13 ก.ค.2559 เวลา 13.30 น. คณะเยาวชนไทยในสหรัฐอเมริกาและผู้ปกครอง จำนวน 148 คน จากโครงการเยาวชนไทยในเขตมิดเวสต์ และโครงการมรดกไทยคืนถิ่น เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวต้อนรับ เยาวชนไทยและผู้ปกครองและเห็นว่า เป็นโอกาสดีที่ได้มาเยี่ยมแผ่นดินแม่และบ้านเกิดเมืองนอนของบรรพบุรุษ ซึ่งคนไทยมีความยึดมั่นและเคารพในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประเทศไทยนั้นไม่เคยเป็นอาณานิคมของใคร ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยภูมิใจ ทั้งนี้ อยากให้คนรุ่นใหม่ช่วยกันสืบสานและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงตรัสว่า การจะทำสิ่งใดในอนาคต จะต้องไม่ลืมประวัติศาสตร์ หากเราไม่ทราบความเป็นมาของชาติ เราจะรักชาติได้อย่างไร
"วันนี้เรามามองกันถึงว่าเราจะวางรากฐานของโลกใบนี้อย่างไร ผมไม่ได้มองแค่ประเทศไทย ผมไม่ได้มองแค่อเมริกา ผมมองว่ามนุษยชาติวันนี้เราต้องการอนาคตของโลกใบนี้อย่างไร คือเป็นเรื่องของความสงบสุข โลกแห่งความเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องและช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่บนโลกใบนี้ให้กับคนรุ่นหลังต่อๆ ไปเรื่อย เพราะฉะนั้นรัฐบาลไทยกำลังเร่งดำเนินการเรื่องเหล่านี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสานความสัมพันธ์และความร่วมมือกับทุกประเทศ รวมทั้ง การปฏิบัติตามพันธสัญญาระหว่างประเทศ และกำลังนเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ พร้อมขอให้เยาวชนไทยมาร่วมกันพัฒนาชาติ โดยรัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ 20 ปีเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประเทศไทยในอนาคต
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เยาวชนไทยและคนไทยในต่างประเทศทุกคนถือเป็นผู้แทนประเทศที่ช่วยสร้างความเข้าใจและแสดงออกให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยให้ชาวต่างประเทศรับทราบได้อย่างใกล้ชิด ดังนั้น ทุกคนในต่างประเทศจึงมีบทบาทสำคัญที่จะเป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศไทย เป็นปากเป็นเสียงให้กับประเทศไทย สิ่งใดที่เขาได้ยินหรือได้ฟังมาไม่ชัดเจน ขอให้ช่วยกันแก้ไขชี้แจงให้ถูกต้อง พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นเช่นไร
ทั้งนี้ ประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์ทั้งในแง่ยุทธศาสตร์ภูมิภาค และในฐานะพันธมิตรอันยาวนานถึง 183 ปี ตั้งแต่ปี 2376 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แสดงให้เห็นว่าความร่วมมือได้มีการพัฒนามา อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีในนามประเทศไทยได้เข้าร่วมประชุม Nuclear Security Summit ครั้งที่ 4 พร้อมทั้งมีโอกาส ได้ร่วมพบปะกับสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา - อาเซียน (US - ASEAN Business Council) หรือ USABC และสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตัน โดยนักธุรกิจส่วนใหญ่ล้วนแสดงความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยและต้องการเพิ่มมูลค่าการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
"การเมืองนั้นก็ว่าเป็นเรื่องของการเมืองไป แต่การค้าการลงทุนและเศรษฐกิจนั้น ต่างประเทศเขามองว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน เพราะฉะนั้นวันนี้ประเทศไทยกำลังมีการลุงทุนมากมายจากต่างประเทศ แม้ความสัมพันธ์ทางด้านการเมือยังไม่เต็ม 100% อยู่บ้าง แต่เขาก็เห็นศักยภาพประเทศไทยอยู่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนในด้านการศึกษาและวัฒนธรรม มีการจัดตั้งโครงการไทยศึกษา (Thai Studies) ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2550 เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเทศไทย โดยในปี 2553 ได้ให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 8 แห่ง ปี 2554 จำนวน 6 แห่ง และปี 2555 จำนวน 7 แห่ง รวมถึงการส่งเสริมให้มีการจัดตั้งชมรมไทย (Thai Club) หรือสมาคมไทย (Thai Society) ในมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกา เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านต่างๆ เกี่ยวกับประเทศไทย ในหมู่นักศึกษาสหรัฐฯ และมุ่งพัฒนาเครือข่ายความสัมพันธ์ในระดับประชาชนต่อประชาชน รวมถึงระหว่างเยาวชนทั้งสองประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 11 แห่ง
สำหรับเยาวชนไทยที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต แม้ว่าจะเกิดและเติบโตในสหรัฐฯ หรือในสังคมต่างประเทศ แต่ก็อยากให้ตระหนักถึงคุณค่าของวัฒนธรรมและความเป็นไทยที่บรรพบุรุษของเราสั่งสมมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งวัฒนธรรมไทยมีความงดงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยไม่จำกัดแค่เพียงเรื่องการแต่งกาย อาหาร หรืองานฝีมือด้านศิลปะเท่านั้น แต่คือวิถีอัตลักษณ์ไทยที่เราชาวไทยแสดงออกต่อผู้อื่นด้วยอัธยาศัยไมตรีที่อ่อนโยน มีน้ำใจและยิ้มแย้มแจ่มใส นายกรัฐมนตรีอยากให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และความเป็นไทยในเชิงลึก และช่วยกันรักษาพัฒนาให้แข็งแกร่งเพื่อส่งต่อให้ชาวไทยรุ่นต่อๆ ไป
สำหรับคณะเยาวชนไทยที่เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย 1) เยาวชนไทยในนครชิคาโก จากโครงการเยาวชนไทยในเขตมิดเวสต์ เยือนถิ่น ครั้งที่ 1 จัดโดยสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก และ 2) เยาวชนไทยในนครลอสแอนเจลิส จากโครงการมรดกไทยคืนถิ่น ครั้งที่ 6 จัดโดย สภาวัฒนธรรมไทยในสหรัฐอเมริกา แห่งเมืองเบิร์กเลย์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาและสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนที่เกิดและเติบโตในสหรัฐอเมริกา มีโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทย เพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นไทยและมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย
ที่มา เว็บไซต์ทำเนียบฯ และ และยูทูบของทำเนียบรัฐบาล
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)