ญี่ปุ่นให้คนทำงานภาครัฐลางานแบบได้ค่าจ้าง 10 วันต่อปี เพื่อรักษาภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากประเทศมีอัตราการเกิดต่ำ
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2564 ยูโกะ คาวาโมโตะ ประธานสำนักงานบุคลากรแห่งชาติ (National Personnel Authority) ของญี่ปุ่น ได้แถลงว่าคนทำงานภาครัฐลางานแบบได้ค่าจ้าง 10 วันต่อปี เพื่อรักษาภาวะมีบุตรยาก เริ่ม ม.ค. 2565
"ภาครัฐจะริเริ่มการสนับสนุนดังกล่าว" คาวาโมโตะ กล่าว และเธอหวังว่านโยบายดังกล่าวของภาครัฐจะกระตุ้นให้ภาคเอกชนปฏิบัติตาม
การสำรวจออนไลน์ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. 2564 ที่ได้ทำการสอบถามคนทำงานภาครัฐทั่วประเทศประมาณ 47,000 คน พบว่าร้อยละ 1.8 กำลังเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก ในขณะที่ร้อยละ 10.1 ระบุว่าพวกเขาและเธอมีประสบการณ์ในการรักษาภาวะมีบุตรยากมาแล้ว และร้อยละ 3.7 พวกเขาได้พิจารณาเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก
ในบรรดาผู้ที่ได้รับการรักษาภาวะมีบุตรยากหรือกำลังพิจารณาว่าจะรักษาภาวะมีบุตรยากร้อยละ 62.5 ระบุว่า "เป็นเรื่องยากมาก" ที่จะรักษาสมดุลกับการทำงาน ขณะที่ร้อยละ 11.3 กล่าวว่า "เป็นไปไม่ได้" สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือต้องไปพบแพทย์บ่อย ๆ ปัญหาด้านค่าใช้จ่าย และตารางเวลาการบำบัดที่ไปทับกับเวลางาน
นโยบายใหม่ของสำนักงานบุคลากรแห่งชาติ มีเป้าหมายเพื่อแบ่งเบาภาระให้คนทำงานภาครัฐที่เป็นพนักงานประจำทำงานเต็มเวลาและพนักงานชั่วคราว สามารถลางานโดยได้รับค่าจ้างได้ 5 วัน และมีเวลาเพิ่มอีก 5 วันหากจำเป็นและยังอนุญาตให้ลางานอย่างยืดหยุ่นขึ้น เช่น หยุด 2-3 ชั่วโมงไปพบแพทย์ในช่วงเวลาทำงาน
นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ สุกะ ได้ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงการรักษาภาวะมีบุตรยากในประเทศ และผลักดันให้เข้าไปอยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพตั้งแต่เดือน เม.ย. 2565
จำนวนเด็กที่เกิดใหม่ในญี่ปุ่นลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 840,832 คน ในปี 2563 และยังมีแนวโน้มลดลงอีกจากผลกระทบของ COVID-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจและสังคมของญี่ปุ่น
อัตราการเจริญพันธุ์โดยรวม [จำนวนบุตรเกิดรอดโดยเฉลี่ยต่อสตรีในวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 15-49 ปี) ในช่วงเวลาหนึ่ง แสดงในรูปของอัตราส่วนต่อสตรี 1,000 คน] ของญี่ปุ่นอยู่ที่ 1.34 ลดลงจากปีก่อนหน้า 0.02 จุด
ที่มาเรียบเรียงจาก
Japan to give public employees paid leave for infertility treatment (THE JAPAN TIMES, 14 August 2021)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)