากาศ

ทั้งนี้แม้ในประกาศดังกล่าวจะระบุ “กฎหมายรัฐธรรมนูญไทย มาตรา 112” แต่ตามรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ระบุไว้ว่าเป็นเรื่องข้อห้าม ส.ว.ในการรับตำแหน่งทางการเมืองหลังสิ้นสภาพสมาชิก อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวคาดว่าจะหมายถึง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ

นอกจากนั้นทรูวิชั่นยังมีประวัติเรื่องการบล็อกข่าวต่างประเทศที่เกี่ยวกับการเมืองไทยแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรายการข่าวของ BBC, CNN, Al-Jazeera และ NHK

นักข่าวแจง 'พิธา' อาจเป็นเรื่องใบอนุญาต แต่ยังต้องหาข้อเท็จจริงเพิ่ม 

ในระหว่างการแถลงข่าวการประชุมระหว่าง 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลมีประวิตร โรจนพฤกษ์ จากข่าวสดภาษาอังกฤษถามพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ต่อกรณีที่ช่องทรูวิชั่นตัดสัญญาณภาพรายการข่าวของบีบีซีภาคภาษาอังกฤษที่สัมภาษณ์พิธาถึงเรื่องหลังการเลือกตั้งและกระแสต่างๆ ที่มีต่อพรรคก้าวไกลซี่งที่ผ่านมาก็มีการเซนเซอร์แบบนี้หลายครั้งและทางพรรคก้าวไกลจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อการเซนเซอร์แบบนี้บ้างเมื่อมีรัฐบาลใหม่แล้ว

พิธา ตอบประเด็นดังกล่าวว่า 1 ใน 4 เสาหลักของประชาธิปไตยก็คืออิสระในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนและทางพรรคเองก็มีคนที่ทำงานในประเด็นการทำงานและสวัสดิภาพของสื่อโดยเฉพาะอยู่แล้วในการแก้ไขปัญหานี้

หัวหน้าพรรคก้าวไกลตอบต่อในประเด็นเรื่องบทสัมภาษณ์ของเขาว่า เขาได้ทราบมาว่ามีทั้งหมด 4 สำนักข่าวที่ถูกเซนเซอร์ แต่มี 1 ใน 4 สำนักบอกกับเขาว่ามีปัญหาเรื่องใบอนุญาตกับทางบริษัททรูอยู่บ้าง

“เพราะฉะนั้นตรงนี้ผมต้องตอบอย่างระมัดระวังแบ่งรับแบ่งสู้ว่าเป็นความตั้งใจที่จะเซนเซอร์คำสัมภาษณ์ของผมหรือไม่ หรือเป็นปัญหาเรื่องใบอนุญาต ที่ผมมีโอกาสได้คุยกับสื่อ 1 ใน 4 สื่อที่อธิบายให้ผมฟังแล้วว่าการที่สัมภาษณ์กับเข้าวันนี้จะไม่ได้ออกทรูวิชั่นเพราะฉะนั้นตรงนี้จะต้องมีการสืบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม” พิธาระบุ

พิธาได้ตอบคำถามของนักข่าวเพิ่มเติมว่า ในความเห็นของเขาถ้าหากเป็นไปตามข้อเท็จจริงบีบีซียืนยันว่าเป็นการเซนเซอร์จริงก็คงเป็นเรื่องน่ากังวลใจ และก็คงต้องยืนยันไปทาง กสทช.ว่าการให้นำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งที่สำคัญมากในระบบประชาธิปไตยและความคิดสร้างสรรค์หรือการมีนวัตกรรม ถ้ามีการเซนเซอร์หรือการปิดปากก็เป็นเรื่องน่ากังวลพอสมควร

อย่างไรก็ตาม พิธาได้ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นความเห็นของเขาตามข้อเท็จจริงของทางบีบีซี เพราะที่เขาได้ทราบมาจากนักข่าวของ 1 ใน 4 สำนักว่าบทสัมภาษณของเขาไม่มีทางได้ออกในไทยอยู่แล้วเพราะเป็นปัญหาเรื่องใบอนุญาตระหว่างสำนักข่าวกับทางบริษัททรู

ตั้งแต่นาทีที่ 30.30 เป็นต้นไป