Skip to main content
sharethis

คนงานกัมพูชาที่พัฒนาซีฟู้ดส์ จ.สงขลา กว่าครึ่งเตรียมเดินทางกลับบ้านหลังผลเจรจาเรื่องปรับปรุงสภาพการทำงานไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่คนงานยังถือแต่สำเนาหนังสือเดินทาง จะได้ตัวจริงคืนเมื่อถึงชายแดนเท่านั้น ด้าน "วอลมาร์ท" เผยจับตาเรื่องนี้ใกล้ชิด-พร้อมสอบสวนทันทีที่ได้รับรายงานการละเมิดสิทธิ์ ส่วนบริษัทจัดหางานยันเรื่องนี้จบด้วยดีแล้ว

พนมเปญโพสต์รายงานพนักงานกัมพูชากว่าครึ่งเตรียมกลับบ้านแล้ว

หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ รายงานเมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) ว่า กว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานชาวกัมพูชา 800 คนที่กล่าวหาว่าตำรวจได้ขู่พวกเขาด้วยการยิงปืนขึ้นฟ้า ระหว่างชุมนุมหน้าโรงงานพัฒนาซีฟู้ดส์ อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (9 เม.ย.) ได้เตรียมเดินทางกลับบ้านแล้ว ขณะที่ผลการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จ

โดยนายซก ทรง ตัวแทนพนักงานกล่าวกัมพนมเปญโพสต์ว่า แรงงานได้ข้อให้ฝ่ายบริหารขอทางโรงงานคืนหนังสือเดินทางให้กับพวกเขา และยอมให้พวกเขายกเลิกสัญญาจ้างถ้าพวกเขาต้องการเดินทางกลับ นอกจากนี้มีการเจรจากับบริษัท ซีดีเอ็ม เทรดดิ้ง แมนพาวเวอร์ บริษัทจัดหางานของกัมพูชา ซึ่งชาวกัมพูชากว่า 500 คนเตรียมเดินทางกลับบ้านแล้ว

ทั้งนี้การชุมนุมเรียกร้องให้ทางโรงงานให้สวัสดิการ ค่าข้าววันละ 20 บาท และเบี้ยขยัน 600 บาทต่อเดือนซึ่งเป็นเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ก่อนเข้าทำงาน ไม่ประสบผลสำเร็จ ขณะที่แรงงานจำนวนมากรู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียดมากขึ้น เพราะจะได้กลับบ้าน นายซก สรง กล่าว

ทั้งนี้คนงานในโรงงานรวมทั้งชาวพม่า และชาวไทย ได้รวมตัวประท้วงอยู่ภายนอกโรงงานส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งระดับโลกดังกล่าว มาตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. นายซก ทรง กล่าวกับพนมเปญโพสต์ว่า ทางโรงงานยอมให้คนงานกลับเข้าทำงาน "พวกเราดีใจที่มีทางออกหลังเกิดการประท้วงเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ว่าสำหรับคนที่ต้องการประท้วงต่อ ทางโรงงานจะไม่ยอมจ่ายตามที่คนงานมีข้อเรียกร้อง"

พนักงานโรงงานดังกล่าว ยังร้องเรียนด้วยว่า ต้องจ่ายค่าเช่าที่พักเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้บริษัทซีดีเอ็ม ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางานดังกล่าวสัญญาว่ามีที่พักฟรี

 

บริษัทจัดหางานยันเรื่องนี้มีทางออกแล้ว หลังเข้าไปประสานกับคนงานและโรงงาน

นายเฮง โสเพีย เจ้าหน้าที่ประสานงานของ บริษัทซีดีเอ็ม กล่าวกับพนมเปญโพสต์ว่า ทางบริษัทซีดีเอ็มสามารถหาทางออกในเรื่องนี้ได้ หลังจากที่มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปคุยกับคนงานและเจรจากับโรงงาน "หลังจากที่พวกเขาฟังเรา พวกเขาก็หยุดประท้วง" นายเฮง กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายเฮง ไม่สามารถยืนยันรายงานที่ว่า ทางโรงงานจะจ้างคนงานที่ทำงานในช่วงวันหยุดสงกรานต์ 8 วัน ในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ปรับขึ้นมาใหม่ 246 บาทต่อวัน

 

"วอลมาร์ท" เผยกำลังติดตามกรณีพัฒนาซีฟู้ดส์

ด้านเมอร์แกน เมอร์ฟี ผู้จัดการด้านประสานงานระหว่างประเทศ ของห้างค้าปลีกยักษ์วอลมาร์ท กล่าวกับพนมเปญโพสต์ว่า วอลมาร์ทกำลังสืบสวนเรื่องนี้

"โดยเร็วที่สุดเท่าที่พวกเราได้รับรายงานถึงความเป็นไปได้ว่ามีการละเมิดสิทธิแรงงานที่โรงงานพัฒนาซีฟู้ดส์ เราจะเริ่มสอบสวนเรื่องนี้" เธอกล่าว "พวกเราทำรายงานลักษณะนี้อย่างจริงจังมาก และพวกเราจะมีมาตรการออกมาอย่างเหมาะสมบนพื้นฐานของการสืบสวนที่พวกเราไปดำเนินการมา"

ทั้งนี้พนมเปญโพสต์ พยายามติดต่อสัมภาษณ์นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน แต่ไม่สามารถให้ความเห็นได้ ขณะที่นายกอยกอง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา และตัวแทนของพัฒนาซีฟู้ดส์ ไม่สามารถติดต่อได้

 

เอ็นจีโอกัมพูชาระบุการยึดหนังสือเดินทางถือเป็นการจำกัดเสรีภาพในการเดินทาง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จากศูนย์ให้การศึกษาทางกฎหมายแก่ชุมชน (Community Legal Education Center - CLEC) จากกัมพูชา ที่เดินทางมาสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้นกับคนงานชาวกัมพูชาที่ จ.สงขลา ให้ข้อมูลผู้สื่อข่าวประชาไทว่า คนงานชาวกัมพูชาร้องเรียนว่าหากต้องการเดินทางไปที่ชายแดนไทย-กัมพูชาจะต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับบริษัทจัดหางานเป็นเงิน 1,200 บาท และจะได้รับคืนหนังสือเดินทางต่อเมื่อเดินทางถึงชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว โดยระหว่างนี้คนงานทั้งหมดถือเพียงสำเนาหนังสือเดินทางเท่านั้น

"กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นการเลือกปฏิบัติ จำกัดเสรีภาพในการเดินทาง และจำกัดเสรีภาพในการรวมตัวสมาคม" เจ้าหน้าที่จากศูนย์ CLEC กล่าว โดยระบุว่าทางกัมพูชาจะทำรายงานในเรื่องนี้เช่นกัน

ทั้งนี้การเรียกร้องให้ปรับปรุงสวัสดิการเิกิดขึ้นหลังจากที่ประกาศค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. โดยที่อัตราค่าจ้างของ จ.สงขลา ปรับเพิ่มจากวันละ 176 บาท มาเป็นวันละ 246 บาท

อนึ่ง ก่อนหน้านี้พนักงานเคยร้องเรียนด้วยว่า สภาพการจ้างงานของโรงงานมีปัญหาหลายเรื่อง เช่น ห้องน้ำภายในโรงงาน และที่พักอาศัยมีจำกัดและไม่ถูกสุขลักษณะ ที่พักมีความแออัด ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน และต้องจ่ายค่าที่พักคนละ 300 บาทต่อเดือน และมีการเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ทั้งที่ก่อนหน้าที่จะมาทำงาน บริษัทจัดหางานระบุว่าจะไม่มีการเรียกเก็บ นอกจากนี้ยังมีการยึดหนังสือเดินทางเอาไว้ ให้คนงานถือเพียงสำเนาหนังสือเดินทาง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net