Skip to main content
sharethis

ผลปฏิบัติการวันแรกช่วยเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีได้แล้ว 4 ราย หลัง 'ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร' ผบ.ศูนย์อำนวยการร่วมฯ ประกาศดีเดย์-ส่งผู้เชี่ยวชาญดำน้ำศักยภาพสูงไทยและเทศเข้าถ้ำ ใช้วิธีประกบเด็ก 1 ต่อผู้ดูแล 2 โดยต้องช่วยให้ได้วันนี้หลังประเมินความพร้อม 4 ด้าน 1. สภาพอากาศ 2. ระดับน้ำ 3. ผู้ปฏิบัติงาน และ 4. จิตใจน้องๆ ขณะที่ปฏิบัติการช่วยเหลือรอบ 2 จะเริ่มทันทีเมื่อพร้อมภายใน 10-20 ชม. ข้างหน้า

กรณีความคืบหน้าการช่วยเหลือทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีแม่สายและโค้ช รวม 13 คน ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ก่อนที่ทีมกู้ภัยจะพบตัวเมื่อเวลา 21.38 น. คืนวันที่ 2 กรกฎาคม และมีการเตรียมแผนเคลื่อนย้าย 13 เยาวชนนั้น

 

ผบ.ศูนย์อำนวยการร่วมฯ สรุปปฏิบัติการรอบแรกช่วยทีมหมูป่า 4 ราย

ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ค.) เวลา 20.47 น. ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน แถลงข่าวที่ อบต.โป่งผา ซึ่งมีการไลฟ์ผ่านเฟสบุ๊คเพจ PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย โดยณรงค์ศักดิ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "16 วันแห่งการรอคอย วันนี้เราเห็นหน้าหมูป่าแล้ว วันนี้เป็นวันที่สมบูรณ์ที่สุด สถานการณ์ดีที่สุด ทั้งสภาพอากาศ สภาพร่างกายเด็ก ระดับน้ำในถ้ำที่จัดการได้ดี 4-5 วันที่ผ่านมา และมีปฏิบัติการกู้ภัย"

โดยอย่างที่เคยกล่าวไว้ว่าขั้นตอนช่วยเหลือประกอบด้วย 1. ค้นหา 2. กู้ภัย 3. ส่งกลับ โดยผ่านขั้นตอนค้นหาแล้ว และวันนี้เริ่มขั้นตอนกู้ภัยและส่งกลับ โดยยืนยันว่าส่งเยาวชน 4 คน ไปที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว

ทีมกู้ภัยของปฏิบัติการวันนี้ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศที่เป็นนักดำน้ำ 10 อีก 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคคอยประสานงานและจัดระเบียบ และมีทีมซีลไทย 5 คนเข้าไปช่วย

ขณะที่ในการปฏิบัติการจริง มีเจ้าหน้าที่ดำน้ำทั้งหมด 90 นาย 50 กว่ารายเป็นนักดำน้ำต่างประเทศ ประมาณ 40 รายเป็นดำน้ำจากของไทย  สำหรับรูปแบบการเคลื่อนย้ายเยาวชนสวมหน้ากากดำน้ำที่กันน้ำเข้า มีระบบเซฟตี้ น้องๆ สามารถหายใจแบบปกติได้

โดยทีมช่วยเหลือเข้าปากถ้ำไปตั้งแต่เวลา 10.00 น. เคยประเมินว่าเห็นคนแรกออกมา 21.00 น. แต่ปฏิบัติการสำเร็จมากกว่าที่คาด น้องคนแรกพ้นถ้ำเวลา 17.40 น. น้องคนที่ 2 ออกมาเวลา 17.50 น. หรือ 10 นาทีถัดมา หลังจากดูแลสุขภาพให้มั่นคงแล้วก็ไปส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์

เยาวชนลำดับที่ 3 กับ ลำดับที่ 4 ออกมาเวลา 19.40 น. และ 19.50 น. และส่งไป รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว

ถือว่าวันนี้ได้กู้ภัยและส่งตัวที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 4 คนแล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง

หลังจากนี้ทุกฝ่ายทุกด้านจะมีการประเมินว่าจะปฏิบัติการอย่างไรต่อ โดยต้องวางถังอ็อกซิเจนและอุปกรณ์ช่วยเหลือใหม่ โดยทีมที่ทำหน้าที่วางถังอ็อกซิเจนเมื่อพร้อมก็จะวางทันที โดยปฏิบัติการถัดไปจะเริ่มเมื่อไหร่ยังบอกไม่ได้ แต่ประเมินว่าภายใน 10 กว่าชั่วโมง ไม่เกิน 20 ชั่วโมงข้างหน้า ถ้าสถานการณ์ Stable (นิ่ง) ก็จะเริ่มเลย

โดยในเวลา 21.00 น. คืนนี้ จะเรียกทุกทีมมาประเมินสถานการณ์ รวมทั้งปรับแก้ไขสำหรับภารกิจในครั้งต่อไป รวมทั้งแผนเคลื่อนย้าย แผนจัดการจราจร ทีมแพทย์ทุกคนต้องเตรียมหมดว่าเมื่อกู้ภัยแล้วสภาพร่างกายเยาวชนเป็นอย่างไร ให้อ็อกซิเจนแล้วผลเป็นอย่างไร หายใจอย่างไร รวมทั้งประเมินอุปกรณ์ที่ใช้ในช่วงกู้ภัยในถ้ำ และประเมินทุกทีม รวมทั้งทีมตำรวจทีมบริหารจัดการทั้งหมด

"วันนี้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่สำเร็จของทีมปฏิบัติงานทุกทีม" ณรงค์ศักดิ์กล่าว พร้อมกล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่สละพื้นที่หน้าถ้ำ โดยกล่าวด้วยว่าใช้เวลาเคลื่อนย้ายเยาวชนจากหน้าถ้ำไปถึงจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ใช้เวลา 2 นาที ไวกว่าที่เคยฝึกซ้อมแรกๆ ที่ใช้เวลาถึง 10 นาที

ณรงค์ศักดิ์กล่าวด้วยว่า "ขอบคุณทุกคนที่ร่วมส่งกำลังใจ ที่สำคัญที่สุดคือด้วยเดชะพระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านกรุณาพวกเราทุกคน ทรงให้กำลังใจพวกเราทุกคน วันนี้เราถึงมีภารกิจที่สำเร็จในวันนี้ ผมในนามตัวแทนทีมปฏิบัติทุกคน กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยให้กำลังใจพวกเรา ถือว่าสำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งแต่ยังไม่ครบถึงทั้งหมด โดยเราจะทำภารกิจต่อไปให้ดีเท่าๆ กับวันนี้"

โดยเท่าที่รายงานข่าวในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อเยาวชน 4 รายที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากถ้ำ โดยจะมีรายงานเพิ่มเติมในลำดับต่อไป

 

เพจหน่วยซีลยืนยันช่วยได้แล้ว 4 ราย

ก่อนหน้านี้เมื่อ เวลา 19.47 น. ในเพจ Thai NavySEAL ของหน่วยซีลแจ้งว่า "19.47 หมูป่าตัวที่ 4 ออกจากถ้ำ"

เวลา 19.35 น. ในเพจ Thai NavySEAL ยืนยันว่า "หมูป่า 3 ตัวออกจากถ้ำ"

เวลา 19.17 น. สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำพูด นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ระบุว่ามีเยาวชน 2 คน ออกจากถ้ำหลวงแล้ว และกำลังตรวจเช็คสภาพร่างกาย

 

จัดโซนรายงานข่าวใหม่ กันพื้นที่ห่างจากหน้าถ้ำ

ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า เมื่อเวลา 06:45 น. เจ้าหน้าที่ขอให้สื่อมวลชนออกจากพื้นที่บริเวณหน้าถ้ำ โดยจัดพื้นที่แถลงข่าวใหม่เป็นด้านหน้า อบต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นอกจากนี้มีการกั้นพื้นที่ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าในเขตโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ที่เด็ก ๆ และโค้ชที่จะถูกส่งตัวไป และให้สื่อมวลชนไปรอรายงานอยู่ที่โรงเรียนเทศบาล 5 ห่างจากโรงพยาบาล 1 กม.

 

ผบ.ศูนย์อำนวยการฯ ดีเดย์ส่งผู้เชี่ยวชาญดำน้ำไทย-เทศ 18 รายเข้าถ้ำ

เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ 13 คน และผู้เชี่ยวชาญของไทยที่มีศักยภาพในการดำน้ำสูงจำนวน 5 คนเข้าไปปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือ 13 เยาวชนและโค้ช

ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน แถลงเมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 8 ก.ค. 61 (ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์)

10.25 น. ในรายงานของสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน แถลงว่าว่าหลังจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ปร้บสภาพพื้นที่ ยืนยันว่าในการช่วยเหลือเด็กทั้ง 13 คนจะต้องมีความพร้อมทุกอย่าง ทั้งตัวเด็ก เจ้าหน้าที่ และระดับน้ำ ซึ่งในวันนี้เป็นวันดีเดย์จะปฏิบัติการนำตัวเด็กทั้ง 13 คนออกจากถ้ำ โดยส่งผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ 13 คน และผู้เชี่ยวชาญไทย 5 คน เข้าไปช่วยเหลือเแล้ว ยืนยันว่าขณะนี้มีความพร้อมทุกด้าน ขอให้ทุกคนรอฟังข่าวดี และส่งกำลังใจให้การปฏิบัติภารกิจประสบความสำเร็จ จากการประเมินคาดว่าจะนำตัวเด็กคนแรกออกมาเร็วที่สุดในเวลา 21.00 น. และจะมีการทำภารกิจต่อเนื่องจนกว่าเด็กจะออกมาจากถ้ำได้ทั้งหมด

ในการแถลงข่าว ผบ.ศูนย์อำนวยการร่วมฯ ชี้แจงว่า วิธีช่วยเหลือจะใช้วิธีประกบคู่เด็กหนึ่งคนต่อผู้ดูแลสองคน จะเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากน้ำลดตั้งแต่โถง 1 ถึงโถง 3 สามารถเดินได้หลายจุด อุปสรรคสำคัญของปฏิบัติการครั้งนี้คือน้ำกับเวลา จึงต้องทำทุกวิถีทาง ขอให้มีเพียงเสี้ยววินาทีที่เหมาะสมพอเพียงที่จะนำเด็กออกมา อย่างปลอดภัย หากเป็นไปตามแผน เยาวชนคนแรกจะออกมาถึงประมาณ 21.00 น. คืนนี้ (8 ก.ค.61) ซึ่งการปฏิบัติงานต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3 - 4 วัน 

ส่วนการเจาะโพรงและนำน้ำออกจากถ้ำก็ยังดำเนินการควบคู่กันตลอดเวลา แต่ยังไม่พบโพรงที่เชื่อมกับถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศ ที่ส่งผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ และทรัพยากรมาช่วยทำงาน ขณะนี้มีความพร้อม 4 ด้านทั้ง 1. สภาพอากาศ 2. ระดับน้ำ 3. ความพร้อมของผู้ปฏิบัติงาน และ4. ความพร้อมของจิตใจน้องๆ

ณรงค์ศักดิ์ ให้ข้อมูลระดับน้ำด้วยว่า วันนี้ระดับน้ำลดลงต่ำสุด อย่างไรก็ตามจากพยากรณ์อากาศพายุลูกใหม่กำลังจะเข้ามา ถ้ามีน้ำฝนเติมเข้ามาอีก การทำงานต้องเริ่มต้นใหม่  ขณะเดียวกันเด็กๆ ทั้งหมดรับทราบภารกิจ พร้อมจะออกมากับเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเผชิญอะไร ครอบครัวของเด็ก ๆ รับทราบและเห็นด้วยกับภารกิจแล้ว ขณะที่ทีมแพทย์มีความพร้อม ได้ซักซ้อมทดสอบแผนช่วยเหลือก่อนปฏิบัติจริง โดยภารกิจจะดำเนินการต่อเนื่องจนกว่าคนสุดท้ายจะออกมา ได้มีการซักซ้อมรับทั้งทางบก ทางอากาศ จัดเฮลิคอปเตอร์ไว้ 6 ลำ รถพยาบาล 13 คัน

สาธารณสุขเชียงรายยืนยันความพร้อมทุกด้าน ปภ.พร้อมสูบน้ำเต็มที่

11.00 น. ข้อมูลเพิ่มเติมจากศูนย์ปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ถ้ำหลวง กรมประชาสัมพันธ์ พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3  กล่าวว่า ปฏิบัติการร่วมใช้แผนที่มีความสมบูรณ์ ง่าย และปฏิบัติได้จริง โดยได้เลือกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด มีการซ้อมแผน เมื่อมั่นใจจึงปฏิบัติ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

ด้าน นพ.ทศเทพ บุญทอง สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวยืนยันความพร้อมทุกด้านทางการแพทย์ ขณะนี้เตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว

ส่วนกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า การสนับสนุนไฟฟ้าในถ้ำเพื่อช่วยในการสูบน้ำมีความเสถียร ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขณะนี้ระดับน้ำในถ้ำลดอย่างต่อเนื่อง

ด้านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลด้วยว่า  สภาพอากาศ ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันนี้ ท้องฟ้าครึ้มมีเมฆปกคลุมมากและมีฝนตกลงมาบ้างเล็กน้อย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net