ภาพกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง จัดกิจกรรมวันกรรมกรสากล
1 พ.ค. 2560 วันกรรมกรสากล (May Day) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง (กสรก.) เดินทางเข้ายื่นข้อเรียกร้องเนื่องในวันแรงงานสากลต่อผู้ว่าราชการจังหวัดฯ โดยมี มนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าฯ รับข้อเรียกร้องแทน
สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตฯ ระบุว่า ทางกลุ่มเคยมีข้อเรียกร้องแล้วเมื่อปีก่อน เช่น การสร้างรัฐสวัสดิการ ขอให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว และ ฉบับที่ 98 ว่าด้วยการปฏิบัติตามหลักแห่งสิทธิในการรวมตัวและเจรจาต่อรองเพื่อสร้างหลักประกันและเป็นกลไก ให้ลูกจ้างและสหภาพแรงงานได้เข้าถึงสิทธิ ยกเลิกการจ้างงานแบบเหมาค่าแรง เรียกร้องให้มีค่าจ้างที่เป็นธรรม เป็นต้น
เอกสารข้อเรียกร้องระบุต่อว่า ในปีนี้ทางกลุ่มเลือกติดตามปัญหาของคนงานในพื้นที่กับผู้ว่าฯ ทั้งจากเรื่องที่เคยยื่นไว้เมื่อวันกรรมกรสากลปีที่แล้ว แต่ไม่ได้รับคำตอบจากผู้ว่าฯ ดังนั้นวันนี้ทางกลุ่มจึงขอแจ้งปัญหาให้ผู้ว่าฯ รับทราบ เพื่อติดตามการแก้ปัญหา ประกอบด้วย รัฐสวัสดิการ ให้รัฐบาลจัดสวัสดิการให้กับประชาชนในรูปแบบรัฐสวัสดิการ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ สาธารณสุขมีคุณภาพ ไม่มีค่าใช้จ่ายและเข้าถึงได้โดยไม่เลือกปฏิบัติ ค่าจ้างที่เป็นธรรม เพียงพอต่อค่าครองชีพและเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวได้รวม 3 คน
แรงงานเหนือ เสนอจัดสวัสดิการ-ค่าจ้างขั้นต่ำ 450 บ./วัน
1.เพื่อเป็นการลดอคติและสร้างทัศนคติที่ดีต่อแรงงานข้ามชาติในสังคมไทย ขอให้รัฐบาลแก้ไขคำว่า “แรงงานต่างด้าว” ในกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้เป็น “แรงงานข้ามชาติ”
2.ขอให้รัฐบาลปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เป็นค่าจ้างเพื่อชีวิต (living wage) ในอัตรา 450 บาทต่อวัน เพื่อให้เกิดค่าจ้างที่เป็นธรรม คุ้มครองคนทำงาน และสมาชิกครอบครัว
3.ขอให้รัฐบาลไทยรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว และเร่งดำเนินการรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรอง ภายในปี 2560
4.ขอให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับลูกจ้างทำงานบ้าน ภายในปี 2560 เพื่อส่งเสริมสิทธิของคนงานทำงานบ้าน
5.ขอให้รัฐบาลกำหนดให้แรงงานทุกคนทุกอาชีพเข้าสู่ระบบประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ
6.ขอให้รัฐบาลกำหนดให้พนักงานบริการ ผู้ทำงานบ้าน แรงงานนอกระบบ แรงงานในภาคเกษตรที่ไม่มีการจ้างงานกันตลอดทั้งปี เป็นอาชีพที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานทุกฉบับ
7.ขอให้รัฐบาลมีมติครม. ขยายพื้นที่การทำงานของแรงงานข้ามชาติได้ทั่วจังหวัด โดยไม่ต้องขอเพิ่มสถานที่ทำงาน
8.ขอให้รัฐบาลไทยแก้ไขพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 ให้แรงงานข้ามชาติทำงานได้ทุกอาชีพตามความสามารถของตน ขยายอายุของแรงงานข้ามชาติให้สามารถทำงานได้ถึงอายุ 60 ปี
ข้อเรียกร้องต่อกระทรวงมหาดไทย
1.ขอให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขกฎระเบียบในการเดินทางของแรงงานข้ามชาติ รวมถึงกลุ่มผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน กลุ่มบุคคลบนพื้นที่สูง ให้มีเสรีภาพในการเดินทาง
ข้อเรียกร้องต่อกระทรวงแรงงาน
1.ให้กระทรวงแรงงานกำหนดให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบในการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพของคนทำงาน ในประเด็นสิทธิการรวมกลุ่มและการเจรจาต่อรอง โดยไม่เลือกปฏิบัติ
2.แรงงานข้ามชาติสามารถเข้าถึงสิทธิการพัฒนาฝีมือแรงงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีสิทธิได้รับประกาศนียบัตร และนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้อย่างแท้จริง
ข้อเรียงร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
1.เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ให้จังหวัดเชียงใหม่ จัดระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมและราคาถูกสำหรับคนทำงานทุกคน
ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
1.ขอให้รัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาดูแลให้แรงงานที่กลับไปยังประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาได้เข้าถึงสิทธิในด้านต่างๆ เช่นทางทะเบียนราษฎร์ ทางการศึกษา สุขภาพและอาชีวอนามัย และสิทธิพลเมือง
2.ขอให้รัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเปิดให้จดทะเบียนสมรสและทำบัตรประชาชนได้ในสถานฑูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย
3.ขอให้รัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาดำเนินการให้มีระบบประกันสังคมโดยเร่งด่วน
ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลประเทศไทย และรัฐบาลสาธารณะรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
1.ขอให้รัฐบาลประเทศไทยและรัฐบาลสาธารณะรัฐแห่งสหภาพเมียนมาปฏิบัติตามอนุสัญญา ILO 181 ว่าด้วยบริษัทจัดหางานเอกชน ตามมาตรา 7 บริษัทนายหน้าต้องไม่คิดค่าบริการใดๆ จากคนงานไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
ประชาธรรม รายงานด้วยว่า ประจวบ กันธิยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นตัวแทนสำนักงานจังหวัดฯ ออกมารับข้อเรียกร้องของเครือข่ายแรงงานภาคเหนือ พร้อมกับกล่าวว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดฯ พยายามดูแลกลุ่มแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติอย่างเต็มที่ โดยเปิดให้มีศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ถ้ามีปัญหากับนายจ้างสามารถมาร้องเรียนได้ทุกเมื่อ ส่วนข้อเรียกร้องในปีนี้ทางจังหวัดจะรับไปพิจารณาว่าเรื่องใดที่ทางจังหวัดเชียงใหม่สามารถแก้ไขได้ จะดำเนินการพิจารณา ส่วนเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจจะส่งต่อไปให้รัฐบาลส่วนกลาง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)