Skip to main content
sharethis

'หมอซินเทีย' เจ้าของรางวัลแมกไซไซผู้ก่อตั้งแม่ตาวคลินิก​ รองรับผู้อพยพลี้ภัยการสู้รบฝั่งพม่ามากกว่า​ 29​ ปี เปิดเผยกับสื่อ The Active ว่าต้องการขอสัญชาติไทย​ หวังลดอุปสรรคช่วยเหลือผู้อพยพ ด้าน 'เตือนใจ ดีเทศน์'​ ชี้เป็นผู้​​ช่วยพยุงระบบสาธารณสุข​ชายแดน​ เร่งประสานหน่วยงานช่วยแปลงสัญชาติโดยเร็ว​ 


ซินเธีย หม่อง หรือ หมอซินเธีย ผู้ก่อตั้ง ‘แม่ตาวคลินิก’ (แฟ้มภาพประชาไท)

สื่อ The Active รายงานว่าเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.​ 2565​ ที่ผ่านมา แพทย์หญิงซินเทีย​ค่า  หรือ หมอซินเทีย ผู้ก่อตั้งแม่ตาวคลินิก​ เปิดเผยกับ The Active ว่ามีความต้องการจะขอสัญชาติไทย​ หลังจากที่เปิดแม่ตาวคลินิกรับรักษาผู้อพยพลี้ภัยจากประเทศเมียนมาในประเทศไทย​ ที่ อ.แม่สอด​ จ.ตาก​ มาถึง 29 ปี โดยหากได้สัญชาติไทยก็จะทำให้การช่วยเหลือผู้ไม่มีสถานะและผู้อพยพสะดวกมากขึ้นเพราะปัจจุบันการเป็นคนไร้สัญชาติของเธอ ทำให้ติดกรอบการเดินทางออกนอกพื้นที่​ การประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่อยู่ในต่างประเทศ​ ต้องทำหนังสือและมีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน​ นอกจากนี้เมื่อได้สัญชาติไทยก็อยากจะรับบุตรบุญธรรมเพิ่มอีก 2 คน

โดยเบื้องต้นในเอกสารจากกระทรวงมหาดไทยให้ ซินเทียค่า​ ดำเนินการ 3 ข้อคือ 1. ขอรับใบสำคัญถิ่นที่อยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ 2. ขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่สถานีตำรวจในท้องที่​ และ 3. ติดต่อ สำนักทะเบียนที่มีภูมิลำเนาเพื่อดำเนินการแก้ไขรายการทะเบียนราษฎร

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ด้าน​ เตือนใจ ดีเทศน์  กรรมการผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนา​ชุมชน​และเขตภูเขา​ (พชภ.) ยื่นมือเข้ามาช่วยขอสัญชาติให้กับ​ แพทย์หญิงซินเทียค่า​ บอกว่ากรณีนี้สามารถแปลงสัญชาติไทยในฐานะผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งจะเป็นขั้นตอนที่รวดเร็วกว่าการขอแปลงสัญชาติทั่วไป​ โดยเล็งเห็นว่าแพทย์หญิงซินเทียค่า นอกจากจะได้รับรางวัลแมกไซไซ​ ด้านผู้นำชุมชนดีเด่น จากการทำงานในการช่วยดูแลรักษาโรคแก่ผู้อพยพชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา​ เสมือนหนึ่งรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพของเอเชียแล้ว ปัจจุบันยังมีส่วนช่วยสำคัญในการพยุงระบบสาธารณสุขตามแนวชายแดนให้เดินต่อไปได้นอกจากโรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่ ประกอบกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ต้องรับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก และมีเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดน​ ซึ่งต้องเป็นสถานพยาบาลในการรองรับผู้เจ็บป่วยลี้ภัย​ หญิงตั้งครรภ์ที่เข้ามาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ซึ่งหากแพทย์หญิงซินเทียได้รับสัญชาติไทย​ ก็จะเป็นกลไกสำคัญในการทำงานร่วมกับภาครัฐด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนในทุกมิติ โดยมูลนิธิ พชภ. ก็จะเข้ามาช่วยดำเนินการขอแปลงสัญชาติไทยโดยจะหาบุคคล​ที่มีความน่าเชื่อถือ​ที่ใกล้ชิด​ เขียนหนังสือรับรองการทำคุณประโยชน์​แก่ประเทศชาติ​ ซึ่งเบื้องต้นจะติดต่อ​ นพ.วิชัย​ โชควิวัฒน์​ หนึ่งในกรรมการมูลนิธิ​สุวรรณ​นิมิต​ ซึ่ง แพทย์ซินเทียค่า ก็ทำงานร่วมอยู่ในมูลนิธิดังกล่าวด้วย

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net