Skip to main content
sharethis

ศาลฎีกาพิพากษาปรับ 'ทนายอานนท์' 1,000 บาท เหตุไม่แจ้งจัดการชุมนุม กรณี “ยืนเฉยๆ” ที่อนุสาวรีย์ฯ ส.ค.59 เรียกร้องปล่อย 8 แอดมินเพจ “เรารักพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา” ขณะที่ 'ทนายจูน' อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีไม่ให้ค้นรถ เหตุขาดเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง

27 ส.ค.2562 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานความคืบหน้าคดีของทนายความด้านสิทธิมนุษยชน 2 คนคือ ศิริกาญจน์ เจริญศิริ และอานนท์ นำภา

โดย เวลา 10.00 น. วันนี้ ศิริกาญจน์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อรับทราบผลคำสั่งของอัยการสูงสุดซึ่งมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อ ในข้อกล่าวหาว่าซ่อนเร้นพยานหลักฐานฯ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีเจตนาซ่อนเร้นและเป็นเพียงการนำไปเก็บตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ศาลทหารเท่านั้น อีกทั้งตำรวจยังขอตรวจค้นในยามวิกาลโดยไม่มีเหตุอันควรตามกฎหมายอีกด้วย

ทั้งนี้ในส่วนข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรนั้น พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนมีคำสั่งยุติการดำเนินคดี เพราะขาดอายุความ จึงทำให้การดำเนินคดีอาญาต่อทนายศิริกาญจน์ทั้งสองข้อกล่าวหาในคดีนี้ยุติลง

ในวันนี้มีตัวแทนจากสถานทูตแคนาดา สวีเดน เยอรมัน สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และเจ้าหน้าที่จากองค์กรสิทธิมนุษยชน เช่น Amnesty International (Regional Office) เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน : อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องคดีกับทนายจูนคดีไม่ให้ค้นรถ เหตุขาดเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง)

วันเดียวกัน ที่ศาลแขวงดุสิตมีนัดฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีที่อานนท์ ทนายความและสมาชิกพลเมืองโต้กลับ ถูกฟ้องข้อหาจัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งจัดการชุมนุมต่อเจ้าพนักงานภายใน 24 ชั่วโมง ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จากเหตุที่เขาไปทำกิจกรรม “ยืนเฉยๆ” ที่ลานวิคตอรี่พ้อยท์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อเย็นวันที่ 27 ส.ค.2559หลังจากที่แอดมินทั้ง 8 คน ของแฟนเพจ “เรารักพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา” ถูกทหารและจับกุมไปควบคุมไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 11 ในตอนเช้าตรู่ของวันเดียวกัน

ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ตามศาลอุทธรณ์ให้ปรับเงิน 1,000 บาท เนื่องจากศาลเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวที่ทนายอานนท์ซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้จัดขึ้นนั้นเป็นการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ โดยที่ทนายอานนท์ไม่ได้แจ้งจัดการชุมนุมต่อต่อหัวหน้าสถานีตำรวจพญาไทก่อนอย่างน้อย 24 ชั่วโมง และไม่มีการยื่นขอผ่อนผันอีกด้วย

ทั้งนี้ตามที่ทนายอานนท์ได้ต่อสู้ในประเด็นการจับกุมของตำรวจนั้นไม่ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ มาตรา 21, 23และ 24 อีกทั้งไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ตนทราบก่อนทำการจับกุม การจับกุมครั้งนี้จึงเป็นการจับกุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลเห็นว่าในประเด็นนี้หากจำเลยเห็นว่าการจับกุมเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะต้องดำเนินคดีแก่เจ้าพนักงานตำรวจที่จับกุมด้วยการร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานหรือฟ้องคดีต่อศาลด้วยตนเองตามขั้นตอนทางกฎหมาย

(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน : ศาลฎีกาพิพากษาปรับทนายอานนท์พันบาท จำเลยต้องฟ้องตำรวจเองถ้าจับกุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net