Skip to main content
sharethis

ก้าวไกลชี้ข้อเรียกร้อง 10 ข้อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์พูดได้ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องเปิดพื้นที่ปลอดภัยอย่าผลักลูกหลานออกไปทุ่งสังหาร เพื่อไทยเห็นด้วยถ้าสู้กับเผด็จการแต่ไม่ควรก้าวล่วงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง ส่วนพลังประชารัฐเห็นว่าเป็นข้อเรียกร้องของคนกลุ่มเดียวไม่ใช่ของผู้ชุมนุมทั้งหมดและทำให้เกิดความแตกแยก ขอให้เรียกร้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระบอบประชาธิปไตยฯ

11 ส.ค.2563 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยผ่านรายการวันโอวัน วันออนวันถึงประเด็นการชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” เมื่อคืนวานนี้ว่า สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนพยายามที่จะเปิดให้มีการพูดเรื่องข้อเรียกร้องของนักศึกษาในสภา เมื่อปรากฏกรณ์นี้ดังขึ้นและชัดขึ้น แต่วิธีการดีลกับปรากฏการณ์กลับไม่ได้รับความจริงใจที่จะรับฟังจริงๆ ปากบอกว่ารับฟัง แต่ไปจับกุมคุกคามเขาและครอบครัว ใช้ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร และด้อยค่าเขา ทำให้สิ่งที่เขาพูดไม่ได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง ยิ่งทำให้น้องๆ เขายิ่งตะโกนดังขึ้นมาอีก

พิธากล่าวต่อว่า เมื่อสถานการณ์มาถึงเมื่อวาน มีข้อเรียกร้อง 10 ข้อ แต่มีคนพูดว่าข้อเรียกร้องนี้เป็นการจาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ จะทำให้เกิดความรุนแรง นำไปสู่การรัฐประหาร ตนและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่หลายคนเห็นแย้ง ไม่เชื่อว่าจะต้องเกิดการนองเลือด หรือความรุนแรงเสมอไป

“ความรุนแรงเกิดจากผู้มีอำนาจ ถ้าผู้มีอำนาจไม่คิดที่จะใช้ความรุนแรงเพื่อฆ่าอนาคตของตนเอง ก็จะทำให้ประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอยได้ ทำให้พวกเราพูดคุยเรื่องนี้กันได้อย่างสันติและสงบสุข”

พิธาคิดว่า ข้อเรียกร้อง 10 ข้อ เป็นสิ่งที่สามารถพูดคุยได้ได้ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้าเราไม่ฟังและผลักเขาออกจากพื้นที่ปลอดภัยด้วยการบอกว่า พูดแบบนี้เท่ากับดูหมิ่น เป็นเรื่องอันตรายและจะพาประเทศไปถึงทางตัน

หัวหน้าพรรคก้าวไกลยอมรับว่า มีความจริงที่น่ากระอักกระอ่วนใจและน่าเศร้า คือ 1.มีการส่งสัญญาณที่ค่อนข้างจะชัดเจนว่าจะใช้ไม้แข็ง การใช้ม็อบชนม็อบ กดปราบนิสิตนักศึกษาซึ่งตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมา ทั้งที่มันหลีกเลี่ยงได้ 2.พื้นที่ปลอดภัยของนิสิตนักศึกษากำลังจะหมดลง เมื่อมันหมดลงก็เท่ากับเราผลักลูกหลานลงถนน ออกไปในทุ่งสังหาร 3.อีกฝ่ายจะมีการนำข้อเรียกร้อง 10 ข้อมายกเป็นเหตุเพื่อปฏิเสธ 3 ข้อเรียกร้องแรก เพราะเขาตั้งใจที่จะปฏิเสธตั้งแต่แรกอยู่แล้ว สภาเราช้าไปและตามสังคมไม่ทัน แต่ต้องยอมรับว่าผู้มีอำนาจมีท่าทีอ่อนลง มันช้าก็จริง แต่ก็มีทิศทางที่ดีขึ้น พอที่จะหาทางออกให้ประเทศ

พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการแก้รัฐธรรมนูญ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้เรามีทางพูดคุยเรื่องความจริงอันกระอักกระอ่วนใจ และเป็นจุดเริ่มต้นแก้วิกฤตให้ประเทศได้

นอกจากนี้ เรื่องการรักษาพื้นที่ปลอดภัย พิธาขอเรียกร้องไปยังสังคม และสถาบันการศึกษาว่า ต้องมีพื้นที่ให้นิสิตนักศึกษาคิดหรือพูดสิ่งที่เขารู้สึก ถ้าเราปิดพื้นที่ปลอดภัยก็เท่ากับผลักเขาให้ออกไปพูดในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย ผลักประเทศไปในจุดที่ไม่อาจย้อนกลับ และประวัติศาสตร์ก็จะซ้ำรอย เป็นความตั้งใจของตนและพรรคที่อยากประคองสถานการณ์ให้สงบสุข ทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แก้ไขในระบบ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ซึ่งมีข้อเสนออยู่หลายรูปแบบ

เดอะ รีพอร์ทเตอร์ รายงานท่าทีของทางพรรคเพื่อไทย โดยสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ว่า ตนมีจุดยืนการทำงานการเมืองภายใต้การปกครองใน ”ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” เท่านั้นและเห็นด้วยกับการต่อสู้กับเผด็จการที่บริหารประเทศล้มเหลวตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่เรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยุบสภาและหยุดคุกคามประชาชนซึ่งอยู่ในวิสัยที่จะหาความร่วมมือกันได้  แต่เห็นว่าไม่ควรก้าวล่วงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง แตกแยกของคนในชาติ จนอาจเป็นเหตุของการรัฐประหารยึดอำนาจอีกครั้ง

ส่วนท่าทีของพรรคพลังประชารัฐ ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวในนามของพรรคเรียกร้องให้กลุ่มบุคคลดังกล่าว ดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายและยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะการเรียกร้องเหล่านั้น เป็นการสร้างความแตกแยกภายในชาติ และอาจทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้ เป็นการเรียกร้องจากบุคคลเพียงกลุ่มเดียว โดยผู้ร่วมชุมนุมส่วนใหญ่ไม่มีส่วนรู้เห็น

นอกจากนั้นยังเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวและชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบว่าบุคคลที่มาใช้สถานที่ไม่ใช่ในนามมหาวิทยาลัยให้ชัดเจน เพราะอาจกระทบต่อนักศึกษาและคณาจารย์ที่ไม่เกี่ยวข้อง

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net