ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งขยายระยะเวลาปล่อยตัวชั่วคราว ‘รุ้ง ปนัสยา’ ถึงวันที่ 25 พ.ค. 65 พร้อมยืนยันตาม 5 เงื่อนไขเดิม คือ ห้ามกระทำการที่เสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ห้ามร่วมชุมนุม กักบริเวณที่บ้าน ใส่กำไล EM และออกนอกบ้านได้เฉพาะไปเรียน-ศาล ขณะที่ศาลอาญา รัชดา ให้ประกันตัวต่อถึงวันที่ 15 มิ.ย. 65 ส่วนศาลอยุธยาให้ประกันตัวโดยไม่กำหนดระยะเวลา พร้อมถอนเงื่อนไขประกัน 2 ข้อคือการสวมกำไล EM และการกักบริเวณในเคหะสถาน

12 ม.ค. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานผ่านทวิตเตอร์ว่าวันนี้ (12 ม.ค. 2565) เป็นวันครบกำหนดเวลาที่ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง จากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ศาลวางเงื่อนไขปล่อยตัว 5 ข้อ ซึ่งรวมถึงการกักบริเวณในเคหะสถานและการสวมกำไล EM โดยอนุญาตให้ปนัสยาเดินทางออกนอกเคหะสถานเพื่อไปเรียนที่มหาวิทยาลัยและไปศาลได้เท่านั้น

สำหรับเงื่อนไขการประกันตัว 5 ข้อของปนัสยา ได้แก่

1. ห้ามจำเลยทำกิจกรรมหรือก่อเหตุที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
2. ห้ามจำเลยเข้าร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
3. ห้ามจำเลยออกนอกเคหสถานตลอดเวลา เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาล ไปเรียนไปสอบ ไปติดต่อราชการที่ศาลอื่น หรือมีเหตุอื่นโดยได้รับอนุญาตจากศาล
4. ห้ามจำเลยออกนอกราชอาณาจักร
5. ให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM)

คดีที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวและปล่อยตัวชั่วคราวแก่ปนัสยามีทั้งหมด 4 คดี ได้แก่ คดีแรก ‘แต่งครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน’ ซึ่งอยู่ในการรับผิดชอบของศาลอาญากรุงเทพใต้ มีนัดฟังคำสั่งในวันนี้ (12 ม.ค. 2565) เวลา 14.00 น. ส่วนอีก 3 คดีมีนัดฟังคำสั่งศาลพรุ่งนี้ (13 ม.ค. 2565) ได้แก่ คดี #ม็อบ19กันยา ‘ทวงอำนาจคืนราษฎร’ เมื่อ 19-20 ก.ย. 2563 และ #ม็อบ2ธันวา ‘ไปห้าแยกลาดพร้าว’ เมื่อ 2 ธ.ค. 2563 ซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลอาญา และคดี #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2563 ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลอยุธยา

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานเพิ่มเติมว่าทนายความได้ยื่นขอให้ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวปนัสยาต่อไป โดยไม่กำหนดระยะเวลา โดยหลังจากการยื่นเรื่องขอขยายระยะเวลาการปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันนี้ ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวและปล่อยตัวชั่วคราวปนัสยาจนถึงวันที่ 25 พ.ค. 2565 โดยให้เหตุผลเรื่องความจำเป็นด้านการศึกษา ซึ่งวันดังกล่าวคือวันสอบปลายภาควันสุดท้ายของปนัสยา นอกจากนี้ ศาลยังเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการออกนอกเคหสถาน จากเดิมห้าม 24 ชม. เปลี่ยนเป็นห้ามเฉพาะเวลา 18.00-6.00 น.

14.35 น. ด่วน! ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุญาตให้ประกันตัว #รุ้งปนัสยา ในคดี #แต่งครอปท็อปเดินห้างสยามพารากอน ต่อไป จนถึงวันที่ 25 พ.ค. 65 ทำให้รุ้งไม่ต้องถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำในวันนี้

ส่วนคดีที่ศาลอาญาและศาลจังหวัดอยุธยา ทั้งสองศาลนัดฟังคำสั่งในวันพรุ่งนี้ (13 ม.ค.) ต่อไป pic.twitter.com/EXluEipRCe

— TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (@TLHR2014) January 12, 2022

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2564 ที่ประชุมผู้บริหารศาลอาญามีมติให้ปนัสยาได้รับการประกันตัวและปล่อยตัวชั่วคราวตามเงื่อนไข 5 ข้อข้างต้น ต่อมาในวันที่ 1 ธ.ค. 2564 ศาลอาญากรุงเทพใต้และศาลจังหวัดอยุธยาได้มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวเช่นเดียวกัน ทำให้ปนัสยาเดินทางออกจากเรือนจำพิเศษหญิงในช่วงค่ำของวันดังกล่าว

ศาลอาญารัชดา และศาลอยุธยา ขยายเวลาประกัน-ลดเงื่อนไข 2 ข้อ

13 ม.ค. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันนี้ (13 ม.ค. 2565) เวลา 11.06 น. ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก อนุญาตให้ประกันตัวปนัสยาต่อจนถึงวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ในคดี #ม็อบ19กันยา 'ทวงอำนาจคืนราษฎร' เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2563 และคดี #ม็อบ2ธันวา ไปห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2563 ต่อไป พร้อมกันนี้ ศาลได้ยกเลิกเงื่อนไขการติดอุปกรณ์ติดตามตัวหรือกำไล EM และยกเลิกเงื่อนไขการจำกัดบริเวณอยู่ในเคหะสถาน 24 ชม. อย่างไรก็ตาม ศาลอาญาได้เพิ่มเงื่อนไขการประกันตัวใหม่สำหรับปนัสยา คือ ห้ามกระทำการใดๆ ที่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อศาลทุกกรณี ขณะเดียวกัน สำนักข่าวราษฎร รายงานเพิ่มเพิ่มว่าปนัสยาได้รับการประกันตัวจากศาลอาญาโดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท และต้องมารายงานตัวต่อศาลทุกๆ 30 วัน

ต่อมาเวลา 15.20 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวปนัสยาโดยไม่กำหนดระยะเวลา พร้อมยกเลิกเงื่อนไขการติดอุปกรณ์ติดตามตัวหรือกำไล EM และยกเลิกเงื่อนไขการจำกัดบริเวณอยู่ในเคหะสถาน 24 ชม. แต่ยังคงไว้ซึ่ง 3 เงื่อนไขเดิม คือ ห้ามทำกิจกรรมหรือก่อเหตุที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันกษัตริย์ ห้ามเข้าร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และห้ามออกนอกประเทศ รวมถึงเพิ่มเงื่อนไขห้ามกระทำการที่เสื่อมเสียต่อศาลทุกกรณี เช่นเดียวกันเงื่อนไขของศาลอาญา

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่าจากคำสั่งศาลทั้งสองแห่ง แม้จะมีการแก้ไขเงื่อนไขการประกันตัว ทั้งการยกเลิกติดกำไล EM และยกเลิกคำสั่งออกนอกเคหสถาน แต่จากคำสั่งของศาลอาญากรุงเทพใต้วานนี้ ทำให้ปนัสยายังคงต้องติดกำไล EM และถูกห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 18.00-06.00 น. และอิสรภาพที่ได้รับในครั้งนี้ยังคงถูกจำกัดเวลาถึงวันที่ 25 พ.ค.2565 ในคดีของศาลอาญากรุงเทพใต้ และถึงวันที่ 15 มิ.ย. 2565 ในคดีของศาลอาญาเท่านั้น หลังจากครบกำหนดตามระยะเวลาดังกล่าว หากคำสั่งศาลมีการเปลี่ยนแปลงไม่อนุญาตต่อประกัน ปนัสยาอาจจะต้องกลับเข้าไปคุมขังในเรือนจำอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน เงื่อนไขของทั้งสามศาลก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีการระบุเรื่อง “การห้ามกระทำการใดๆ กระทบกระเทือนถึงศาลในทุกด้าน” แต่อย่างใด แต่คำสั่งของศาลอาญาและศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เพิ่มเนื้อหาส่วนนี้เข้ามา