'เพื่อไทย' ชี้ รธน. ฉบับ ปชช.ไม่ถึงฝั่งแต่ไม่สูญเปล่า เดินหน้ากระชากหน้ากากรัฐบาล-ส.ว ใครกันแน่ที่มาจากเงาเผด็จการ - หวัง 'ประยุทธ์' ไม่สั่งทหารเลี้ยงหมูแก้ราคาพุ่ง หลังโชว์วิสัยทัศน์แก้ผักชี้แพง น้ำมันแพงด้วยทหาร

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร โฆษกพรรคเพื่อไทย

20 พ.ย. 2564 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา มีมติไม่รับหลักการในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมว่า รู้สึกผิดหวังกับผลการลงมติในครั้งนี้ ทั้งที่ภาคประชาชนได้ร่วมกันกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ยึดโยงกับประชาชนขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศผ่านกระบวนการนิติบัญญัติอย่างสุดความสามารถ ซึ่งเป็นหลักการที่พรรคเพื่อไทยยึดถือมาโดยตลอด แม้ในครั้งนี้เสียงโหวตของพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิสภาบางส่วน จะไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลและเสียงโหวตของสมาชิกวุฒิสภา รวม 473 เสียงไปได้ พรรคเพื่อไทยมองว่า อย่างน้อยการขับเคลื่อนจากประชาชนในครั้งนี้ถือเป็นกลไกที่เข้มแข็ง ระหว่างสภาผู้แทนราษฎรที่ทำงานตอบสนองความต้องการของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยรูปแบบทางตรง ซึ่งจับมือกันอย่างเหนียวแน่นกับประชาธิปไตยทางอ้อมอย่างภาคประชาชนในการแก้ไขวิกฤตของประเทศ

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า น่าเศร้าตรงที่ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่มี ส.ว.จากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารที่มีอำนาจในทางนิติบัญญัติล้นเหลือ แต่เชื่อมั่นว่าพลังของประชาชนและพรรคการเมืองซึ่งมีที่มาจากประชาชนจะช่วยเปลี่ยนแปลงประเทศได้ แม้ผิดหวังแต่จะไม่หมดหวัง เพราะพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าเตรียมขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 โดยเร็ว เพื่อเปิดโปงถึงความไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถในการบริหารบ้านเมืองของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ​ (พปชร.) ระบุว่าการที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชนเพื่อหวังหาเสียงนั้นถือเป็นความคิดที่คับแคบ ไม่มีประชาชนอยู่ในหัวใจ นายไพบูลย์คงหลงระเริงและเคยชินกับการปกครองที่ใช้อำนาจรัฐมากเกินไปโดยไม่มีใจเป็นธรรม ทำตัวอยู่เหนือประชาชน ไม่เคยสนใจสาเหตุแห่งความทุกข์ยากของประชาชนที่เกิดจากผลพวงของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ซึ่งเป็นเนื้อแท้ของเผด็จการ เครือข่ายอำนาจและผลประโยชน์

“ความพยายามของภาคประชาชนในครั้งนี้ไม่สูญเปล่า เพราะถือว่าได้กระชากหน้ากาก ส.ว. กับพรรคร่วมรัฐบาลให้ออกมาเปลือยกายเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงที่เป็นอุปสรรคต่อประเทศได้เป็นอย่างดี ตอกย้ำว่าใครที่มาจากประชาชน และใครกันแน่ที่มาจากเงาของเผด็จการ” นางสาวธีรรัตน์

หวัง 'ประยุทธ์' ไม่สั่งทหารเลี้ยงหมูแก้ราคาพุ่ง หลังโชว์วิสัยทัศน์แก้ผักชี้แพง น้ำมันแพงด้วยทหาร

นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจแต่ไม่เคยแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนได้สำเร็จ กลายเป็นรัฐบาลไร้น้ำยา แก้ปัญหาปลายเหตุ ไม่สนใจความเดือดร้อน ปล่อยประชาชนตามยถากรรม เริ่มตั้งแต่การแก้ไขปัญหาราคาผักชีแพงด้วยการให้ทหารปลูกเพื่อให้ราคาลดลง ซึ่งเป็นการบิดเบือนกลไกตลาดตามธรรมชาติ การปลูกผักชี 1 ไร่ได้ผลผลิตอยู่ที่ 1,300-1,500 กิโลกรัม ต้นทุนการผลิตอยู่ไร่ละเกือบ 5,000 บาท ใช้เวลา 40-45 วัน ซึ่งในเวลานั้นกลไกราคาจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

จนมาถึงปัญหาราคาน้ำมันดีเซลราคาแพงจนผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกออกมาเคลื่อนไหวปิดถนนเรียกร้องให้รัฐบาลลดราคาน้ำมันดีเซล 25 บาท หากไม่ดำเนินการจะหยุดเดินรถ 80,000 คัน แต่ พล.อ.ประยุทธ์กลับประกาศจะใช้รถทหาร 3,700 คันมาขนส่งสินค้าแทน คนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ไม่ใช่คิดเอารถทหารมาแย่งงานธุรกิจขนส่งของประชาชน ขณะเดียวกันฟังก์ชั่นรถทหารไม่เอื้อในการขนสินค้าเพราะมีเพียงรถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก, ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ มีน้ำหนักบรรทุก 1, 4 และ 8 ตันเท่านั้น ความเชี่ยวชาญงานขนส่งของทหารไม่เหมือนกับพนักงานขนส่ง ทำให้การขนส่งไม่เกิดประสิทธิภาพ ทุกอย่างต้องมีต้นทุน รถทหารต้องใช้น้ำมันดีเซล จึงเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับกองทัพโดยที่ไม่ใช่ภารกิจหลักและภารกิจรองของกองทัพ มีผลต่อการของบประมาณที่สูงขึ้นในงบประมาณปีหน้า อายุการใช้งานอาจทำให้ต้องซื้อรถทหารใหม่ทดแทนในภายหน้าตามมาอีก

“ล่าสุดราคาหมูที่พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 10 ปี อาจทำให้มีเนื้อหมูขายถึงไม่เกินปลายเดือนธันวาคมนี้ หวังว่าพล.อ.ประยุทธ์ คงไม่แก้ปัญหาด้วยการให้ทหารมาเลี้ยงหมูเพื่อแก้ปัญหาอีก ยิ่งตอกย้ำคำถามของสังคมว่าทหารมีไว้ทำไม” นางสาวตรีชฎากล่าว

ที่มาเรียบเรียงจากเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย [1] [2]