ตร. เข้าจับกุมผู้ต้องสัยเป็น “บรรพต” ผู้เผยแพร่คลิปเสี่ยงที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิด ม. 112 โดยไม่มีการเชื่อมโยงถึง ศ.ธเนศวร์ เจริญเมือง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มช. แต่อย่างใด ด้านลูกสาวธเนศวร์ แพร่จดหมายถึงสื่อไทย-เทศประณาม ทีนิวส์ให้ร้ายพ่อ

เว็บไซต์มติชนออนไลน์ รายงานเมื่อเวลา 21.52 น.  พลตำรวจโทประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ได้จับกุมนายหัสดิน อุไรไพรวัน เจ้าของนามแฝง "บรรพต" ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี 112 ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ผลิตคลิปเสียงหมิ่นสถาบันเบื้องสูงได้แล้วที่โรงแรมเอวัน ย่านพระราม9 เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. โดยจะนำตัว "บรรพต" ไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อทำการสอบสวนก่อนแห่งชาติ

โดยก่อนหน้านี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำภาพถ่ายและ หมายจับผู้ต้องหาที่เป็นผู้ผลิตคลิปเสียงหมิ่นสถาบันชื่อว่า "บรรพต" Banpodj หลังตำรวจได้สืบสวนขยายผลจนทราบตัว และขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายหัสดิน อุไรไพรวัน ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นหัวหน้าขบวนการและเป็นผู้ผลิตคลิปเสียงเล่าเรื่องแนวคิดหมิ่นสถาบัน

ตามรายงานข่าวระบุว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้สนธิกำลังร่วมกันตรวจค้นบ้านนายหัสดินย่านสุขุมวิท 101 เมื่อวันที่ 6ก.พ.ที่ผ่านมา พบอุปกรณ์การผลิตสื่อ/คอมพิวเตอร์ เอกสารทางการเงิน/เอกสารของเครือข่าย และแผ่นซีดีจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าบรรพตเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์ใหญ่ที่ผลิตและจำหน่ายซีดีหมิ่นสถาบันมีรายรับเข้ามามากกว่า 1 แสนบาทต่อเดือนโดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งหลังจากนี้จะร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ในการตรวจสอบเส้นทางเงินและ อายัดทรัพย์สินต่อไป พร้อมขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนเครือข่ายนายบรรพต

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดเงินรางวัลนำจับกับผู้แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมนายบรรพต จำนวน2แสนบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่านายหัสดินยังคงหลบหนีอยู่ในกรุงเทพฯ และจากการสืบสวนพบว่านายบรรพตเคยเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ด้วย ทั้งนี้จากการตรวจสอบยังไม่พบจุดเชื่อมโยงกับกลุ่มผลิตแถลงการณ์ปลอมแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายบรรพตไปแล้ว 4คน ต่อเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 58 ได้ขยายผลเพิ่มเติม โดยจับกุมนางสาวสายฝน อินทสร ผู้ทำหน้าที่เปิดบัญชีสนับสนุนเงินช่วยเหลือเครือข่ายบรรพต และ จับกุมนายนที ผสมทรัพย์ ผู้ทำหน้าที่ส่งสินค้าและซีดีคลิปเสียงบรรพต และนำตัวส่งฝากขังศาลทหารเมื่อวันที่7ก.พ.ในความผิดฐานสนับสนุนผู้กระทำผิดกรณีหมิ่นเบื้องสูง ตามมาตรา112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง

ลูกสาว ธเนศวร์ เจริญเมือง ประณาม ทีนิวส์ให้ร้ายพ่อ

สำหรับกรณีของนายบรรต ซึ่งต้องสงสัยว่ากระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวทีนิวส์ ได้นำเสนอรายงานวิเคราะห์ไปในลักษณะเชื่อมโยงกับ ศ.ธเนศวร์ เจริญเมือง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ทั้งนี้ในรายการของทีนิวส์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2558 ได้กล่าวหาว่า ธเนศวร์ และบรรพต เป็นคนเดียวกัน โดยใช้วิธีนำเสนอเสียงการอภิปรายในวงเสวนาของ ธเนศวร์ เจริญเมือง มาเปิดเผยแพร่ และสลับกับเสียงของผู้ใช้ชื่อว่า "บรรพต" สลับไปมาหลายครั้ง หลังจากนั้นพิธีรายการได้กล่าวว่า บอกว่า "จากเสียงที่ได้ฟังกันไป ต้องยอมค่ะว่าเป็นเสียงที่ใกล้เคียงมากๆ ว่าจะเป็นคนๆ เดียวกัน ประกอบกับข้อมูลที่ทางสำนักข่าวทีนิวส์ไปค้นมาจากเว็บคนเสื้อแดง ก็ทำให้เกิดความมั่นใจละค่ะว่า นายธเนศวร์ กับนายบรรพต เป็นคนๆ เดียวกัน"

รายงานข่าวของสำนักข่าวทีนิวส์ เปิดเผยใบหน้าและกล่าวหา ศ.ธเนศวร์ เจริญเมืองว่าเป็น "บรรพต" 

ต่อกรณีการนำเสนอของทีนิวส์นั้น น.ส. มิ่งหล้า เจริญเมือง ลูกสาวของนายธเนศวร์ ได้เขียนจดหมายและส่งให้สื่อทั้งไทยและต่างประเทศ ประณามการกระทำของสำนักข่าวทีนิวส์ว่าเป็นการกระทำอันเลวร้ายอย่างไม่น่าเชื่อที่นำเสนอข่าวสารชี้นำให้สาธารณะเข้าใจผิดต่อพ่อของเธอ โดยการนำเอาเทปเสียงของนายบรรพตที่ผ่านเครื่องแปลงเสียง มาเทียบกับเสียงจริงของพ่อที่มีน้ำเสียงทุ้มต่ำโดยธรรมชาติ และการรายงานของทีนิวส์ก็ยังถูกนำเสนอซ้ำๆ ต่อไปโดยสื่ออื่นและโซเชียลมีเดีย ทำให้พ่อของเธอกลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซ้ำยังมีการเรียกร้องให้จำคุกพ่อของเธอด้วย เธอระบุในหัวจดหมายว่าการกระทำของทีนิวส์นั้นเป็นการกระทำของสื่อไร้จรรยาบรรณที่น่าละอาย