Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนแจ้งศาลแขวงปทุมวันให้ 1 ผู้ชุมนุมที่ชูสามนิ้วและตะโกนใส่ตำรวจว่า “ขี้ข้าเผด็จการ” และ 6 พนักงานบริษัทเครื่องขยายเสียงประกันตัวคนละ 20,000 บาทได้หลังถูกจับไปจากแยกราชประสงค์เมื่อคืนวานนี้และถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งนี้ ส.ส.ก้าวไกลพยายามใช้ตำแหน่งช่วยประกันแต่ศาลไม่อนุญาต

16 ต.ค. 2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลแขวงปทุมวัน กรณีเจ้าหน้าที่จับกุมประชาชนจากการชุมนุม #15ตุลาไปราชประสงค์ ที่แยกราชประสงค์ในช่วงค่ำวันที่ 15 ต.ค. 63 ทั้งหมด 7 ราย โดยแยกเป็นนาย “เดชา” (นามสมมติ) ชายวัย 46 ปี ที่ได้ชูสามนิ้วและตะโกนด่าตำรวจว่า “ขี้ข้าเผด็จการ” ขณะกำลังเข้าพื้นที่ชุมนุม และอีก 6 ราย เป็นพนักงานขับรถเครื่องขยายเสียงที่นำมาใช้ในการชุมนุม ทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการชุมนุมมั่วสุมตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน (บก.ตชด.ภาค 1) ในช่วงคืนวานนี้

ช่วงเช้าวันนี้ พนักงานสอบสวนสน.ลุมพินีไม่มีคำสั่งให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ทั้ง 7 คน จึงได้ถูกนำตัวไปยังศาลแขวงปทุมวัน เพื่อขออำนาจฝากขัง โดยตำรวจระบุว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องทำการสอบพยานอีก 5 ปาก รอผลตรวจลายนิ้วมือผู้ต้องหา ทำให้มีเหตุจำเป็นในการผัดฟ้องและควบคุมตัวผู้ต้องหา มีกำหนด 6 วัน ก่อนศาลจะอนุญาตให้ฝากขัง

จากนั้นทนายความได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวเดชา โดยใช้ตำแหน่งของ ส.ส. พรรคก้าวไกล จนเวลา 13.20 น. ศาลแขวงปทุมวันได้ยกคำร้องขอปล่อยตัว เนื่องจากผู้ประกันเป็น ส.ส. ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติใกล้ชิดกับผู้ต้องหา และยากแก่การบังคับคดี จึงเห็นควรอนุญาตให้ประกันโดยใช้หลักประกันเป็นเงิน 20,000 บาท ญาตินายเดชาจึงได้นำเงินสดมายื่นขอประกันตัวใหม่ และศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

ในส่วนพนักงานขับรถเครื่องเสียงอีก 6 คน ทนายความได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ใช้หลักทรัพย์ประกันตัว เนื่องจากทั้งหมดไม่ใช่ผู้ร่วมชุมนุมตามที่ถูกกล่าวหา เพียงแต่มีความจำเป็นตามหน้าที่ซึ่งนายจ้างมอบหมาย และพนักงานสอบสวนยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้อีก ผู้ต้องหายังไม่สามารถไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวน และไม่มีทางหลบหนี เนื่องจากยังจำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพครอบครัว นอกจากนั้นความผิดในคดีนี้ยังเป็นความผิดอาญาเล็กน้อย มีโทษอย่างสูงไม่เกิน 2 ปี

ต่อมาเวลา 14.50 น. ศาลได้มีคำสั่ง เห็นว่าเนื่องจากพฤติการณ์คดีนี้เป็นทำนองเดียวกันกับคดีนาย “เดชา” จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้หลักประกันเป็นเงิน 20,000 บาท และให้ยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน ผู้ต้องหาจึงยื่นหลักทรัพย์ประกันคนละ 20,000 บาท และศาลได้อนุญาตให้ประกันตัว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net