Skip to main content
sharethis

แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ และเครือข่ายผู้สนับสนุนประชาธิปไตย แถลงเรียกร้องให้ ส.ว.-พรรคการเมืองเลือกนายกฯ เคารพเจตนารมณ์ประชาชนส่วนใหญ่ ลั่นไม่นิ่งเฉยแน่นอน หาก ส.ว. คิดขวางรัฐบาลจากเสียงข้างมากประชาชน 


17 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (17 พ.ค.) เครือข่ายนักกิจกรรมการเมืองและสโมสรนักศึกษา เช่น แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ทะลุฟ้า ทะลุวัง และอื่นๆ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กวานนี้ (16 พ.ค.) ร่วมออกแถลงการณ์เรื่อง ขอเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เคารพเจตนารมณ์ของประชาชนโดยลงมติเลือกนายกฯ เลือกเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร และขอให้พรรคการเมืองรักษาสัจจะ 

ในแถลงการณ์เรียกร้องไปยัง สมาชิกวุฒิสภา และพรรคการเมืองทุกพรรค ให้เลือกนายกรัฐมนตรี ตามเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อนำประเทศชาติให้เดินต่อไป และก้าวข้ามผู้นำที่ทำประชาชนล้มตาย สร้างกติกาที่บิดเบี้ยว และน่าสะอิดสะเอียน พร้อมกันนี้ เครือข่ายนักกิจกรรมเตือนไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง อย่าเล่นแร่แปรธาตุกับผลคะแนนเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่ารนมา 

นอกจากนี้ เครือข่ายนักกิจกรรมเตือนไปยังสมาชิกวุฒิสภา อย่าทำตัวเป็นจระเข้ขวางสายธารแห่งการเปลี่ยนแปลง เพราะนี่คือมติจากภาคประชาชน และถ้าหาก ส.ว. ยังคิดทำการอันใดที่เป็นการขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากเสียงข้างมากของประชาชน พวกเราแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมและเครือข่าย คงไม่อาจทนนิ่งเฉย

"เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดตั้งรัฐบาล "ก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทย เสรีรวมไทย เป็นธรรม" จะนำมาสู่การคืนความยุติธรรมให้ประชาชน คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน คืนความเป็นคน และคืนประชาธิปไตยที่แท้จริงให้ประชาชน

" "ท่านอาจจะเหนี่ยวรั้งอะไรไว้ได้บางสิ่งบางอย่างชั่วครั้งชั่วคราว แต่ท่านไม่สามารถจะรักษาทุกสิ่งทุกอย่างไว้ได้ตลอดไป" - สาย สีมา" แถลงการณ์ ทิ้งท้าย 

รายละเอียดแถลงการณ์

เนื่องด้วยวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นวันที่ประเทศไทยได้มีการจัดการเลือกตั้ง เพื่อสรรหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครั้งที่ 2 ภายใต้กติกาตามรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2560 อันมีผลพวงมาจากการ ‘รัฐประหาร’ โดยประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเวลาร่วม 9 ปีที่ประชาชนถูกละเมิดสิทธิ กดขี่ ปราบปรามภายใต้รัฐบาล ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ และในขณะนี้ได้ทราบโดยทั่วกันว่าพรรคที่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คือ ‘พรรคก้าวไกล’ มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนถึงเจตจำนงของประชาชนที่ต้องการเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลง ความฝัน ความหวัง และอนาคตของประชาชนได้ปรากฏชัด หากแต่ลำพังเสียงของ ส.ส. ฝ่ายประชาธิปไตยที่รวมกัน เพื่อการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นคงไม่เพียงพอ และส่งผลให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้มีเสียงของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยประมาณ 67% แต่กติกาที่เขียนขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจ บีบให้ต้องมีพรรคร่วมรัฐบาลมากล้นจนไม่สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญนี้ที่ผู้จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีต้องได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภา (ส.ส. และ ส.ว.) ที่มีอยู่ หรือประมาณ 376 เสียง

พวกเราแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม รวมทั้งเครือข่ายผู้สนับสนุนประชาธิปไตย ขอส่งเสียงเรียกร้องไปถึง ส.ว.ทุกคน และพรรคการเมืองให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีโดยคำนึงถึงเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ ขอให้เป็นคนรักษาสัจจะที่เคยได้ลั่นไว้ต่อหน้าสื่อมวลชน และ “เลือกนายกรัฐมนตรีตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร” เพื่อนำประเทศชาติ และประชาชนก้าวพ้นจากผู้มีอำนาจที่ทำประชาชนล้มตาย และเป็นผู้สร้างกติกาที่บิดเบี้ยว น่าสะอิดสะเอียน และหวังว่า กกต.จะไม่กระทำตัวเลวทรามเล่นแร่แปรธาตุกับผลคะแนนเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ขอส่งสัญญาณเตือนไปถึง ส.ว. ทุกท่าน ว่าขอให้อย่าประพฤติตนเป็นจระเข้ขวางคลอง อย่าคิดขวางสายธารการเปลี่ยนแปลง เพราะนี่คือมติจากภาคประชาชน และถ้าหาก ส.ว. ยังคิดทำการอันใดที่เป็นการขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากเสียงข้างมากของประชาชน พวกเราแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมและเครือข่าย คงไม่อาจทนนิ่งเฉย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดตั้งรัฐบาล “ก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทย เสรีรวมไทย เป็นธรรม” จะนำมาสู่การคืนความยุติธรรมให้ประชาชน คืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน คืนความเป็นคน และคืนประชาธิปไตยที่แท้จริงให้ประชาชน

"ท่านอาจจะเหนี่ยวรั้งอะไรไว้ได้บางสิ่งบางอย่างชั่วครั้งชั่วคราว แต่ท่านไม่สามารถจะรักษาทุกสิ่งทุกอย่างไว้ได้ตลอดไป" - สาย สีมา

ที่มา: แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม

วานนี้ (16 พ.ค.) แถลงการณ์สโมสรนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภา 250 คน และทุกพรรคการเมืองเคารพเจตนารมณ์ของประชาชน

ตามที่มีการเลือกตั้งฯ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้จำนวนที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุด 152 ที่นั่ง ภายหลังสามารถรวมเสียงพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจนเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ แล้ว แต่กลับปรากฏว่า ส.ว. บางท่านอาจไม่เห็นชอบหรืองดออกเสียง อันทำให้ไม่สามารถมีผู้ได้รับคะแนนเสียงจนได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีได้

สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ขอให้ท่าน ส.ว. และทุกพรรคกาเมืองเคารพเจตนารมณ์ของประชาชนจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา และแสดงจุดยืนพร้อมลงมติเลือก คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้พรรคก้าวไกล ซึ่งคือพรรคการเมืองที่ได้รับจำนวน ส.ส.มากที่สุด สามารถจัดตั้งรัฐบาลร่วมสำเร็จ ตลอดจนให้ประเทศชาติสามารถดำเนินต่อไปได้ และประชาชนส่วนรวมได้รับประโยชน์สูงสุด

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net