Skip to main content
sharethis

เอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองเชิงสัญลักษณ์ ถูกตามสาดน้ำปลาร้าใส่ ขณะลงรถเมล์เดินไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อมอบของขวัญวันเกิดครบรอบ 73 ปี ให้ประวิตร วงษ์สุวรรณ เชื่อมีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี เพราะปกปิดหน้าตา และขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน

14 ส.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง ถูกชายนิรนาม 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมหมวกกันน็อค ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามสาดน้ำปลาร้าใส่ บริเวณป้ายรถเมล์ใกล้กับโรงพยาบาลมิชชั่น ถนนสวรรคโลก เมื่อเวลาประมาณ 09.25 น. ระหว่างที่เอกชัยกำลังเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อมอบของขวัญวันเกิดให้กับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และหนึ่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

เอกชัยเล่าว่า ตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค. 2561 เขาได้โพสต์สเตตัสในเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า จะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ เพื่อมอบของขวัญวันเกิดย้อนหลังให้กับพลเอกประวิตร ในวาระครบ 73 ปี โดยของขวัญที่จะนำไปมอบนั้นคือ นาฬิกา ที่ตั้งใจจะมอบให้กับพลเอกประวิตรมาตั้งแต่ช่วงต้นปี หลังจากเกิดการขุดคุ้ย ตรวจนาฬิกาหรูที่พลเอกประวิตรใส่ทั้งหมด 25 เรือน

“ตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมาแกอายุ 73 ปีแล้ว ซึ่งถ้าดูตามประวัติศาสตร์คนที่อยู่ในระดับรองนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีที่เคยมีอยู่มากที่สุดคือ ชาติชาย ชุณหะวัณ ตอนที่ถูกรัฐประหารมีอายุ 71 ปี แล้วตอนนี้คุณประวิตรแกอายุ 73 ขึ้น 74 แล้วแกเดือนที่แล้วแกก็ท้องเสีย ต่อมาก็บอกว่าติดเชื้อในกระแสเลือด ผมก็เป็นหวงเห็นว่าอายุมาก สุขภาพก็ไมดี ก็เลยอยากจะมามอบของขวัญให้ แล้วบอกว่าให้ลาออกเถอะ เพราะคนที่ทำงานดีกว่าแกมีเยอะแยะ เพราะตอนนี้นอกจากอายุเยอะ ทำงานไม่ดี แล้วยังจะหวงเก้าอี้อีก ไม่รู้จะหวงทำไม อายุมากแล้วกลับไปอยู่บ้านดีกว่า” เอกชัยกล่าว ถึงเหตุผลที่ต้องการมอบของขวัฐให้กับพลเอกประวิตร

เขาเล่าต่อว่าเดินทางมาจากบ้านโดยรถเมล์ เมื่อเดินทางมาถึงป้ายรถเมล์บริเวณถนนสวรรคโลก ใกล้กับโรงพยาบาลมิชชั่น เขาได้ลงจากรถเมล์ จากนั้นก็พบชายนรินาม 2 คน ขับขี่รถจักยานยนต์ ไม่ทราบรุ่น ชายทั้งสองสวมหมวกกันน็อค และรถที่ขับขี่มานั้นไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยชายที่เป็นผู้ซ้อนได้เมื่อเห็นเขาลงจากรถก็ได้วิ่งมาประชิด และสาดน้ำปลาร้าที่ใส่มาในถังพลาสติกสีเขียวใส่เขา แล้วรีบวิ่งกลับไปที่รถซึ่งจอดรออยู่ก่อนจะขับออกไป โดยทิ้งถังพลาสติกไว้ รูปพรรณสันฐานของผู้ก่อเหตุมีรูปร่างผอม อายุประมาณ 20-30 ปี เขาระบุด้วยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีพยานที่เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงเช้า และเป็นชั่วโมงเร่งด่วน

จากนั้นเอกชัย ได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอเข้าพบพลเอกประวิตร แต่ก็ไม่สามารถเข้าพบได้ จึงได้เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.นางเลิ้ง ข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมกับเก็บถังพลาสติกสีเขียวไปเป็นหลักฐานส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะประสานเพื่อตรวจสอบภาพผู้ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดบริเวณนั้นต่อไป

“ผมคิดว่าเขาเตรียมการกันมาหมดแล้วว่าจะไม่ให้เราเห็นหน้า ไม่ทิ้งหลักฐาน แต่ดันทิ้งถังปลาร้า เราก็เลยเก็บถังมาเลย พวกนี้ทำอะไรไม่รอบคอบ เผื่อตำรวจเขาจะเอาไปตรวจลายนิ้วมือได้” เอกชัยกล่าว

สำหรับ เอกชัย เป็นนักกิจกรรมทางการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารของ คสช. และอดีตนักโทษการเมือง เขาเคยร่วมกิจกรรมกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และมีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์มาโดยตลอดทั้งการจุดธุปที่ด้านกองบัญชาการกองทัพบก เพื่อปัดเปาความชั่วร้าย เตรียมมอบนาฬิกาให้กับพลเอกประวิตร หลายครั้ง แต่ไม่เคยได้เข้าพบสักครั้งเดียว ร่วมทั้งยังเคยถือซอไปนั่งสีที่หน้าทำเนียบรัฐบาล

เขาถูกเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบไปหาที่บ้านพักเป็นประจำช่วงที่เขาทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว เขาเคยถูกทหารควบคุมตัว และกักบริเวณอยู่ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงวันที่ 24-28 ต.ค. 2560 หลักที่เขาโพสต์เฟสบุ๊กว่าจะใส่เสื้อสีแดงในวันที่ 26 ต.ค. นอกเขายังเคยถูกบุคคลผู้เห็นต่างทางการเมืองกับเขา คือ ฤทธิไกร ชัยวรรณศาสน์  ดักทำร้ายร่างกายที่บริเวณป้ายรถเมล์ปากซอยเข้าบ้าน จนมีการแจ้งความดำเนินคดีและ ฤทธิไกร ถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท และเนื่องจากให้การรับสารภาพมีเหตุให้บรรเทาโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี อีกด้วย

'ทนายอานนท์' เผย 'เอกชัย' อยู่รีสอร์ตกาญจนบุรี ทหารจะส่งกลับ 28 ต.ค.นี้

เอกชัย ยันเป็นห่วงทีมหมูป่าฯ ไม่ต่างกัน แต่ประสิทธิภาพของทหารก็ต้องตั้งคำถาม

ขณะที่ช่วงที่เกิดกรณี 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงเขาได้ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์การทำงานของกองทัพในการกู้ภัยว่า ไร้ประสิทธิภาพ โดยเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์กู้ภัยแห่งชาติขึ้น แต่กลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคมราว 15 คน มารวมตัวที่หน้าบ้าน ชูแผ่นป้ายเขียนข้อความประณามเอกชัย พร้อมสลับกันพูดประณามเอกชัย โดยใช้เครื่องขยายเสียง โดยระบุว่าการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของทหาร เป็นการขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือ 13 ชีวิต

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net