Skip to main content
sharethis

จากกรณีเหตุการณ์ข้อพิพาทในกรรมสิทธิ์ที่ดินชายหาดราไวย์  อำเภอเมือง  จังหวัดภูเก็ต จนเป็นเหตุให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มชาวอูรักลาโว้ย กับกลุ่มชายฉกรรจ์ของบริษัทเอกชน เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น (อ่านรายละเอียด)

ล่าสุดวันนี้ (28 ม.ค.59) คณะอนุกรรมการสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แจ้งว่า นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นและมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าวซึ่งอาจบานปลายได้  ดังนั้นในระยะสั้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอีก  จึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการกระทำใดๆ อันเป็นการยั่วยุหรืออาจนำไปสู่การปะทะหรือขยายความขัดแย้งให้บานปลายออกไป และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบในพื้นที่ดังกล่าวมิให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นมาอีก โดยเจ้าหน้าที่รัฐสมควรวางตัวเป็นกลางและดำเนินการโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน  นอกจากนั้นยังเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ และนำผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและผู้ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม  เนื่องจากถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจ  ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง

นางเตือนใจ ระบุด้วยว่า ในวันที่ 1 ก.พ. นี้  ตนเองในฐานะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและประธานอนุกรรมการสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญ จะไปพื้นที่พิพาทเพื่อติดตามตรวจสอบเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น  รวมทั้งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทดังกล่าวต่อไป  โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้อนุกรรมการสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากรไปพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ของเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น  

มท.1 สั่งทหาร ตำรวจควบคุมสถานการณ์
 
วันเดียวกัน สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เพื่อให้ปัญหาหมดไปจะต้องมีการพิสูจน์สิทธิ์ก่อน และต้องเจรจากันเพื่อให้สองฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจในพื้นที่ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ใช้ความรุนแรงขึ้นอีก
 
ส่วนการจัดสรรที่ดินทำกินที่รัฐบาลสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการ นั้น มีความคืบหน้าหลายพื้นที่โดยได้จัดพื้นที่ป่าให้ประชาชนเข้าไปทำกิน รวมถึงจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.และที่ดินสาธารณะเพื่อให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์โดยไม่มีการออกเอกสารสิทธิ์ ห้ามซื้อขายตามนโยบายของรัฐบาล
 
'ประวิตร' ชี้ใครเริ่มก่อถูกจับหมด สั่งสอบที่มาของเอกสารสิทธิ์
 
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาภาพรวมของประเทศ ซึ่งเรื่องที่ดินก็เป็นส่วนหนึ่งที่เกิดปัญหาทับซ้อนหลายพื้นที่ ยอมรับว่าชาวเลอยู่ในพื้นที่มานานแล้ว แต่ก็ต้องหาทางพูดคุยกับนายทุนที่มีเอกสารสิทธิ์
 
พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปแก้ไข เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และจะต้องไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
 
“ใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อเหตุจะต้องถูกจับกุมทั้งหมด และหลังจากนี้จะตรวจสอบย้อนหลังถึงที่มาของเอกสารสิทธิ์ที่นายทุนอ้างการครอบครองว่าได้มาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่” พล.อ.ประวิตร กล่าว
 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net