Skip to main content
sharethis

 

 

19 พ.ค.55 ในการวาระรำลึกครบ 2 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553  นอกจากเวทีใหญ่ที่ราชประสงค์แล้ว ยังมีการจัดเวที่ย่อยที่ลานพระรูปรัชกาลที่ 6  ข้างสวนลุมพินีด้วย จัดโดยเครือข่ายประชาธิปไตย ซึ่งประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมจำนวนมาก

เวลาประมาณ 16.20 น. เสื้อแดงราว 1,000 คนเดินเท้าจากสวนลุม มายังเวที นปช. ที่สี่แยกราชประสงค์ เพื่อรณรงค์ปล่อยตัวนักโทษการเมือง "คืนความเป็นธรรมให้คนตาย คืนอิสรภาพให้คนเป็น"

 

20.20 น. มีการทำพิธีสาปแช่งผู้สั่งฆ่า โดยผู้จัดยืนยันว่า "เป็นวิธีการต่อสู่ที่สันติวิธีแล้วเมื่อเทียบกับฝ่ายที่สั่งฆ่า"

20.30 น. ร่วมร้องเพลงนักสู้ธุลีดินและยืนไว้อาลัย หลังจากนั้นมีการปราศรัยตั้งคำถามกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเรื่องความล่าช้าในการดำเนินการเรื่องสิทธิการประกันตัวของนักโทษการเมือง ย้ำไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ แต่สู้เพื่อความเป็นธรรมและความถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในอีกด้านหนึ่ง บริเวณร้าน แมคโดนัลด์ อัมรินทร์พล่าซ่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. มีการแสดงละครโดยกลุ่มประกายไฟการละคร เรื่อง ต่อสู้-สู้ต่อ โดยเนื้อเรื่องเป็นการตั้งคำถามถึงขบวนการคนเสื้อแดงว่าจะพอใจอยู่กับการที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล หรือจะสู้กับอำมาตย์ต่อไป ซึ่งเล่าผ่านเรื่องราวของชายหญิงคู่หนึ่งที่พบรักกันในม็อบ และแต่งงานกัน แต่ภายหลังมีอุดมการณ์ที่ต่างกัน คนหนึ่งต้องการต่อสู้ต่อเพื่อโค่นล้มอำมาตย์ แต่อีกคนหนึ่งพอใจกับการที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง เล่าสลับกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่มากระทบความคิดทั้งสองฝ่าย

ภรณ์ทิพย์ มั่นคง สมาชิกกลุ่มประกายไฟการละคร กล่าวถึงแรงบันดาลใจของละครเรื่องนี้ว่ามาการเห็นคนเสื้อแดงทะเลาะกันเองทั้งในเฟซบุ๊คและตามเวทีการชุมนุมย่อยๆเรื่องจุดยืนของเสื้อแดง พรรคเพื่อไทย และนปช. ที่มีการวิจารณ์พรรคเพื่อไทยหรือ นปช. แล้วถูกคนที่ไม่เห็นด้วยโต้เถียงกลับ เป้าหมายอาจจะไม่ได้เป็นเป้าหมายเดียวกันทั้งหมด แต่ไม่ควรจะขัดกันเอง

"เราอยากจะตั้งคำถามกับเขาตั้งแต่แรกว่า สุดท้ายแล้วมันมีจุดเริ่มต้นเหมือนกันหรือเปล่าว่าใครจะไปแค่ไหน แต่ที่สำคัญคือเราไม่อยากให้ใครเป็นศัตรูของใคร เรารู้สึกว่าคนเสื้อแดงไม่ควรจะมาเป็นศัตรูกันเอง เพราะว่าเรามีเป้าหมายมีศัตรูที่ใหญ่กว่านั้น"

 

ภรทิพย์ให้ความเห็นว่า ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต จะถูกยุบพรรค หรือมีจำนวน ส.ส. น้อยลง แต่ว่าคนเสื้อแดงและคนอื่นๆที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน มันจะนำไปสู่การพัฒนา และสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงได้ และเตือนว่าไม่ควรไว้วางใจกับอำนาจเผด็จการ เพราะไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ กองทัพ ระบบราชการ ระบบพรรคการเมืองที่มีการโกงกินคอรัปชันก็ยังมีอยู่ในสังคมไทย สิ่งที่จำทำลายสิ่งเหล่านี้ออกไปได้ คือพลังของประชาชนที่จะรวมตัวกันเรียกร้องสิทธิของตัวเองที่ควรจะได้ในสังคม

ที่ผ่านมากลุ่มประกายไฟการละครแสดงละครเกี่ยวกับการเมืองมาหลายเรื่องตั้งแต่ปี 53 ละครเรื่องต่อสู้-สู้ต่อนี้คือ 1 ใน 3 เรื่องสุดท้ายที่ทางกลุ่มจะแสดง โดยก่อนหน้านี้คือละครเรื่อง "ปืนของพ่อ" ซึ่งแสดงวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมาเพื่อรำลึกเสธ.แดง ส่วนเรื่องสุดท้ายที่จะแสดงคือเรื่อง "9 แผ่นดิน" ในวันที่ 24 มิถุนายน 55 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net