Skip to main content
sharethis

ชาวจะนะรวมตัวหน้าภูมิใจไทย เรียกร้อง ‘อนุทิน’ ยกเลิกคำสั่งย้ายหมอสุภัทร ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ชาวจะนะพยายามจะเข้าไปยื่นหนังสือทวงความเป็นธรรมในการสั่งย้ายครั้งนี้ แต่ถูกพรรคภูมิใจไทยปิดประตูใส่ รุ่งเรือง ระหมันยะ กลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น ระบุ การย้ายหมอสุภัทรไม่เป็นธรรม ไม่ว่าในเชิงกฎหมาย หรือระบบของชมรมแพทย์ชนบท คนที่เป็นสมาชิกชมรมแล้วมีสิทธิที่จะอยู่ในพื้นที่ได้ถ้าหากไม่เต็มใจที่จะย้าย ยืนยันให้ยกเลิกคำสั่งย้ายหมอสุภัทร

 

17 ก.พ. 2566 iLaw รายงานว่า ที่หน้าพรรคภูมิใจไทย ภาคีเพื่อนหมอสุภัทรและผู้รักความเป็นธรรม, เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย และนักวิชาการอิสระ รวมตัวกันชุมนุมกดดันให้ ‘อนุทิน’ ยกเลิกคำสั่งย้ายนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ออกจากโรงพยาบาลจะนะ

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566 มีคำสั่งจากกระทรวงสาธารณสุขให้ย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ไปรับตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา ทำให้ประชาชนในอำเภอจะนะ เครือข่ายภาคประชาชน และเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์จากหลายภาคส่วนลุกขึ้นมาคัดค้าน และตั้งคำถามถึงความไม่ชอบธรรมในคำสั่งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ นพ.สุภัทร ในนามชมรมแพทย์ชนบทได้แสดงความคิดเห็นต่อนโยบายบายการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 การบริหารจัดการวัคซีนและจัดซื้อเครื่องตรวจ ATK รวมถึงนโยบายกัญชาเสรี อันอยู่ภายใต้การดูแลของ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ต่อมาวันที่ 6-10 ก.พ. 2566 ชาวบ้านอำเภอจะนะ เดินทางมาปักหลักชุมนุมคัดค้านคำสั่งย้ายนพ.สุภัทร แล้วครั้งหนึ่ง ที่ประตูทางเข้ากระทรวงสาธารณสุขเพื่อรอพบปลัดกระทรวงฯ แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากมีคำสั่งจากศาลแพ่งให้ยุติการชุมนุม และเมื่อชาวบ้านเดินทางมาอีกครั้งกลับโดนเจ้าหน้าที่ปิดประตูกระทรวงสาธารณสุข และให้ออกมาปักหลักอยู่ด้านนอก โดยยังไม่มีใครออกมารับหนังสือเช่นเดิม

นอกจากภาคีเพื่อนหมอสุภัทรแล้ว ในหลายๆ พื้นที่ทางภาคใต้มีการรวมตัวกันคัดค้านคำสั่งดังกล่าวเช่นกัน เช่น ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เมื่อยื่นหนังสือที่กระทรวงสาธารณสุขไม่สำเร็จ วันที่ 16 ก.พ. 2566 ภาคีเพื่อนหมอสุภัทรฯ จึงยกระดับการชุมนุมเดินทางขึ้นมากรุงเทพ เพื่อเข้ายื่นหนังสือเรียน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ขอให้ตรวจสอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูลว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 วรรค 3 หรือไม่ อีกทั้งในช่วงเย็นได้รวมตัวกันที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ (BACC)

บริเวณหน้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ มีชาวบ้านรวมตัวกันประมาณ 30 คน ส่วนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก ผู้ชุมนุมทำกิจกรรมครอบหัวด้วยกระดาษทำเองเป็นรูปภาพอนุทิน และข้อความเช่น “อนุทินมีมลทิน อย่าเลือกกเป็นนายก” ต่อมาเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยประมาณ 10 คน ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมด้วย มีการถือป้ายข้อความ “ยกเลิกคำสั่งย้ายไม่เป็นธรรม” “เขตปลอดภูมิใจไทย” และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการวางดอกไม้ที่หน้าประตูพรรคเพื่อเป็นการไว้อาลัยคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม

รุ่งเรือง ระหมันยะ

รุ่งเรือง ระหมันยะ กลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น กล่าวว่า ครั้งแรกที่เราขึ้นไปกระทรวงสาธารณสุข สิ่งที่พี่น้องของเราได้รับคือ หมายศาลให้เลิกการชุมนุม ทั้งๆ ที่ถ้าปลัดกระทรวงสาธารณสุขออกมารับหนังสือเรื่องราวคงไม่บานปลาย ต่อมามีเมื่อพี่น้องจะขึ้นไปยังกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง ก็ได้แจ้งการชุมนุมเรียบร้อยแล้ว แต่กลับมีการปิดประตูกระทรวงไม่ให้พวกเราเข้าไป “เราแค่เข้าไปขอยื่นหนังสือทวงความเป็นธรรมในการย้ายหมอ แต่เรากลับโดนปิดประตูใส่ แล้วก็ไล่ให้ออกมานอนข้างนอก และปกติเแล้วเมื่อมีการแจ้งชุมนุม ในกฎหมายก็บอกไว้ชัดเจนว่าต้องมีตำรวจ เจ้าหน้าที่ มาดูแลการชุมนุม แต่สุดท้ายแล้วตอนที่เรานอนที่นั่นคืนนั้นไม่มีตำรวจแม้แต่คนเดียวที่จะมาดูแลพวกเรา จะไม่ยอมออกมารับหนังสือที่เราจะยื่นด้วย” 

“นี่ก็เป็นสาเหตุที่ต้องเคลื่อนมาที่นี่อีกครั้งหนึ่งเพื่อจะบอกสาธารณะว่า การย้ายหมอสุภัทรครั้งนี้ไม่เป็นธรรม ไม่ว่าในเชิงกฎหมาย หรือระบบของชมรมแพทย์ชนบทว่าคนที่เป็นสมาชิกชมรมแล้วมีสิทธิที่จะอยู่ในพื้นที่ได้ถ้าหากไม่เต็มใจที่จะย้าย เราไม่ได้กระทำความผิดใดๆ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราที่มาในครั้งนี้ยืนยันคำเดินว่า ให้ยกเลิกคำสั่งย้ายหมอสุภัทร” รุ่งเรือง กล่าว

 

ดร.เลิศชาย ศิริชัย นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า ผมรู้จักหมอสุภัทรครั้งแรกก็เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะแล้ว ในช่วง 20 กว่าปี ได้เห็นการเติบโตของโรงพยาบาลจะนะ อีกทั้งบทบาทของโรงพยาบาลในการดูแลผู้คนนั้นต้องดูแลทั้งกายและใจซึ่งไม่เคยเห็นบทบาทเหล่านี้ในโรงพยาบาลใหญ่ๆ ผมจึงเห็นบทบาทของหมอสุภัทรเติบโตมากับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่

“ผมบอกเลยว่าบทบาทของหมอชนบท รวมถึงหมอสุภัทรด้วยมีส่วนในการแก้ไขชีวิตคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ในเขตจังหวัดชายแดนใต้... ผมได้ติดตามโครงการที่หมอสุภัทรรับผิดชอบด้วย หมอสุภัทรสร้างเครือข่ายแพทย์ อสม.ในสามจังหวัดชายแดนใต้ เข้าไปดูแลผู้พิการ หญิงหม้าย เด็กกำพร้า ที่ไม่สามารถเอาตัวรอดในวิกฤตการณ์ความยากลำบาก ที่ต้องมายืนพูดกันอยู่อย่างนี้เพราะผมเห็นว่านายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ คือคนที่อุทิศตัวเองให้กับคนตัวเล็กตัวน้อย คนด้อยโอกาส คนที่ถูกทอดทิ้ง และทำงานอย่างเต็มที่ในตลอดระยะเวลาหลายสิบปี” เลิศชาย กล่าว

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net