Skip to main content
sharethis


ภาพจาก Workaholic Mimir

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 15.00 น. คณะกรรมการสรรหา กสทช. จัดประชุมครั้งที่ 11 ที่อาคารสุขประพฤติ โดยกรรมการสรรหาลงมติเลือกผู้สมควรได้รับเลือกเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) โดยวิธีการสรรหาบุคคลในบัญชีรายชื่อที่สอง จำนวน 22 คน ตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ปรากฏรายชื่อบุคคล ดังนี้

ด้านกิจการกระจายเสียง จำนวนสองคน ได้แก่ 1) พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี 2)น.ส.ลักษมี ศรีสมเพ็ชร ด้านกิจการโทรทัศน์ จำนวนสองคน ได้แก่ 1) รศ.พนา ทองมีอาคม 2.นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ด้านกิจการโทรคมนาคม จำนวนสี่คน ได้แก่ 1)นายชัชวลิต สรวารี 2)พันเอก นที ศุกลรัตน์ 3)นายรอม หิรัญพฤกษ์ 4)นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ด้านกฎหมาย จำนวนสี่คน ได้แก่ 1)ผศ.จันทจิรา เอี่ยมมยุรา 2)นายทวี เส้งแก้ว 3)นายสงขลา วิชัยขัทคะ 4)นายสุทธิพล ทวีชัยการ ด้านเศรษฐศาสตร์ จำนวนสี่คน ได้แก่ 1.นางจันทิมา สิริแสงทักษิณ 2.นายพิษณุ เหรียญมหาสาร 3.ผศ.วิชัย โถสุวรรณจินดา 4.นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค หรือด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในกิจการวิทยุแ ละโทรทัศน์ จำนวนสองคน ได้แก่ 1)น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ 2)นางสุวรรณา จิตประภัสสร์ ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค หรือด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในกิจการโทรคมนาคม จำนวนสองคน ได้แก่1)นายนิมิตร์ เทียนอุดม 2)นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา และสุดท้ายด้านการศึกษา ด้านวัฒนธรรม หรือการพัฒนาสังคมจำนวนสองคน ได้แก่ 1)นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ 2)นางศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล

ทว่าล่าสุดเมื่อ 28 เม.ย. นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร อดีตกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็น กสทช. ด้านเศรษฐศาสตร์ ได้ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการสรรหา กสทช. ระบุขอให้ทบทวนมติฯ พร้อมขอให้ตรวจสอบคุณสมบัตินายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท ที่ได้รับเลือกเป็น กสทช. เมื่อ 25 เมษายน โดยอ้างว่านายอรรถชัยมีลักษณะต้องห้ามซึ่งอาจขัดต่อพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่น ความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรา 7(12) ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ กสทช. ที่กำหนดให้ต้องไม่ดำรงตำแหน่งในบริษัทที่ประกอบกิจการด้านวิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคม ทั้งนี้เนื่องจากนายอรรถชัย ได้ถูกเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ(บอร์ด)อิสระของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เมื่อ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้สืบเนื่องจากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น บมจ. อสมท ประจาปี 2554 เมื่อ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติอนุมัติเลือกตั้งกรรมการบริษัทฯ ตามที่คณะกรรมการสรรหาของบริษัทเสนอ เข้าดำรงตำแหน่งแทนกรรมการที่ออกตามวาระ ซึ่งรายชื่อหนึ่งในสี่ของกรรมการปรากฏชื่อของนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่านายจตุรงค์ ปัญญาดิลก ประธานคณะการสรรหา กสทช. ในฐานะรองประธานกรรมการบริษัท อสมท จำกัด เข้าร่วมประชุมและรับรู้กรณีดังกล่าวด้วย แต่เหตุใดจึงแจ้งให้กรรมการสรรหา กสทช.ทราบภายหลังจากได้ลงมติเลือกรายชื่อ กสทช.ทั้ง 22 คนไปแล้ว และปรากฎชื่อของนายอรรถชัยด้วย

กรณีดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้คณะกรรมการสรรหาต้องนัดประชุมและมีมติให้ ทบทวนโดยให้สนง.เลขาธิการวุฒิสภาดำเนินการตรวจสอบข้อมูลหลักฐานดังกล่าว และนัดหมายพิจารณาในเย็นวันที่ 29 เม.ย. นี้ หากนายอรรถชัย รับทราบและยอมรับตามมติของที่ประชุมที่ได้เลือกให้เป็นกรรมการของ อสมท กรรมการสรรหาจะต้องดำเนินการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมแทนเฉพาะสายเศรษฐศาสตร์ จำนวนหนึ่งท่าน

นอกจากนี้เมื่อ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ภายหลังที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติเลือกพล.อ.ธีรเดช มีเพียร เป็นประธานวุฒิสภาแล้ว นายประสิทธิ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี อดีตประธานกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสารและโทรคมนาคมฯ ได้ขอหารือถึงความไม่ชอบมาพากลในการเลือก กมธ.วิทยาศาสตร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตนมีหลักฐานและพยานยืนยันว่าการกระทำในครั้งนี้เกิดจากบุคคลซึ่งเป็น สมาชิกวุฒิสภาและมียศ พล.อ.ท่านหนึ่ง

นายประสิทธิ์ โพธสุธนให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เหตุที่มีผู้อยากเป็นประธานกมธ.วิทยาศาสตร์กัน อาจเป็นเพราะกรรมาธิการชุดนี้ต้องดูแลรับผิดชอบ กสทช.ในอนาคต และในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น เนื่องจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้ส่งเงินมาให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจำนวน 84 ล้านบาทซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องสปอนเซอร์โครงการเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งปกติวุฒิสภาไม่ได้ดำเนินการ กรณีนี้ตนจึงมองว่าเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าเนื่องจาก กทช. 5 คนลงสมัครเป็น กสทช. ตนในฐานะประธานกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ฯ ก่อนหน้านี้จึงได้สั่งสอบสวนเรื่องนี้ไปแล้ว

ทั้งนี้จากรายชื่อที่กรรมการสรรหาคัดเลือก ในจำนวนนี้มีผู้ดำรงตำแหน่ง กทช. ด้วยกันสองท่าน คือ รศ.พนา ทองมีอาคม และ พันเอกนที ศุกลรัตน์

อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้กระบวนการคัดเลือก กสทช. ยังต้องรอรายชื่อว่าที่ กสทช. อีกสองเท่าหรือจำนวน 22 คน จากวิธีการคัดเลือกกันเองในกลุ่มตัวแทนของหน่วยงานและองค์กรที่ได้ขึ้น ทะเบียน จากนั้นสนง.เลขาธิการวุฒิสภาจะเสนอรายชื่อส่งให้วุฒิสภาคัดเลือกให้เหลือ 11 คนต่อไป.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net