Skip to main content
sharethis

หลังจากที่ก่อนหน้านี้องค์การเภสัชฯ ระบุว่าจะส่งร่างสัญญาซื้อขายวัคซีนโมเดอร์นาให้อสส.พิจารณา นอกจากนี้อสส.ยังระบุว่าก่อนหน้านี้ได้ตรวจร่างสัญญาซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้าแล้วเสร็จใน 5 วัน ชี้ได้ดำเนินการอย่างรัดกุม รอบคอบ รวดเร็ว เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับประชาชน ด้านอินโดนีเซียจ่อได้รับวัคซีนโมเดอร์นาจำนวน 4 ล้านโดสจากโครงการ COVAX

2 ก.ค. 2564 วันนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดชี้แจงกรณีการตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีน โมเดอร์นา โดยระบุว่า

"ตามที่มีบุคคลให้ข่าวทางสื่อมวลชนว่าสัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เพราะองค์การเภสัชกรรมยังไม่ได้เซ็นสัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) กับผู้ขายเพราะการตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ยังคงค้างอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นเวลาหลายเดือนแล้วนั้น

สำนักงานอัยการสูงสุดขอชี้แจงว่า

1. ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง เพราะไม่เคยมีหน่วยงานใดหรือองค์กรใดส่งร่างสัญญาเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ให้กับสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาตรวจร่างแต่อย่างใด

2. ที่ผ่านมาสำนักงานอัยการสูงสุดเคยได้รับการร้องขอจากองค์การเภสัชกรรม ให้ตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้พิจารณาตรวจร่างสัญญาให้กับองค์การเภสัชกรรมแล้วเสร็จภายใน 1 วัน และสำนักงานอัยการสูงสุดได้รับการร้องขอจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมควบคุมโรคให้ตรวจร่างสัญญาจัดซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (Astrazeneca) ซึ่งทั้งสองสัญญาสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาตรวจร่างสัญญาให้กับสองหน่วยงานดังกล่าวแล้วเสร็จภายใน 5 วันเท่านั้น โดยการพิจารณาตรวจร่างสัญญาดังกล่าวข้างต้น สำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุมและรวดเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ

สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตระหนักในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID19) ที่สังคมไทยเรากำลังเผชิญอยู่และเห็นว่าเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนในสังคมจะต้องร่วมมือร่วมใจในการฟันฝ่ายปัญหาและอุปสรรคดังกล่าวให้ล่วงพ้นไป สำนักงานอัยการสูงสุดจึงให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่านี้เป็นอันดับแรก"

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา องค์การเภสัชกรรมรายงานว่า นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นา ว่า ในการจัดหาวัคซีนโมเดอร์นาเป็นวัคซีนทางเลือก องค์การเภสัชกรรมเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการจัดซื้อระหว่างบริษัทซิลลิก ฟาร์มา จํากัด กับโรงพยาบาลเอกชน ตามแนวทางข้อกำหนดการดำเนินงานของบริษัทโมเดอร์นาต่างประเทศ องค์การฯ ไม่ได้เป็นผู้นำเข้า ขณะนี้องค์การเภสัชกรรมอยู่ในขั้นตอนการจัดทําร่างสัญญา ระหว่างองค์การฯ กับบริษัทซิลลิกฯ ให้สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศไทยและต่างประเทศใกล้เสร็จแล้ว อาทิ สัญญาซื้อขาย สัญญา บริการ หลังจากนั้นองค์การเภสัชกรรมจะส่งร่างสัญญาซื้อขายดังกล่าวให้อัยการสูงสุดพิจารณา คาดว่าจะมีการลงนามสัญญาซื้อขาย (Supply Agreement) กับบริษัทซิลลิก ฯ ได้ในต้นเดือนสิงหาคม 2564

นพ.วิฑูรย์กล่าวต่อว่า องค์การฯ ได้มีการชี้แจงแนวทางการดําเนินการดังกล่าวให้กับทางสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งได้ข้อสรุปว่า องค์การฯ จะได้รับการจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นาจากบริษัทซิลลิก ฯ ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตทะเบียนวัคซีนในประเทศไทย จํานวน 5 ล้านโดส โดยทางบริษัทซิลลิก ฯ จะทยอยจัดส่งให้องค์การฯ ในไตรมาสที่ 4/2564 ถึงเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมาได้ประสานงานกับโรงพยาบาลเอกชนเพื่อคาดการณ์การจองวัคซีนอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าจํานวนที่จองมีมากกว่าจํานวนวัคซีนที่จะได้รับการนําเข้า ดังนั้นโรงพยาบาลจึงขอกลับไปทบทวนเพื่อปรับจํานวนการสั่งซื้ออีกครั้ง และภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2564 องค์การเภสัชกรรมจะมีการประชุมบอร์ด ซึ่งจะมีความชัดเจนเรื่องราคาที่จําหน่ายให้กับโรงพยาบาล เป็นราคาที่รวมค่าจัดเก็บ ค่าขนส่ง ค่าประกันภัยรายบุคคลฉีดวัคซีน และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว พร้อมแจ้งให้โรงพยาบาลรับทราบภายในต้นกรกฎาคม 2564 เพื่อให้แจ้งยืนยันจํานวนวัคซีนที่สั่งซื้อภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 เมื่อรับคำสั่งซื้อพร้อมงบประมาณจากโรงพยาบาล องค์การฯ จะเซ็นสัญญาสั่งซื้อกับบริษัทซิลลิกฯ ต่อไป คาดว่าประมาณเดือนสิงหาคม 2564

ผู้บริหาร รพ.ธนบุรี แฉต่อสายตรงถึงผู้ผลิตไฟเซอร์-โมเดอร์นา พบรัฐบาลไทยยังไม่เซ็นสัญญาสั่งซื้อ

อนึ่งผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ (2 ก.ค. 2564) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าทางการอินโดนีเซียรับรองให้ใช้วัคซีนโมเดอร์นาเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว โดยอินโดนีเซียจะได้รับวัคซีนโมเดอร์นาจำนวน 4 ล้านโดสจากโครงการ COVAX โดยเมื่อกลางเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา อินโดนีเซียทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์นาจำนวน 5.2 ล้านโดส

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net