Skip to main content
sharethis

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกร้องรัฐบาลไทยต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน กรณีการรัฐประหารในพม่า หลังอินโดนีเซีย-มาเลเซีย มีความเห็นพ้องควรผลักดันให้ชาติอาเซียนจัดประชุมนัดพิเศษแล้ว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

6 ก.พ. 2564 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีความเห็นพ้อง ควรผลักดันให้ชาติอาเซียนจัดประชุมนัดพิเศษหารือเกี่ยวกับปัญหาภายในประเทศพม่า ว่าจนถึงขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะประณามหรือยกย่องการทำรัฐประหารในเมียนมา เหมือนน้ำท่วมปาก ปฏิเสธลำบาก จึงอ้อมแอ้มพูดได้เพียงแค่ว่า ท่าทีประเทศไทยจะยึดตามท่าทีอาเซียน ทั้งที่หากมีจุดยืนประชาธิปไตยให้ทั่วโลกเชื่อมั่นพล.อ.ประยุทธ์ ต้องแสดงท่าทีที่ชัดเจนตรงไปตรงมาว่า ไม่เห็นด้วยและยืนตรงข้ามการรัฐประหารทุกกรณี ขนาดโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ ยังแสดงความชื่นชมยินดีได้ แต่ปัญหาการรัฐประหารในพม่าเพื่อนบ้านที่มีทั้งประเด็นละเมิดสิทธิมนุษยชน ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ประชาชน การจับกุมผู้นำทางการเมือง การปิดกั้นสื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จะแสดงท่าทีห่วงใยประเด็นได้ก็ได้ ไม่ใช่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยเงียบไปเฉย ๆ แบบนี้

“พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นผู้นำการรัฐประหารของไทย ที่เป็นไอดอลของทหารเพื่อนบ้าน หรือชอบการยึดอำนาจเป็นชีวิตจิตใจก็ชอบไป แต่ท่าทีของรัฐบาลไทยต่อการรัฐประหารต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน” นายอนุสรณ์ กล่าว

เรียกร้องรัฐบาลเร่งออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวขนาดกลางและขนาดเล็ก

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการ และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าในวิกฤติไวรัสโควิดนี้ นักท่องเที่ยวกว่า 40 ล้านคนที่เข้ามาเที่ยวไทยต้องหยุดการเดินทาง รายได้ที่เคยเข้าประเทศประมาณ 1.9 ล้านล้านบาทต้องหายไป ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่รัฐบาล กลับไม่ได้มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวแต่อย่างใด ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลได้ฟังคำร้องขอของ นักธุรกิจใหญ่ทางด้านการท่องเที่ยว เช่น นายวิลเลียม ไฮนากี้ เจ้าของไมเนอร์กรุ๊ป และ นายแพทย์ปราเสริฐปราสาททองโอสถ เจ้าของบางกอกแอร์เวย์ ที่ต้องออกมาท้วงติงการบริหารของรัฐบาล เพื่อได้พิจารณาแก้ไข ซึ่งหลายประเด็นเป็นเรื่องน่าจะต้องนำมาพิจารณา

นายจักรพล กล่าวต่อว่า คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ได้เร่งช่วยเหลือเยียวยา ธุรกิจ SMEs ด้านการท่องเที่ยวก่อนที่จะล้มหายตายจากกันหมด โดยอยากให้รัฐบาลได้ประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย ในการออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟท์โลนแก่ธุรกิจ SMEs ท่องเที่ยวในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ หรือ 0% ได้จะยิ่งดี เพื่อให้ประคองให้ผ่านพ้นภาวะวิกฤติเศรษฐกิจช่วงนี้ไปได้ เพื่อรอการท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นตัวกลับมา ทั้งนี้อยากให้ช่วยอุดหนุนการจ้างงานของแรงงานภาคท่องเที่ยวด้วย เพราะย่ำแย่กันมานาน ห่วงว่าจะตกงานกันหมด โดยรัฐอาจจะพิจารณาช่วยออกค่าจ้าง 50% เพื่อประคองการจ้างงาน แทนที่รัฐบาลจะไปสร้างงานใหม่ 250,000 ตำแหน่งตามที่รัฐบาลเคยพูดไว้เองแต่ไม่รู้จะจ้างไปทำอะไร ก็น่าจะนำเงินนี้มาช่วยรักษาการจ้างงานไม่ให้คนตกงานก็จะได้ผลเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ประเด็นการที่จะต้องเร่งนำเข้าวัคซีนเพื่อฉีดให้กับประชาชนโดยทั่วถึงก็จะเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพราะจะทำให้การท่องเที่ยวฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้มีข้อเสนอ 4 ข้อของนักธุรกิจใหญ่ด้านท่องเที่ยวคือ 1) ให้เพิ่มกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านการให้บริการเข้าไปในกลุ่มผู้รับวัคซีนระยะแรก 2)พิจารณาทางเลือกเกี่ยวกับวัคซีนให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วน 3) อนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องมีการกักตัว 4) เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาพร้อมกับ “หนังสือเดินทางการวัคซีน” ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำมาพิจารณาเพื่อเร่งดำเนินการ ไม่ใช่ปล่อยผ่าน หรือเอาแต่คิดแล้วไม่เร่งทำ

“รัฐบาลจึงควรต้องหาทางช่วยเหลือเพื่อให้ธุรกิจท่องเที่ยวนี้ผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะประชาชนที่ทำงานในธุรกิจนี้ ที่รัฐบาลจะต้องช่วยให้พวกเขาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ อย่าปล่อยพวกเขาตามยถากรรมเพราะเดือดร้อนหนักเป็นอย่างมาก อย่าปล่อยให้พวกเขาเผชิญความลำบากโดยลำพังโดยรัฐบาลไม่เหลียวแล ซึ่งหากพลเอกประยุทธ์ทำไม่ได้ หรือ ไม่เข้าใจ ก็ควรจะเสียสละให้คนที่เขารู้เรื่องเข้ามาทำแทน ประชาชนจะได้ไม่ลำบากขนาดนี้” นายจักรพล กล่าว

ที่มาเรียบเรียงจากเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย [1] [2]
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net