Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ผมรู้จักและสนิทกับแซมเมื่อตอนอยู่ในเรือนจำชั่วคราวรังสิต 

สำหรับผม แซม คือ ผู้กล้าต่อสู้กับความอยุติธรรมในทุกที่ จึงทำให้แซมถูกกลั่นแกล้งบ่อย โดยเฉพาะจากผู้คุมในเรือนจำและเจ้าหน้าที่รัฐเสมอ (ขณะนี้แซม ก็ยังต่อกรกับผู้คุมในเรือนจำเพราะถูกรังแก)

เหตุการณ์ที่ทำให้ผมจดจำวีรกรรมกะเทยนักปฏิวัติคนนี้ได้เป็นอย่างดี คือ เหตุการณ์ในเรือนจำชั่วคราวรังสิต แม้จะไม่ถึงขั้นลุกฮือทลายกำแพงคุกกันออกมาแต่ก็ทำให้เกิดการจุดเชื้อไฟการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างใด

เรื่องเกิดขึ้นในวันที่เพื่อนของเราป่วยเป็นโควิดและสภาพร่างกายไม่ไหวมีไข้ขึ้นสูงตัวร้อนมาก 
พวกเราต้องการให้ผู้คุมนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาล 

รอตั้งแต่เช้ายันค่ำก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะถูกนำตัวออกไป

แซม จึงตัดสินใจ ปีนขึ้นไปบนกรงขังแล้วเอายาสีฟันทาที่บริเวณกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นการแสดงอารยะขัดขืนให้ผู้คุมสนใจ

หลังจากนั้น แซมตระโกนเสียงดังลั่นเรือนจำว่า “ผู้ชาย ช่วยกะเทยด้วย กะเทยกำลังจะตาย ช่วยพากะเทยไปหาหมอที…”

หลังสิ้นเสียงแซม ภายในเรือนจำเงียบสนิทเหมือนกำลังช็อก! หรือ กำลังดูว่า ผู้คุมจะโวยวายและเข้ามาทำอะไรแซมหรือไม่?

แต่แซมหาได้หยุดหรือเกรงกลัวไม่ แซมตระโกนพูดออกไปอีกครั้งและยาวกว่าเดิม “ผู้ชาย ช่วยกะเทยด้วย กะเทยกำลังจะตาย กะเทยผีฟ้ากำลังจะตาย (ฟ้าในที่นี้ คือ ฟ้า พรหมศร 555+) ช่วยพากะเทยไปหาหมอที…” 

หลังจากนั้น เริ่มมีเสียงหัวเราะและเสียงเชียร์จากนักโทษในห้องขังอื่นๆตามมาเล็กน้อยเป็นระยะๆ จากนั้นแซมก็เริ่มปราศรัยให้นักโทษทุกคนโดยทันที “ทุกคนไม่ต้องกลัว กะเทยอยู่นี้แล้ว กะเทยจะช่วยผู้ชายทุกคนเอง ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า…กะเทยจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน…” 5555+ 

หลังจากนั้น สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทั้งเสียงหัวเราะ เสียงตบมือ เสียงเชียร์ของนักโทษทุกคนทั้งเรือนจำ ช่วยกันประสานเสียงตระโกนเรียก “ผู้คุม” เพื่อให้พาเพื่อนเราไปส่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 

และเพื่อควบคุมสถานการณ์ในเรือนจำไม่ให้เกิดการลุกฮือมากกว่านี้ ผู้คุมจึงต้องนำตัวเพื่อนเราไปส่งโรงพยาบาลโดยทันที 

นี่คือวีรกรรมหนึ่งของแซม ที่พวกเราเห็นจิตวิญญาณนักปฏิวัติในตัวแซม 

แต่หากทุกคนได้รู้จักแซม สาแมท คุณจะรักแซม

ชีวิตแซมน่าสงสารมาก แซมอยากเรียนหนังสือมาก อยากใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย แต่เพราะแซมเป็นคนไทยที่ต้องรอการรับรองสัญชาติ จึงทำให้แซมขาดโอกาสทางการศึกษาตั้งแต่เด็ก

ผมจำได้ว่า “แซมเล่าทั้งน้ำตา” เรื่องที่ตอนสมัยเด็กทางโรงเรียนไม่ให้แซมเรียนต่อเพราะแซมไม่มีสัญชาติไทย แซมร้องไห้หนักมาก ได้แต่ยืนดูเพื่อนๆวิ่งเล่นกันในโรงเรียน 

แซมไม่ได้เห็นหน้าพ่อและแม่มาตั้งแต่เด็ก 

แต่คนในหมู่บ้านรับรู้กันดีว่าแซม “เป็นคนไทย”

แซม ต้องใช้ชีวิตคนเดียวอย่างปากกัด ตีนทีบ ถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีมาตลอดทั้งชีวิต เพราะความที่ต้องรอการรับรองสัญชาติไทย
 
จนถึงวันที่มีการชุมนุมเคลื่อนไหวของนักศึกษาและประชาชนตั้งแต่ปี 2563-ปัจจุบัน ทำให้แซมเห็นความหวังในการปลดโซ่ตรวนแห่งความอยุติธรรมทางชนชั้นที่เกิดจากปัญหาเชิงโครงสร้าง 

แซมจึงตัดสินใจเข้าร่วมชุมนุมในฐานะ “มวลชนเพื่อมวลชน” โดยลาออกจากงานและต้องถูกดำเนินคดีและเข้า-ออก เรือนจำหลายครั้ง จนถึงปัจจุบัน แซม สาแมท ก็ยังอยู่ในเรือนจำและถูกกลั่นแกล้งจากผู้คุมในเรือนจำ ณ ขณะนี้

ผมเป็นห่วงแซมมาก 

แซมเป็นคนที่ทำให้ผมหัวเราะเสมอ

คิดถึง แซม สาแมท

 

ที่มา: เฟสบุ๊ค ธัชพงษ์ แกดำ https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=10223849469016944&id=1601966458

'แซม สาแมท' คนไร้สัญชาติที่ถูกคุมขังจากคดีชุมนุม #ม็อบ28กุมภา ติดเชื้อโควิด ถูกส่งตัวไปรพ.ราชทัณฑ์

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน: ‘คนในโรงพยาบาลสนามทุกข์ยาก…เหมือนเอาสัตว์มาขังไว้เฉยๆ’: เสียงสะท้อนจากฟ้า พรหมศร

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน: “ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาล ที่นี่มันคือคุก”: บันทึกเยี่ยมนิว แซม ฟ้า และเพนกวิน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net