Skip to main content
sharethis

ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้ “นายจ้าง” จ่ายเงินให้แก่ลูกเรือประมงวาดานิ 1 และ 2 ทั้ง 32 คน กว่า 10 ล้านบาท หลังนายจ้างพาขึ้นเรือไปทำงาน และถูกลอยแพทิ้งไว้ในน่านน้ำประเทศโซมาเลีย เนื่องจากนายจ้างค้างจ่ายค่าจ้าง และปฏิเสธที่จะส่งลูกเรือเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2562

 

11 ส.ค. 2565 มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (HRDF) รายงานว่า สืบเนื่องจาก พ.ศ. 2562 ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเล (STM) ได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากลูกเรือวาดานิ1 และ 2 ที่ถูกนายจ้างทอดทิ้งอยู่บริเวณน่านน้ำประเทศโซมาเลีย ลูกเรือทั้งหมดต้องประสบความเดือดร้อนจากอาหารบนเรือที่เริ่มหมด นายจ้างค้างจ่ายค่าจ้าง และปฏิเสธที่จะส่งลูกเรือเดินทางกลับประเทศไทย ลูกเรือต้องร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และ ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเลจนได้รับความช่วยเหลือให้เดินทางกลับมายังประเทศไทยในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562  

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2565 ศาลแรงงานกลางได้มีคำพิพากษาให้นาย น. จำเลย (นายจ้าง) จ่ายค่าจ้าง ค่าจ้างทำงานในวันหยุด ค่าจ้างระหว่างตกค้าง และเงินส่วนแบ่งมูลค่าสัตว์น้ำ แก่ลูกเรือทั้ง 32 คน รวมจำนวน 9,034,059.63 บาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินแต่ละจำนวนดังกล่าวนับแต่วันที่ 1 ส.ค. 2562 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระแก่โจทก์ทั้งสามสิบสอง

ประเด็นสำคัญในคดีนี้ คือ “ผู้ใดคือนายจ้างที่แท้จริงของลูกเรือ” เมื่อพิจารณาจากสัญญาจ้างมีชื่อนายจ้างทั้งชื่อนาย น. (ผู้ที่นำพาลูกจ้างไปทำงาน) และชื่อชาวต่างประเทศอีก 2 คน ซึ่งการกระทำของนายน. นั้นก็เป็นการกระทำในฐานะนายจ้างหรือเป็นการกระทำในฐานะของคนจัดหางาน และยังสามารถที่จะฟ้องเรียกค่าจ้างที่ค้างจ่าย ค่าจ้างทำงานในวันหยุด ค่าจ้างระหว่างตกค้าง และเงินค่าส่วนแบ่งมูลค่าสัตว์น้ำ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับมายังประเทศไทยกับ นาย น.ได้หรือไม่ ล้วนเป็นความท้าท้ายทั้งในเรื่องข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างยิ่งในการทำคดีนี้

คำพิพากษาของศาลแรงงานกลางโดยศาล ได้วินิจฉัยในประเด็นเรื่องนายจ้างไว้ ดังนี้

 

ประเด็นแรก การกระทำของจำเลยนั้นเป็นผู้จัดหางาน เป็นนายจ้างและทำสัญญาแทนนายจ้างที่อยู่ต่างประเทศหรือไม่ การที่จำเลยเดินทางมาหาโจทก์ที่หมู่บ้าน ทำเอกสารการเดินทางให้ แต่จำเลยไม่ได้เรียกค่าใช้จ่ายในเดินทางไปทำงานและไม่เคยเรียกเงินจากโจทก์ในการจัดหางานให้ นอกจากนี้จำเลยและหุ้นส่วนชาวต่างชาติได้มีการทำบันทึกข้อตกลง (MOU) เป็นข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางธุรกิจด้านประมง ณ ประเทศโซมาเลียร่วมกัน ภายใต้การดำเนินการตามบันทึกข้อตกลง จำเลยมีอำนาจสั่งงานโจทก์ทั้งสามสิบสองคนผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ มีอำนาจในการจ่ายเงินและตัดโบนัส และยังมีอำนาจในการขายสัตว์น้ำที่จับได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากผู้ใด การกระทำของจำเลยเข้าองค์ประกอบทุกอย่างของการเป็นนายจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 575 และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน และตามข้อ 2 ของกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล พ.ศ.2557 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 6 วรรคหนึ่งและมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ศาลเห็นว่าจำเลยอยู่ในฐานะที่เป็นนายจ้างของโจทก์ทั้งสามสิบสองพียงฐานะเดียว จำเลยจึงไม่ได้เป็นผู้จัดหางานหรือตัวแทนนายจ้างและทำสัญญาจ้างของโจทก์ทั้งหมดที่อยู่ต่างประเทศแต่อย่างใด

ประการที่สอง จำเลยต้องชำระค่าจ้าง ค่าทำงานในวันหยุด ค่าจ้างตกค้าง ค่าส่วนแบ่งมูลค่าสัตว์น้ำที่จับได้และค่าเดินทางให้แก่โจทก์ทั้งสามสิบสองหรือไม่ เพียงใด เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลย และหุ้นส่วนชาวต่างประเทศ เป็นคู่สัญญาห้างหุ้นส่วนกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1012 และมาตรา 1013 (1) ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนร่วมทุกคนต้องร่วมกันรับผิดเพื่อหนี้ทั้งปวงโดยไม่จำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1025 ซึ่งหมายความว่าจำเลยจะต้องจ่ายเงินค่าจ้าง ค่าทำงานในวันหยุด ค่าจ้างตกค้าง ค่าส่วนแบ่งมูลค่าสัตว์น้ำที่จับได้และค่าเดินทางให้แก่โจทก์ทั้งสามสิบสอง เนื่องจากอัตราเงินเดือนที่โจทก์ทั้งหมดขอมาไม่ได้เกินกว่าความเป็นจริง และค่าส่วนแบ่งมูลค่าสัตว์น้ำที่ขอมาเป็นการขอตามราคาถัวเฉลี่ยของสัตว์น้ำและปลาทุกชนิดเพียงกิโลกรัมละ 55 บาท และศาลก็เชื่อว่าน้ำหนักปลาจำนวน 11 ตู้คอนเทนเนอร์จะต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 180,000 กิโลกรัม ดังนั้นศาลจึงมีคำพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างและค่าชดเชยอื่น ๆ ดังกล่าวข้างต้นให้แก่โจทก์ทั้งสามสิบสอง เป็นจำนวนรวม 9,034,059.63 บาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินแต่ละจำนวนนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสามสิบสอง

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net