Skip to main content
sharethis

ซ้อมใหญ่แผนช่วยเหลือเยาวชนทีมฟุตบอล "หมูป่าอะคาเดมี" ติดถ้ำ ผวจ.เชียงรายระบุทดสอบระบบ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ขณะที่แผนสูบน้ำออกจากถ้ำกลับมาได้ผล สมาคมน้ำบาดาลสำรวจพบตาน้ำ 2 จุด ขุดได้ 2 บ่อตั้งเป้า 5 บ่อ ส่วนหน่วยซีลสามารถเข้าถึงโถง 3 ได้อีกครั้ง

คณะทำงานซ้อมใหญ่แผนช่วยเหลือ 13 ชีวิตออกจากถ้ำเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มิ.ย. 2561 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายระบุเป็นการซ้อมทั้งระบบ เพื่อให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง (ที่มา: สวท.เชียงราย)

ความคืบหน้าการปฏิบัติการช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นั้น ล่าสุดเช้าวันนี้ (30 มิ.ย.) ซึ่งเข้าสู่วันที่ 8 ของการค้นหา สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 รายงานว่า ณรงศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ได้นำคณะทำงานซ้อมใหญ่แผนช่วยเหลือ 13 ชีวิตออกจากถ้ำเพื่อส่งไปยังโรงพยาบาล เป็นการทดสอบระบบ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ หากพบเด็กทั้งหมดที่พลัดหลง เพื่อให้ทราบว่าผู้ใดมีหน้าที่ใด เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง จะได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง ทั้งทีมกู้ชีพ กู้ภัย บุคลากรทางการแพทย์ ยานพาหนะ และการควบคุมสถานการณ์รอบด้านทั้งหมด

สถานการณ์ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่มา: เพจ Thai NavySEAL

ส่วนสถานการณ์ช่วยเหลือล่าสุดนั้น เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา เพจ Thai NavySEAL เผยภาพสำรวจถ้ำล่าสุดโดยกำลังพลจากกองทัพบก และหน่วยซีล กองทัพเรือ ช่วยลำเลียงเครื่องสูบน้ำ เข้าไปวางในถ้ำ เร่งดึงน้ำออกจากถ้ำให้เร็วที่สุดระดับน้ำลดลงเร็วขึ้นแล้ว มนุษย์กบ เตรียมลำเลียงขวดอากาศเข้าไปตั้งกองบัญชาการที่โถง 3 เพื่อวางเชือกนำทางเข้าสู่บริเวณสามแยก โดยทีมช่วยชีวิตได้ไปถึงโถง 3 อีกครั้งตั้งแต่วานนี้ (29 มิ.ย.)

ทั้งนี้หลังจากระดับน้ำภายในถ้ำเริ่มลดลงอย่างน้อย 8 เซนติเมตร ทำให้หน่วยซีล เข้าถึงโถงที่ 3 โดยเป็นจุดที่อยู่ใกล้บริเวณ "จุดพัทยาบีช" ซึ่งทีมค้นหาเชื่อว่าเยาวชนทั้ง 13 คนจะไปอยู่ที่นั่น 

ส่วนการทำงานของหน่วยซีลวันนี้ (30 มิ.ย.) แบ่งออกเป็น 3 ทีม โดยทีมแรกจะสำรวจพื้นที่ทางน้ำ ภายในถ้ำ สำรวจพื้นที่ภายในถ้ำ และชุดที่ 3 ดำน้ำเข้าไปในโถงถ้ำที่ื 3 เพื่อติดตั้งเครื่องสูบน้ำ

โดยการเข้าถึงโถงที่ 3 ครั้งนี้ถือเป็นรอบที่ 2 นับแต่มีการเข้าค้นหาทีมฟุตบอลเยาวชน โดยก่อนหน้านี้เข้าไปถึงครั้งแรกเมื่อ 26 มิ.ย. ก่อนถอยออกมาอยู่ที่โถง 2 เพราะระดับน้ำสูงขึ้นเมื่อ 27 มิ.ย. ทำให้หน่วยซีลเข้าไปปฏิบัติภารกิจค้นหาไม่ได้

ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทีมกู้ภัยได้ดำน้ำผ่านม่านน้ำลึก 5 เมตร เพื่อเข้าถึงห้องโถงใหญ่ซึ่งห่างจากจากปากถ้ำเข้าไป 7 กิโลเมตร และแจ้งว่าพบร่องรอยของกลุ่มเยาวชน แต่ยังไม่พบตัว คาดว่าทั้ง 13 คนจะเดินลึกเข้าไปอีกเพราะระดับน้ำสูงในถ้ำ

สมาคมน้ำบาดาลพบตาน้ำ 2 จุด ขุดได้ 2 บ่อตั้งเป้า 5 บ่อ

ภารกิจค้นหาตาน้ำของสมาคมน้ำบาดาลแห่งประเทศไทย (ที่มา: สวท.เชียงราย)

สวท.เชียงราย รายงานวันนี้เมื่อ 12.49 น. ว่า สมาคมน้ำบาดาลแห่งประเทศไทยได้นำเครื่องเจาะ สนับสนุนการปฏิบัติการของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดเชียงราย พบตาน้ำบริเวณหน้าถ้ำ 1 จุด ได้น้ำระยะความลึก 70 เมตร ปริมาณน้ำ 30 ลูกบาศก์เมตร

และยังพบตาน้ำอีก 1 จุด ที่วนอุทยานขุนน้ำนางนอน เจาะได้ 2 บ่อ ที่ความลึก 20 เมตร ได้ปริมาณน้ำ 30 ลูกบาศก์เมตร จากเป้าหมาย 5 บ่อ ระยะห่างจากปากถ้ำ 1,500 เมตร ใช้เครื่องสูบน้ำ จำนวน 6 เครื่อง ใช้ระยะเวลาสูบ 11 ชั่วโมง โดยช่วงแรกก่อนการสูบ มีระดับน้ำ 63 เซ็นติเมตรปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 58 เซ็นติเมตร ขณะที่การสูบน้ำได้ผลเป็นอย่างดี สีน้ำเริ่มเปลี่ยนจากสีขุ่นแดงเป็นน้ำใส ล่าสุดท้องฟ้าเริ่มเปิดและหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม ตลอดทั้งวันจะเป็นผลดีอย่างมาก เนื่องจากมีการสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง

การค้นหาเข้าสู่วันที่ 8

สำหรับการค้นหาเยาวชนนักฟุตบอลทีม "หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย" เริ่มต้นขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นักฟุตบอลเยาวชนอายุ 11-16 ปี และโค้ชอายุ 25 ปี คือเอกพล จันทะวงษ์ เดินทางไปเที่ยวที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในช่วงบ่าย หลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมฟุตบอลในช่วงเช้า ต่อมาเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สังเกตเห็นรถจักรยานจอดอยู่ 11 คัน บริเวณทางเข้าถ้ำหลวงอย่างผิดสังเกต และมีผู้ปกครองแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อลูกชายได้ โดยตั้งแต่เวลา 22.00 น. ทีมกู้ภัยของมูลนิธิสยามรวมใจแม่สาย และศูนย์วิทยุ 191 สภ. แม่สาย ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเด็กหายตัวเข้าไปในถ้ำหลวง จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร และหน่วยงานกู้ภัยเข้ามาร่วมการค้นหาดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net