ในเวทีสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ เมฟลุต คาวูโซกลู รมต. ต่างประเทศของตุรกีแสดงความเป็นห่วงที่จีนปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมเชื้อสายอื่นๆ ในมณฑลซินเจียง เรียกร้องให้ทางการจีนคุ้มครองเสรีภาพทางศาสนาในพื้นที่ดังกล่าว

ภาพถ่ายในเดือนเมษายน 2017 แสดงให้เห็นผู้ควบคุมตัวชาวอุยกูร์นั่งฟังคำบรรยาย ภายในสถานกักกันในเมืองโฮตาน (Hotan prefecture) ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ (ที่มา: RFA)

28 ก.พ. 2562 หลังจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเปิดการประชุมประจำปี 4 สัปดาห์ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 ก.พ.) กลุ่มประเทศตะวันตกก็คาดหวังว่าตุรกีและสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ประเทศอื่นๆ จะทำการแถลงโดยเน้นปัญหาเรื่องค่ายกักกันในซินเจียงซึ่งทางการจีนอ้างว่าเป็น "สถานฝึกอบรมวิชาชีพและการปรับทัศนคติ"

ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติและนักกิจกรรมเปิดเผยว่าค่ายกักกันดังกล่าวมีการคุมขังชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่นๆ ราว 1 ล้านราย ชาวอุยกูร์เป็นชนชาติที่พูดภาษาตุรกี ทางการจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการปฏิบัติอย่างละเมิดสิทธิและกล่าวหาว่าการวิพากษ์วิจารณ์ของยูเอ็นเป็น "การแทรกแซงอธิปไตย" ของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของคาวูโซกลูไม่ได้เจาะจงพูดถึงค่ายกักกันในทางตะวันตกของจีน แต่ก็มีการพูดต่อที่ประชุมเจนีวาว่ารายงานเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่นๆ ในซินเจียงทำให้พวกเขาเป็นห่วงในสถานการณ์นี้อย่างจริงจัง และควรจะมีการแยกแยะระหว่าง "ผู้ก่อการร้าย" กับ "ประชาชนผู้บริสุทธิ์"

ทั้งนี้คาวูโซกลูก็กล่าวจากถ้อยแถลงที่เตรียมไว้ล่วงหน้าในทำนองว่าพวกเขาสนับสนุน "นโยบายจีนเดียว" (One China) ซึ่งหมายถึงแนวคิดนโยบายที่ว่าพื้นที่อย่างไต้หวันหรือเขตปกครองตนเองอย่างทิเบตกับซินเจียงถือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนด้วย

"พวกเราขอสนับสนุนทางการจีนและคาดหวังว่าจะมีการรับรองสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เช่น เสรีภาพทางศาสนา การเคารพและคุ้มครองอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างเต็มรูปแบบของชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่นๆ" คาวูโซกลูกล่าว

จีนเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็นจากทั้งหมด 47 ประเทศ เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทูตระดับสูงของจีนกล่าวว่ากระบวนการ "ต่อต้านการก่อการร้าย" และ "การลดความเป็นพวกหัวรุนแรง" ในซินเจียงควรจะได้รับการชื่นชมว่าเป็นการสร้างวิธีการใหม่ในการแก้ไขปัญหา

ประชาชนในซินเจียงอยู่ภายใต้การบีบเค้นเสรีภาพจากรัฐบาลจากข้ออ้างความมั่นคงมาเป็นเวลาหลายปีแล้วหลังจากที่เคยมีเหตุจลาจลเกิดขึ้นในปี 2552 แม้มีรายงานจากสื่ออัลจาซีราว่าประชากรอุยกูร์มีอยู่ 10 ล้านคน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรชาวจีนเกือบ 1,400 ล้านคน และก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีการลุกฮือในระดับที่จะสามารถท้าทายรัฐบาลกลางของจีนได้

เรียบเรียงจาก

Turkey urges China to protect religious freedom in Xinjiang, Aljazeera, Feb. 25, 2019