เผยองค์กรในประเทศต้นทางที่จัดหาผู้ร่วมโครงการฝึกทักษะด้านเทคนิคสำหรับแรงงานต่างชาติ แนะนำผู้เข้าโครงการที่เป็นผู้หญิงชาวเวียดนามคุมกำเนิดก่อนไปทำงานยังประเทศญี่ปุ่น
สำนักข่าว Kyodo News เปิดเผยเมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. 2024 ว่าผู้ฝึกงานด้านเทคนิคหญิงชาวเวียดนามบางคนได้รับคำแนะนำให้คุมกำเนิดโดยองค์กรจัดหาผู้เข้าร่วมโครงการฝึกทักษะด้านเทคนิคให้แก่แรงงานชาวต่างชาติของญี่ปุ่น ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าละเมิดสิทธิในการเจริญพันธุ์ของผู้ฝึกงานชาวต่างชาติ
รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะยกเลิกโครงการฝึกงานด้านเทคนิคสำหรับชาวต่างชาติในปัจจุบัน โครงการนี้เริ่มในปี 1993 มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้และทักษะไปยังประเทศกำลังพัฒนา แต่โครงการนี้ก็ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นเอารัดเอาเปรียบแรงงานชาวต่างชาติค่าแรงต่ำ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงมีแผนสร้างโครงการใหม่ที่คำนึงถึงปัญหาและการละเมิดสิทธิที่พบในโครงการปัจจุบัน รวมถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น การค้างจ่ายค่าจ้างและการคุกคามคนทำงาน
เวียดนามส่งผู้ฝึกงานด้านเทคนิคจำนวนมากที่สุดไปยังญี่ปุ่นภายใต้โครงการนี้
จากการสำรวจล่าสุดที่ดำเนินโดยกลุ่มช่วยเหลือแรงงานชาวเวียดนามในญี่ปุ่น พบว่าผู้เข้าร่วมโครงการฝึกงานด้านเทคนิคชาวเวียดนามที่เป็นผู้หญิง 9 คน ได้รับคำแนะนำจากองค์กรตัวกลางท้องถิ่นที่ประเทศเวียดนามให้ทำการคุมกำเนิดก่อนมาทำงานยังประเทศญี่ปุ่น โดย 5 คน ได้ทำการคุมกำเนิดตามคำแนะนำนี้
ในหลายกรณี องค์กรตัวกลางมักจะแนะนำผู้เข้าร่วมโครงการชาวเวียดนามว่าพวกเขาจะถูกส่งกลับบ้านหากตั้งครรภ์
ผู้เข้าร่วมโครงการฝึกงานด้านเทคนิคชาวเวียดนามที่เป็นผู้หญิงทั้ง 5 คน ที่เข้ารับการคุมกำเนิด ปัจจุบันยังทำงานในญี่ปุ่น โดยหนึ่งในนั้นแสดงความเห็นในแบบสำรวจว่าเธอคิดว่าเธอไม่สามารถไปญี่ปุ่นได้ หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำนี้ ส่วนผู้เข้าร่วมโครงการอีก 4 คน ที่ไม่ได้คุมกำเนิด ให้เหตผลในการปฏิเสธด้วยเรื่องค่าใช้จ่ายและเหตุผลอื่น ๆ
มีกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมโครงการฝึกงานด้านเทคนิคชาวเวียดนามในญี่ปุ่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กรณีหนึ่งเกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมโครงการหญิงคนหนึ่งซึ่งถูกจับในข้อหาทิ้งร่างทารก เพราะกลัวนายจ้างจะส่งเธอกลับบ้านหากพบว่าตั้งครรภ์
ภายใต้กฎหมายของญี่ปุ่น ได้รับประกันโอกาสในการจ้างงานที่เท่าเทียมกันสำหรับชายและหญิง ห้ามมิให้ปฏิบัติต่อคนทำงานที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร และแรงงานต่างชาติมีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์ เช่น เงินช่วยเหลือการคลอดบุตรและค่าดูแลเด็ก การลาก่อนและหลังคลอด และการดูแลเด็ก
อย่างไรก็ตาม การสำรวจเน้นย้ำว่าสิทธิในการเจริญพันธุ์ของผู้เข้าร่วมโครงการฝึกงานด้านเทคนิคชาวต่างชาติ ซึ่งทำให้พวกเขาตัดสินใจได้ว่าจะมีและเลี้ยงดูบุตรหรือไม่ นั้นยังไม่ได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังภายใต้ระบบปัจจุบัน
เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นกล่าวว่า “มันจะเป็นปัญหาหากการคุมกำเนิดไม่ได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้น” และเสริมว่า ไม่ควรมีใครถูกเลือกปฏิบัติเนื่องจากการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะสัญชาติใดก็ตาม
การสำรวจที่ดำเนินการระหว่างเดือน ส.ค.-ก.ย. 2023 ครอบคลุมผู้เข้าร่วมโครงการฝึกงานด้านเทคนิคชาวเวียดนามทั้งในปัจจุบันและอดีต จำนวน 59 คน ในบรรดาผู้ตอบแบบสอบถาม 36 คนกล่าวว่าพวกเขาได้รับคำแนะนำจากองค์กรตัวกลางที่ประเทศต้นทางให้หลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์
จิโฮ โยชิมิสึ (Jiho Yoshimizu) ตัวแทนของเอ็นจีโอที่ทำการสำรวจนี้ กล่าวว่าเป็นที่น่าสงสัยว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะสามารถเลือกที่จะคุมกำเนิด ตามความตั้งใจของตนเองได้จริงหรือไม่
“เป็นปัญหาจากมุมมองด้านมนุษยธรรมที่การมีคนรัก แต่งงาน และการตั้งครรภ์ของคนทำงานต่างชาติถูกจำกัด เนื่องจากระบบของญี่ปุ่นไม่สามารถรองรับพวกเขาได้อย่างเพียงพอ” โยชิมิสึ กล่าว
ภายใต้โครงการฝึกงานด้านเทคนิคสำหรับชาวต่างชาติ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมชาวต่างชาติสามารถระงับการฝึกอบรมเมื่อตั้งครรภ์หรือคลอดบุตรและกลับมาฝึกอีกครั้งในภายหลังได้
หากการฝึกอบรมถูกยกเลิกโดยขัดต่อความประสงค์ของผู้เข้ารับการฝึกอบรมเนื่องจากการตั้งครรภ์หรือการคลอดบุตร นายจ้างและองค์กรกำกับดูแลจะถูกลงโทษทางวินัยตามกฎหมายเพื่อปกป้องผู้ฝึกงานด้านเทคนิค
ที่มา:
Vietnamese trainees told to undergo contraception to work in Japan (Kyodo News, 21 January 2024)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)