Skip to main content
sharethis

รังสิมันต์ โรม ยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบ 3 ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องกับการถอนหมายจับ ‘ส.ว.อุปกิต’ ชี้ ส.ว.อุปกิต ถูกปฎิบัติแบบแบบวีไอพีผิดกับคดีอื่น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

23 มี.ค. 2566 รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางไปยื่นหนังสือที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ตรวจสอบ 3 ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องกับการถอนหมายจับ อุปกิต ปาจรียางกูร หรือ ส.ว.อุปกิต และติดตามการยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จของส.ว.อุปกิต พร้อมยื่นหลักฐานเพิ่มเติม

รังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องแรกคือการติดตามเรื่องที่เคยยื่นไปแล้ว กรณีที่มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ จากการที่ส.ว.อุปกิตได้มีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ว่าได้ขายโรงแรมอัลลัวร์รีสอร์ต ที่อาจจะมีการเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด โดยขายให้กับชาคริส กาจกำจรเดช แต่ชาคริสชี้แจงผ่านการให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สัญญาซื้อขายดังกล่าวว่าไม่ได้เกิดขึ้นจริง เป็นการขายที่ชาคริสไม่ได้มีเงิน ซึ่งน่าจะเป็นพฤติกรรมอำพราง และมีการยื่นเอกสารว่ามีเงินในบัญชีธนาคาร BIC Cambodia Bank จำนวน 8 ล้านกว่าดอลลาร์ ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการขายโรงแรม

ทั้งนี้ รังสิมันต์กล่าวต่อว่า จากการที่ส.ว.อุปกิตให้สัมภาษณ์กับสื่อมวชชน เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ส.ว.อุปกิตได้ยอมรับว่าเงินดังกล่าวได้มาจากการขาย แต่ไม่ได้ขายให้กับชาคริส เป็นพฤติกรรมของการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ ซึ่งผิดกฎหมาย วันนี้ตนเองจึงได้มาติดตามความคืบหน้าและมอบไฟล์วิดีโอสัมภาษณ์ให้กับ ป.ป.ช.

นอกจากนี้ รังสิมันต์ยังได้ยื่นเรื่องสอบ 3 ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องกับการถอนหมายจับส.ว.อุปกิต ได้แก่ อธิบดีศาลอาญา, รองอธิบดีศาลอาญา และผู้พิพากษาเวร รังสิมันต์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้ยื่นต่อ คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) สอบผู้พิพากษาทั้ง 3 แต่ในกรณีนี้ไม่ได้มีแค่ 3 ผู้พิพากษา แต่ยังเกี่ยวข้องกับนายตำรวจใหญ่ ประกอบกับทาง ก.ต. ก็เงียบหายไป

รังสิมันต์เปิดเผยถึงความคืบหน้าที่ไปให้ปากคำเรื่องนี้ต่ออัยการสูงสุดด้วยว่า หลายกรณีเป็นข้อเท็จจริงตรงกับที่ตนอภิปราย หากพูดกันตรงๆ อัยการสูงสุดมีข้อมูลมากกว่าตนอยู่แล้ว อาจมีบางเรื่องที่ตนไปให้เพิ่มเติม สิ่งสำคัญที่สุดคืออัยการสูงสุดน่าจะสรุปจบภายในสิ้นเดือนนี้ และตนค่อนข้างมั่นใจและคาดหวังว่าจะมีการนำตัวส.ว.อุปกิต เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา

“อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยังเป็นกังวลอยู่คือ ถ้ามาตรฐานของการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมมีน้อย ถ้าหันไปมองในคดีทุนมินลัตและเรื่องอื่นๆ โดนแบบหนึ่ง แต่นายอุปกิตโดนแบบวีไอพี คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมต่อไป ผมคาดหวังว่าการปฏิบัติต่อทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเท่าทียมกัน ฝากไปถึงทางอัยการที่กำลังเป็นที่เฝ้ามองของสังคมว่าสุดท้ายแล้วจะทำให้สังคมมีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมได้มากน้อยแค่ไหน” รังสิมันต์ กล่าว

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net