“ที่ผ่านมาไม่มีพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่เกี่ยวกับศิลปะ ศิลปินและวัฒนธรรมโดยภาคประชาชน” ไข่ มาลีฮวนน่า แสดงความคิดเห็นขณะเข้าเสนอพรรคเพื่อไทยร่างกฎหมายตั้ง ‘สภาศิลปินฯ’ ชลน่านชี้ พร้อมทำทันทีถ้าเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลผ่านนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

9 ม.ค.66 เวลา 13.00 น. ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งต่อผู้สื่อข่าวว่า สมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย นำโดย ไข่ มาลีฮวนน่า หรือคฑาวุธ ทองไทย เข้ายื่นหนังสือต่อชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.สภาศิลปะ ศิลปิน และวัฒนธรรมแห่งชาติ โดยในวันนี้มีณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย  ร่วมให้การต้อนรับด้วย

ไข่ มาลีฮวนน่า ประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย กล่าวว่าขอขอบคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่รับข้อเสนอ สืบเนื่องจากช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เป็นวิกฤตที่คนวงการบันเทิงทั้งระบบ หยุดชะงัก ตั้งแต่วันแรกสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี หัวหน้า ศบค. และ หัวหน้า สมช. และตอนนี้เริ่มมีการกลับมาทำธุรกิจได้ จึงมีการพูดคุยให้คนบันเทิงได้มีการจัดตั้งองค์กร เหมือนกับแพทยสภา คือ "สภาศิลปะ ศิลปิน และวัฒนธรรมแห่งชาติ " โดยมีการนำร่างกฎหมายจากเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และมาปรับเปลี่ยน จากนั้นยื่นไปถึงชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา โดยปัจจุบันได้รับการพิจารณาของข้อบัญญัติกฎหมายลงมาแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการล่ารายชื่อประชาชน 10,000 รายชื่อ 

"สำหรับการมายื่นหนังสือที่พรรคเพื่อไทยในวันนี้เพราะที่ผ่านมาไม่มีพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่เกี่ยวกับศิลปะ ศิลปินและวัฒนธรรมโดยภาคประชาชน วันนี้จึงมาเสนอพรรคเพื่อไทยให้ช่วยสนับสนุนให้เป็นนโยบายของพรรคและสนับสนุนสภาศิลปะ ศิลปิน และวัฒนธรรมแห่งชาติด้วย" ไข่ มาลีฮวนน่า กล่าว 

ด้านชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทยที่ได้เห็นความสำคัญกับพรรคเพื่อไทยโดยนำหนังสือให้มายื่นเพื่อให้พรรคได้พิจารณาเกี่ยวกับวิชาชีพของคนบันเทิง ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา ตนได้รับการประสานงานจากคนบันเทิง ว่าคนที่ได้รับผลกระทบเป็นคนแรกและยาวนานที่สุด คือ คนบันเทิง จึงเกิดแนวความคิดว่าที่จะต้องตัวบทกฎหมาย สมาคม สมาพันธ์เข้ามารองรับ 

ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่เป็นภาพกว้างคือนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ที่สามารถสร้างงานที่มีทักษะสูง 20 ล้านตำแหน่ง ซึ่งสอดคล้องกับในหมวดความต้องการของคนบันเทิงเพราะ งานศิลปะ คนบันเทิง ถือเป็น Soft Power ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะมีการเขียนเรื่องของคนบันเทิงออกมาเพื่อส่งเสริมอาชีพคนบันเทิง อาทิ การตั้งสภาวิชาชีพ เพื่อมารองรับคุ้มครองการประหอบอาชีพโดยตราเป็นกฎหมาย 

"ขอให้ความมั่นใจต่อประธานสมาพันธ์ฯ พรรคเพื่อไทยยินดีที่จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณา เรามั่นใจว่าสามารถจัดตั้งรัฐบาล  ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย จะร่วมเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายนี้เข้าสภาเป็นเรื่องต้น ๆ โดยใช้ร่างจากภาคประชาชนหรือนำมาปรับปรุงร่างกฎหมายให้ดีขึ้น" ชลน่านกล่าว

ด้านณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอให้กำลังใจพี่น้องคนบันเทิง ศิลปิน เพราะจิตวิญญาณแห่งศิลปินจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ภาครัฐและภาคการเมือง ทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้วิชาชีพนี้มีบทบัญญัติกฎหมายเป็นของตัวเอง ให้มีสภาวิชาชีพที่จะดูแลกันและกัน และรักษาสิทธิรักษาประโยชน์รักษาสถานะของคนทำงานศิลปะให้อยู่สังคมไทยต่อไป