Skip to main content
sharethis

'บ้านสมเด็จโพลล์' เผยคนกรุงมอง 'สุดารัตน์' เหมาะนั่งผู้ว่าฯ มากสุด ตามด้วย ชัชชาติ อัศวินและอภิสิทธิ์ 64.5 % อยากให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ปี 2562 และอยากได้ผู้ว่าฯ ที่มีการปฏิบัติตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้

1 ส.ค.2562 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา แจ้งว่า ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,218 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 23 - 24 ก.ค.2562 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ใช้เกณฑ์ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane กำหนดว่าประชากรเกิน 100,000 คนต้องการความเชื่อมั่น 95% และความผิดพลาดไม่เกิน 3% ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,111 กลุ่มตัวอย่าง

ผช.ดร.สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ กล่าวว่า ผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เนื่องจากการเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยเฉพาะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่จะมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เสียงสะท้อนของคนกรุงเทพมหานครในด้านปัญหาต่างๆ ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ 1. กำหนดนโยบายและบริหารราชการของกรุงเทพมหานครให้เป็นไปตามกฎหมาย 2. สั่ง อนุญาต อนุมัติเกี่ยวกับราชการของกรุงเทพมหานคร 3. แต่งตั้งและถอดถอน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้งและถอดถอนผู้ทรงคุณวุฒิเป็นประธานที่ปรึกษา หรือคณะที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือเป็นคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติราชการใดๆ 4. บริหารราชการตามที่คณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยมอบหมาย 5. วางระเบียบเพื่อให้งานของกรุงเทพมหานครเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รักษาการให้เป็นไปตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร 6. อำนาจหน้าที่อื่นตามที่บัญญัติไว้ใน พรบ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 และกฎหมายอื่นๆ ซึ่งผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ อยากให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในปี 2562 ร้อยละ 64.5 และอยากได้ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มีคุณสมบัติมีการปฏิบัติตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ ร้อยละ 22.8 มากที่สุด อันดับที่สองคือ มีความซื่อสัตย์โปร่งใส ร้อยละ 18.9 อันดับที่สามคือ มีการปฏิบัติงานให้เห็นเป็นรูปธรรม ร้อยละ 15.5 อันดับที่สี่คือ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ร้อยละ 15.4 และอันดับที่ห้าคือ มีความขยันทุ่มเทในการทำงาน ร้อยละ 15.3

ในส่วนของนโยบายที่อยากให้ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้ความสำคัญ อันดับที่หนึ่ง คือ ด้านเศรษฐกิจและการส่งเสริมอาชีพ ร้อยละ 30.9 อันดับที่สองคือ ด้านการศึกษาและคุณภาพชีวิต ร้อยละ 19.4 อันดับที่สามคือ ด้านความสะอาดและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 17.4 อันดับที่สี่คือ ด้านการจราจรและขนส่งมวลชน ร้อยละ 16.0 และอันดับที่ห้าคือ ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 8.2

ในส่วนของนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่อยากให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนมากที่สุด อันดับที่หนึ่ง คือ ปัญหาการคอรัปชั่น ร้อยละ 28.8 อันดับที่สองคือ ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ร้อยละ 23.4 อันดับที่สามคือ ปัญหาการจัดการน้ำเสีย ร้อยละ 9.0 อันดับที่สี่คือ ปัญหาสถานบริการฝ่าฝืนกฎหมาย ร้อยละ 8.6 และอันดับที่ห้าคือ ปัญหาการกีดขวางทางเท้า (ฟุตบาท) ร้อยละ 8.0

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ คิดว่าบุคคลที่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมากที่สุด อันดับที่หนึ่ง คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 21.3 อันดับที่สองคือ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ร้อยละ 20.8 อันดับที่สามคือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ร้อยละ 16.3 อันดับที่สี่คือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 14.8 และอันดับที่ห้าคือ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ร้อยละ 8.7 โดยปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจในการเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในการเลือกตั้งครั้งนี้มากที่สุด คือ ตัวผู้สมัคร ร้อยละ 62.5 รองลงมาคือพรรคการเมืองที่สังกัด ร้อยละ 37.5

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net