Skip to main content
sharethis

กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ออกแถลงการณ์กรณีที่ถูกคนในราชสกุล "รังสิต" ฟ้องร่วมกับณัฐพล ใจจริงผู้เขียน “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท กุลลดาระบุว่าการฟ้องนี้ละเมิดหลักเสรีภาพทางวิชาการและจะสร้างผลกระทบต่อแวดวงวิชาการในอนาคต พร้อมติงบทบาทของจุฬาฯ ที่ไม่ได้ปกป้องแต่กลับตั้งคณะกรรมการสอบซ้ำอีก

9 พ.ย.2564 จากกรณีที่วันนี้ที่ศาลแพ่งจะมีการไต่สวนและนัดชี้สองสถานหรือนัดสืบพยาน แฟนเพจ ฟ้าเดียวกัน ลงแถลงการณ์ของ กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้ถูกฟ้องร่วมในคดีที่ ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต เป็นโจทก์ฟ้องผู้เขียนหนังสือ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” และผู้เกี่ยวข้อง โดยโจทก์อ้างว่าข้อความในหนังสือดังกล่าวมีบางตอนบิดเบือนทำลายชื้อเสียงของต้นราชสกุลรังสิต เรียกค่าเสียหาย 50,000,000 บาท ในฐานความผิดละเมิดไขข่าวด้วยข้อความฝ่าฝืนความจริง

ในแถลงการณ์ดังกล่าวของกุลลดาระบุว่า การถูกดำเนินคดีครั้งนี้มีทั้งในส่วนที่เธอเกี่ยวข้องในฐานะเป็อาจารย์ที่ปรึกษาให้แก่วิทยานิพนธ์ให้แก่ณัฐพล ใจจริง และในส่วนของหนังสือ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” ที่ไม่ได้มีบทบาทใดๆ

กุลลดาระบุว่า การดำเนินคดีครั้งนี้เป็นการท้าทายต่อหลักการเสรีภาพทางวิชาการ การฟ้องดำเนินคดีนี้เป็นการละเมิดหลักการและจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อวงการวิชาการในอนาคตด้วย

“คดีนี้ จึงเป็นการต่อสู้เพื่อรักษาหลักการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบทบาทของอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งมีหลักการเป็นสากลว่าผลผลิตของวิทยานิพนธ์ย่อมเป็นความรับผิดชอบของผู้ทำวิทยานิพนธ์นั้น” กุลลดาระบุไว้ในแถลงการณ์

อดีตอาจารย์จุฬาฯ กล่าวถึงส่วนกระบวนการพิจารณาวิทยานิพนธ์นี้ว่า วิทยานิพนธ์ของณัฐพลชิ้นนี้ได้ผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแล้วและมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าวิทยานิพนธ์สอบผ่านในระดับดีมาก และเป็นงานวิชาการที่เปิดให้มีการโต้เถียงได้อย่างเสรี อย่างไรก็ตามเธอได้แสดงถึงความเสียใจต่อบทบาทของมหาวิทยาลัยในเรื่องนี้ว่าไม่ได้ทำไปตามหลักการและช่วยปกป้องเธออีกทั้งยังตั้งคณะกรรมการสอบสวนบทบาทของเธอในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาอีก

“หากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความเป็นสถาบันวิชาการในระดับสากล ก็ควรต้องรับรองหลักการดังกล่าวอันเกิดขึ้นภายในสถาบันของตนด้วย และควรต้องมีบทบาทในการปกป้องดิฉันซึ่งทำหน้าที่อันชอบธรรมตามคำสั่งของมหาวิทยาลัย”

"สมาคมเอเชียศึกษา" เรียกร้องให้ยุติการคุกคามเสรีภาพวิชาการต่อผู้เขียน “ขุนศึก ศักดินาและพญาอินทรี”

คดีนี้มีผู้ถูกฟ้องทั้งหมด 5 คนได้แก่ จำเลยที่ 1 ณัฐพล ใจจริง ในฐานะผู้เขียนวิทยานิพนธ์ “การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ.2491-2500)” ซึ่งภายหลังได้ปรับมาเป็นหนังหนังสือ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” ฟ้าเดียวกัน จำเลยที่ 2กุลลดา เกษบุญชู มี้ด อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, จำเลยที่ 3ชัยธวัช ตุลาธน, จำเลยที่ 4 อัญชลี มณีโรจน์ ในฐานะหุ้นส่วนสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ห้างหุ้นส่วนจำกัดสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน และจำเลยที่ 5 ธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน จำเลยที่ 5

มติชนออนไลน์เคยรายงานรายว่า ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต ผู้ฟ้องคดีนี้ดำเนินการในฐานะหลานของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร โดยมอบหมายให้สมผล ตระกูลรุ่ง ทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2564 

นอกจากนั้นได้ระบุรายละเอียดท้ายคำฟ้องไว้ว่า “เนื่องจากจำเลยทั้งหกยังคงไขข่าวให้แพร่หลาย ซึ่งข้อความเป็นฝ่าฝืนความจริง อันทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายจนยากที่จะเยียวยาแก้ไขได้ โจทก์จึงใคร่ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามจำเลยทั้งหกกระทำซ้ำหรือกระทำต่อไปซึ่งการละเมิด โดยให้จำเลยทั้งหกหยุดเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จซึ่งปรากฏอยู่ในวิทยานิพนธ์ หนังสือ “ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ : ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิปักษ์ปฏิวัติสยาม (พ.ศ. 2475-2500)” และหนังสือ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อไป ขอศาลโปรดอนุญาต ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net