Skip to main content
sharethis

กมธ.พัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน เรียกทีมงาน "เหนือเมฆ 2" ชี้แจง ผู้จัดยืนยันเนือหาละครไม่กระทบใคร เน้นเรื่องความดี-ความชั่ว ด้าน "ฉัตรชัย เปล่งพานิช" ระบุผู้บริหารช่อง 3 ไม่ได้บอกสาเหตุ บอกแค่ละครถูกแบน "นนทรี นิมิบุตร" ถามสื่อถ้ารู้สาเหตุถูกแบนช่วยบอกด้วย

"เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์" ซึ่งช่อง 3 ยุติการออกอากาศตั้งแต่ 4 ม.ค. 56 (ที่มาของภาพประกอบ: facebook.com/benzballshowwallpaper)

 

สืบเนื่องจากกรณีทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ประกาศยุติการออกอากาศละครโทรทัศน์ "เหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์" ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้แสดงความไม่พอใจและตั้งคำถามต่อความไม่ชัดเจนในการยุติการออกอากาศดังกล่าวจำนวนมากนั้น (ข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ล่าสุด ไทยรัฐออนไลน์ รายงานเมื่อวานนี้ (16 ม.ค. 56) ว่าที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณากรณีละคร "เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์" ถูกระงับการออกอากาศ โดยมีการเชิญนายนนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับ นายฉัตรชัย เปล่งพานิช ผู้อำนวยการสร้าง นางสินจัย เปล่งพานิช นักแสดง นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจง ด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กสทช. อ้างว่าติดภารกิจประชุมกรรมการ กสทช. ไม่สามารถมาชี้แจงได้ ขณะที่ นายประสาร มาลีนนท์ รองประธานกรรมการบริหารช่อง 3 เพิ่งได้รับหนังสือช่วงเย็นวันที่ 14 ม.ค. จึงไม่สามารถมาชี้แจงได้ แต่ยินดีให้ความร่วมมือมาชี้แจงต่อไป

นายฉัตรชัย ได้ชี้แจงขั้นตอนการสร้างละครว่า ก่อนสร้าง หรือผลิต ได้เสนอเรื่องให้ กบว.ของช่องพิจารณาแล้ว ถือว่าหมดหน้าที่ผู้ผลิตแล้ว เนื้อหาละครเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์สมมติ การนำเสนอไม่มีเจตนากระทบกระทั่งใคร บริษัทเมตตามหานิยมที่เขาเป็นเจ้าของจะสร้างละครแนวเพื่อชีวิต บอกเล่าเรื่องแก่งแย่งผลประโยชน์ อำนาจ ให้ทุกคนสามัคคีกัน เป็นแนวละครสร้างสรรค์บอกถึงความดี ชั่ว เลว

ส่วนนายนนทรีย์ ชี้แจงว่า ปกติจะนำส่งบทละครไปครึ่งหนึ่งก่อน เริ่มลงมือสร้างที่เหลือจะทยอยส่ง ยอมรับว่ามีการปรับเปลี่ยนบทละครบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับการผลิต โดยเฉพาะละครเรื่องนี้เป็นแนวแอ็กชั่นดราม่า เมื่อเสร็จแล้วก็ส่งให้ช่องพิจารณาอนุมัติออกอากาศต่อไป ส่วน 3 ตอนสุดท้ายที่มีปัญหาคือ ตอนที่ 10-11-12 ยอมรับว่าตอนที่ 10 ได้ส่งก่อนปีใหม่ ส่วนตอนที่ 11-12 ส่งหลังปีใหม่แล้ว การทำละครแอ็กชั่น ยอมรับว่าต้องใช้เวลานานกว่าปกติ ไม่สามารถส่งเทปได้ทุกตอนในคราวเดียวกันหมด ต้องทยอยส่ง ส่วนการตัดบทบางส่วนก็มีบ้างเพื่อความเหมาะสม ให้เข้าใจง่าย ยอมรับว่าตอนที่ 11-12 มีการปรับเปลี่ยนเรื่องราวของละคร หลังตัวละครที่เป็นนายกรัฐมนตรีในเรื่องเสียชีวิต เรื่องเริ่มไม่สนุก เราจึงเปลี่ยนบท แต่ก็ให้คนเขียนบทเป็นคนเปลี่ยน และส่งบทให้ทางช่องดู ไม่ทราบว่ามีการอ่านหรือไม่

ขณะเดียวกัน นางสินจัย กล่าวว่า บางคำถามของคณะกรรมาธิการฯ คงเป็นเรื่องที่ทางช่อง 3 จะตอบ เราเองก็ไม่ทราบถึงคำสั่งว่า บางส่วนบางตอนไม่เหมาะสมอย่างไร รวมถึงโอกาสที่จะได้รับชมตอนที่ถูกแบนทางดีวีดีนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นลิขสิทธิ์ของช่อง เราเป็นเพียงผู้ผลิต ในฐานะคนทำงาน ที่ทำตามขั้นตอน เมื่อผิดพลาดก็แก้ไข แต่เมื่อบอกจบ ก็ต้องจบ แต่การทำงานคราวหน้า เราจะรอบคอบและพิจารณากันมากขึ้น

ทั้งนี้นายนนทรีย์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ประเด็นว่ามีการเมืองเข้ามาแทรกแซงหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าความจริงเป็นอย่างไร ถ้าสื่อทราบก็ช่วยบอกด้วย ส่วนนางสินจัย ได้กล่าวเสริมว่า หลังจากละครถูกระงับการออกอากาศแล้ว ก็มีการพูดว่ามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น เราไม่ทราบ แต่เป็นเพราะทุกคนนำไปโยงเป็นเรื่องการเมืองเอง

ขณะที่ นายฉัตรชัย กล่าวว่า หลังละครโดนแบน ตนได้พูดกับ นายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้บริหารช่อง 3 ทางโทรศัพท์ ซึ่งนายสมรักษ์ก็ไม่ทราบเหตุผลที่ถูกแบนเช่นกัน บอกแค่ว่าละครถูกแบน เมื่อถามว่าไม่ได้ติดต่อผู้ใหญ่ในช่องเพื่อถามเหตุผลที่แท้จริงหรือ นายนนทรีย์ กล่าวว่า การทำงานของพวกตนจะติดต่อนายสมรักษ์เพียงคนเดียว แต่ยืนยันว่าเรามีอิสระในการทำงาน ไม่มีใครขัดขวางการทำละครตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงแต่ตอนจบไม่ได้ออกอากาศเท่านั้น เราก็เหมือนช่างทำรองเท้า พอตัดเสร็จก็ส่งให้ผู้จ้าง เขาจะเอาไปใส่หรือไม่ไม่เกี่ยวกับเราแล้ว ถือว่าไม่ขัดกับอิสรภาพ

นอกจากนี้ นางสินจัย กล่าวด้วยว่า ส่วนที่เกิดขึ้นยอมรับว่ากระทบต่อเราในฐานะผู้สร้างและนักแสดง รู้สึกเสียดายมาก เหมือนส่งลูกยังไม่ขึ้นฝั่ง ยังต้องพายไปเรื่อยๆ ยอมรับว่าการทำหน้าที่ของสื่อมีผลต่อผู้ชม รู้สึกเสียใจที่ให้คำตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระบวนการ กบว.ของช่อง ได้แต่ขอโทษผู้ชม แต่เราจะไม่ท้อถอย จะทำงานต่อไป

ก่อนหน้านี้เมื่อ 8 ม.ค.ทีผ่านมา นายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีการถอดละครเรื่อง เหนือเมฆ 2  ตอนมือปราบจอมขมังเวทย์  ว่า คงไม่มีการแถลงอะไร เพราะว่าเป็นเรื่องที่เห็นว่า เรื่องราวในละครไม่เหมาะสม   คิดว่าการใช้คำว่าไม่เหมาะสมเป็นการลงตัวแล้ว แต่จะให้ลงรายละเอียดก็คงจะลงลำบาก

ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยเคยแถลงยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการถอดละครดังกล่าว และเรียกร้องให้ช่อง 3 นำละครเหนือเมฆ 2 มาออกอากาศให้จบ เพื่อจะได้จบปัญหาเพราะเรื่องนี้ไม่เกิดประโยชน์กับรัฐบาล ฝ่ายค้านพยายามนำเรื่องนี้มาโจมตีและลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net