บ้านปรานียังไม่ให้ทนายเยี่ยม “หยก” แม้จะเพิ่งมีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้คนในรายชื่อที่ธนลภย์ยินยอมให้เข้าเยี่ยมได้ตามวันที่เจ้าหน้าที่กำหนดแล้วก็ตาม เพราะเมื่อทนายไปถึงเจ้าหน้าที่ไม่ตอบคำถามใดๆ รวมถึงเรื่องหยกติดโควิด แค่บอกให้มาใหม่เสาร์นี้

6 เม.ย.2566 กุณฑิกา นุตจรัส หรือ ทราย ทนายความโพสต์เฟซบุ๊กอัพเดตความคืบหน้าในการขอเยี่ยมธนลภย์ หรือหยก(สงวนนามสกุล) เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ขณะที่คุมขังที่สถานพินิจบ้านปรานี จ.นครปฐมจากการถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งทีมทนายความได้พยายามขอเข้าเยี่ยมอีกครั้งหลังจากเมื่อวานนี้ถูกปฏิเสธ และยังมีเจ้าหน้าที่จากสถานพินิจกรุงเทพแจ้งเรื่องว่าธนลภย์ติดโควิด

กุณฑิกาเล่าว่าเมื่อวานทนายความในทีมได้พบกับเจ้าหน้าที่ตรงบริเวณป้อมยามหน้ารั้วของบ้านปรานีโดยเจ้าหน้าที่ยังคงไม่ให้เข้าไปข้างใน และเจ้าหน้าที่ได้ต่อสายให้คุยโทรศัพท์กับบุคคลที่อ้างว่าตนเองเป็นผู้อำนวยการสถานพินิจกรุงเทพฯ โดย ผอ.สถานพินิจกรุงเทพได้แจ้งกับทนายความว่าคำร้องของพวกเราอยู่ "ในระหว่างพิจารณา" และคนที่จะเข้าเยี่ยมเยาวชนได้จะต้องเป็นที่ปรึกษากฎหมายที่ศาลเยาวชนแต่งตั้งแล้วเท่านั้น โดยกล่าวว่าเขาได้คุยกับศาลเยาวชนมาแล้ว

ทนายความของธนลภย์ระบุต่อว่า ทนายทีมจึงรู้สึกว่าผิดปกติและถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่หรือผู้อำนวยการจะต้องคุยกับศาลด้วยและต้องการที่จะรู้ว่าศาลเยาวชนได้ไปคุยกับ ผอ.สถานพินิจกรุงเทพว่าอย่างไร แต่ไม่ได้รับคำตอบ

หลังจากนั้นทนายความไม่ได้เข้าเยี่ยมแล้วและเดินทางกลับแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาแจ้งเรื่องธนลภย์ติดโควิดแล้วและยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่าทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสถานพินิจได้โทรศัพท์แจ้งกับเธอถึงเรื่องจะอนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมได้บ้างโดยมีการระบุชื่อที่ทางธนลภย์ยินยอมให้เข้าพบพร้อมกับกำหนดวันที่จะให้คนตามรายชื่อเข้าไปพบได้โดยให้ทนายความเยี่ยมได้ในช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์และให้ผู้ไว้วางใจและครอบครัวของธนลภย์สามารถเข้าพบได้ในวันเสาร์อาทิตย์

อย่างไรก็ตาม ประมาณ 13.00 น.ของ วันนี้ทางทนายความที่มีชื่ออยู่ในหนังสือของผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กและยังเป็นคนที่อยู่ในรายชื่อที่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งกับกุณฑิกาเมื่อวานนี้ได้เดินทางไปที่บ้านปรานีพร้อมเจ้าหน้าที่จากองค์กรสิทธิมนุษยชนอีก 2 องค์กรโดยมีของเยี่ยมเป็นบะหมี่จากร้านตั้งฮกกี่ 40 ชุดติดไปด้วย

ทั้งนี้กุณฑิการะบุอีกว่า แต่เมื่อทนายความในทีมไปถึงกลับถูกเจ้าหน้าที่บ้านปรานีปฏิเสธไม่ให้พวกเขาเข้าไปเยี่ยมธนลภย์โดยทางเจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่มีชื่อของทนายคนดังกล่าวอยู่ในรายชื่อที่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้ แม้ว่าทางทนายความจะยืนยันและยังมีเอกสารพร้อมที่จะมอบให้แก่ทางบ้านปรานี แต่เจ้าหน้าที่ของบ้านปรานียังคงปฏิเสธและบอกว่าจะให้เยี่ยมได้ในวันที่ 8 เม.ย.แทน แต่เมื่อทนายความได้ถามทวนกับเจ้าหน้าที่บ้านปรานีว่าตามที่เจ้าหน้าที่ของสถานพินิจที่แจ้งไว้เมื่อวานนี้ว่าให้ทนายความเข้าเยี่ยมในวันจันทร์ถึงศุกร์ส่วนวันเสาร์อาทิตย์จะเป็นครอบครัวและผู้ไว้วางใจ เจ้าหน้าที่บ้านปรานีไม่ตอบในประเด็นนี้ และอ้างเพียงว่าเป็นมาตรการโควิด

ผู้สื่อข่าวได้ถามกุณฑิกาเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่บ้านปรานีได้ตอบในประเด็นเรื่องหยกติดโควิดด้วยหรือไม่ เธอตอบว่าเจ้าหน้าที่ไม่ตอบประเด็นนี้ แม้ว่าจะได้ทวงถามกับเจ้าหน้าที่ของบ้านปรานีว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกข้อมูลนี้กับทนายความที่ไปเยี่ยมด้วยเช่นกัน

กุณฑิกายังระบุด้วยว่าเหตุการณ์ที่ทนายความทั้ง 3 คนที่ไปเป็นผู้ประสานงานติดต่อขอเยี่ยมธนลภย์มาตั้งแต่แรกจนถึงวันนี้ มีความเฆ้นตรงกันว่าพวกเธอไม่ได้รับความสะดวกใดๆ และมาตรการหลายมาตรการก็ไม่เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทิเด็ก ไม่เป็นการปกป้องเด็กและยังไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญด้วย และเห็นควรว่ามาตรการต่างๆ ที่มีขึ้นควรมีการปรับใช้กับเด็กตามแต่กรณีของแต่ละคน อีกทั้งมาตรการป้องกันโควิดของบ้านปรานีก็ยังไม่เหมาะสมอีกด้วยเพราะยังมีระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อยู่ด้วย

ทนายความของธนลภย์ยังระบุต่อไปว่า หากธนลภย์ไม่ได้ติดโควิดแล้วทางทนายความจะดำเนินการอเข้าพบเด็กในสถานที่ควบคุมโดยต้องได้รับความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนตามระเบียบของบ้านปรานีโดยไม่ใช่วิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพราะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะถึงเด็กจะติดโควิดทางบ้านปรานีก็ไม่ให้ใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วยเช่นกัน