Skip to main content
sharethis

28 ส.ค. 2563 ผู้ได้รับหมายเรียกคดีเยาวชนปลดแอก 15 คน ตั้งขบวนเดินเท้าจากอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา หลังจัดกิจกรรม 'นอนแคมป์ไม่นอนคุก' ไปยัง สน.สำราญราษฎร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก

คดีเยาวชนปลดแอก คือ คดีที่กล่าวหาว่าการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นการชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย มีผู้ถูกจับในคดีแล้ว 13 คน และออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหาอีก 15 คนในที่ 28 ส.ค. 2563

09.20 น. ไอลอว์รายงานว่า ผู้ได้รับหมายเรียกและกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาให้กำลังใจผู้ถูกหมายเรียก ตั้งแถวเพื่อเดินไปรายงานตัวตามหมายเรียกที่ สน.สำราญราษฎร์ เส้นทางจากสี่แยกคอกวัวไปทางถนนตะนาว ผ่านทางศาลเจ้าพ่อเสือ โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลการจราจร

09.50 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า กลุ่มผู้ได้รับหมายเรียกและประชาชนที่ตามมาให้กำลังใจประมาณ 200 คน เดินทางมาถึง สน.สำราญราษฎร์ แต่ตำรวจตั้งแผงเหล็กกั้น และอนุญาตเฉพาะนักข่าวที่มีบัตรผู้สื่อข่าวที่ออกโดยกรมประชาสัมพันธ์เข้าไปด้านใน ผู้มาให้กำลังใจจึงดันแผงเหล็กเข้าไปรอที่ลานจอดรถและใต้ถุน สน.สำราญราษฎร์

ไอลอว์รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ระหว่างที่ผู้ชุมนุมผลักดันรั้วมีบุคคลสาดสีน้ำเงิน ทำให้เลอะเนื้อตัวทั้งผู้ชุมนุม นักข่าว และตำรวจ ขณะที่มติชนออนไลน์ รายงานว่า ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบูลส์ เป็นผู้ถือถังสีพลาสติกมาสาดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่วางกำลังอยู่อีกชั้นหนึ่งก่อนถึงใต้ถุนโรงพัก จนตำรวจเปื้อนสีทั้งตัว และกล่าวว่า "นี่ไม่ใช่คำขู่ หากยังคุกคามพวกเราอยู่ ผมจะคุกคามคุณกลับด้วยวิธีที่เป็นศิลปะ"

10.50 น. หลังผู้ได้รับหมายเรียกทยอยเดินทางเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาในตัวอาคาร ขณะที่ผู้มาให้กำลังใจถูกกันให้อยู่เพียงด้านนอก ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนชี้แจงว่า ผู้ที่ได้รับหมายเรียกวันนี้ไม่ได้ถูกตั้งข้อหายุยงปลุกปั่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116

ด้านบีบีซีไทย รายงานว่า ผู้ที่ได้รับหมายเรียกและมารับทราบข้อหาในวันนี้ ได้แก่ ลัลนา สุริโย, ณวรรษ เลี้ยงวัฒนาแอม, กานต์นิธิ ลิ้มเจริญ, จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, จิรฐิตา ธรรมรักษ์, ณัฐพงษ์ ภูแก้ว, สิรินทร์ มุ่งเจริญ, ธนชัย เอื้อชา, พิมพ์สิริ เพชรน้ํารอบ, ยามารุดดิน ทรงศิริ, ชลธิศ โชติสวัสดิ์, ปรัชญา สุรกําจรโรจน์, ทักษกร มุสิกรักษ์, กฤษณะ ไก่แก้ว, และจักรธร ดาวแย้ม

ไอลอว์รายงานว่า แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ ประกาศขอโทษสื่อมวลชนทุกคนเรื่องสีที่สาดกระจาย ระบุว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

12.30 น. พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาในคดีชุมนุมเยาวชนปลดแอก ทุกคนให้การปฏิเสธ ส่วนผู้ที่พังแผงเหล็กกั้นเข้ามาเมื่อช่วงเช้านั้นจะรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป

14.15 น. ผู้ต้องหาทั้ง 15 คน เดินลงมาจาก สน.สำราญราษฎร์ หลังรับทราบข้อกล่าวหา และได้รับการปล่อยตัวในชั้นตำรวจโดยไม่ต้องวางหลักประกัน

จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ 'ไผ่ ดาวดิน' หนึ่งในผู้ต้องหากล่าวว่า เบื้องต้นทุกคนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จะให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 11 ก.ย. 2563 ก่อนพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้อัยการที่สำนักงานอัยการแขวงดุสิตในวันที่ 16 ก.ย. 2563

จตุภัทร์กล่าวต่อว่า ไม่ควรมีใครรู้สึกชินชาต่อความอยุติธรรมในสังคมนี้ กฎหมายที่เป็นเครื่องมือจำกัดสิทธิ เสรีภาพ จะยิ่งทำให้กระบวนการยุติธรรมแย่ลงเรื่อยๆ คนขึ้นมาแร็ป ขึ้นพูด หรือเดินผ่านเวทีก็โดน เรื่องนี้ไม่ใช่การส่งต่อความกลัว แต่ส่งต่อความโกรธต่างหาก อยากให้ตำรวจหลายคนที่สนับสนุนประชาธิปไตยออกมาแสดงออกบ้าง ถ้าเคียงข้างประชาชน ประชาชนก็จะปกป้อง ตำรวจต้องเลือกแล้วว่าจะอยู่ข้างประชาชนหรือตรงข้ามประชาชน

นักกิจกรรมจากขอนแก่นยังระบุว่า พวกเราพยายามเรียกร้องอย่างสุภาพมาตลอด แต่ราคาที่ต้องจ่ายทำให้เราต้องเรียนรู้กันไป พูดคุยกัน การยกระดับก็จำเป็นต้องมี การต่อสู้ครั้งต่อไปจะมันส์ขึ้น ตำรวจที่โดนสาดสี ประชาชนจะระดมเงินซื้อชุดให้ใหม่ เราสู้กับระบบ ไม่ใช่ทุกคนที่ใส่ชุดกากีในนั้น ปัญหาคือเจ้าหน้าที่คือตัวแทนผู้มีอำนาจ เวลานายสั่ง คนที่โดนก็ผู้น้อย ถ้าทำตามนายที่คำสั่งขัดมโนธรรมสำนึก เจ้าหน้าที่ก็จะมีราคาที่ต้องจ่าย

ด้านพิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ ผู้ต้องหาอีกรายกล่าวว่า การสาดสีที่เกิดเมื่อเช้ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่มันคือการต้านอำนาจรัฐแบบไม่มีใครเจ็บตัว ไม่ล้มตาย ไทยมีระดับประท้วงที่ต่ำเกินไป ทุกคนมีราคาที่ต้องจ่าย ชั้นผู้น้อย ชั้นผู้ใหญ่มีราคาที่ต้องจ่าย ประชาชนออกมาต้านระบบก็มีราคาที่ต้องจ่าย

ส่วนปรัชญา สุรกำจรโรจน์ สมาชิก RAD หนึ่งในผู้ต้องหากล่าวว่า การถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทำให้มีอุปสรรคในการใช้ชีวิต เพราะต้องเสียเวลาปรึกษาทนายความ เดินทางมารายงานตัวก็เสียเวลาไปหนึ่งวัน งานที่ทำก็ดำเนินได้ช้าลง สร้างความวุ่นวายกับชีวิตมาก ตอนนี้งูหาย ยังไม่มีเวลาไปตามงูเลย ฝากตามด้วย

ขณะที่ธีรภัทร เจริญสุข ประกาศรวบรวมเงินค่าชุดใหม่ให้ตำรวจ 13 นาย ที่ได้รับผลกระทบจากการสดสี และนำมอบให้ตำรวจที่ สน.สำราญราษฎร์ ประมาณ 14.41 น.

 

จากกรณีสาดสีใส่จนท.ตำรวจที่ สน.สำราญราษฎร์ เมื่อเช้าวันนี้ที่ผ่านมา ผมเข้าใจทั้งความอัดอั้นตันใจของฝ่าย...

Posted by Theerapat Charoensuk on Thursday, 27 August 2020

 

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธมนุษยชนให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 15 คน ถูกแจ้งข้อหา 7 ข้อหา ได้แก่

1. ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215 ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิด โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. ฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. พ.ร.บ. โรคติดต่อฯ มาตรา 34 (6) กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

4. ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 385 ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

5. พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 114 ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร โทษปรับไม่เกิน 500 บาท

6. พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ มาตรา 4 ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โทษปรับไม่เกิน 200 บาท

7. พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 19 ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน โทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

กรณีของสิรินทร์ มุ่งเจริญ ถูกแจ้งข้อหาเรี่ยไรในถนนหลวงหรือที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร เพิ่มอีกหนึ่งข้อหาด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net