Skip to main content
sharethis

ข่าวสดรายงาน "นายทหารยศพันตรี" จ.เชียงราย ติดต่อให้เจ้าของฟาร์มแห่งหนึ่งรับหน้าที่ไปเกลี้ยกล่อมให้ 5 น.ร.-น.ศ. ที่ถือป้ายคัดค้านพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยอมรับสารภาพว่าถูกว่าจ้างจาก "แกนนำคนเสื้อแดง" แล้วจะช่วยเหลือให้พ้นผิด ขณะที่มีรายงานจากคณะทำงานกรรมการสิทธิฯ ระบุ ศอฉ.แถลงข่าวมั่วบอก นศ.ผิดตาม พรบ.จราจร ที่แท้ตำรวจตั้งข้อหาฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

กรณีที่นักศึกษาราชภัฏเชียงราย 2 คน นักศึกษา ม.แม่ฟ้าหลวง 2 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา 1 คน และแกนนำกลุ่มเสื้อแดงใน จ.เชียงราย ซึ่งทำความรู้จักนัดแนะผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กมาเดินแขวนป้ายเขียนข้อ ความ "ผมเห็นคนตายที่ราชประสงค์" และแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหตุเกิดบริเวณตลาดสดเทศบาล 1 หอนาฬิกา และทางขึ้นศาลากลาง จ.เชียงราย และต่อมาตำรวจ สภ.เมือง จ.เชียงราย ดำเนินคดีกับกลุ่มคนดังกล่าวทั้งหมดข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น

ล่าุสุด เว็บไซต์ นสพ.ข่าวสด รายงานความคืบหน้าเมื่อ 24 ก.ค. ว่า ตำรวจ สภ.เมือง จ.เชียงราย ทยอยสอบปากคำไปแล้ว 3 คน ยังเหลืออีก 3 คนที่กำลังนัดสอบปากคำ และอยู่ในขั้นตอนส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก โดยผู้ที่ถูกตำรวจสอบปากคำทั้งหมด คือ นายธนิต บุญญนสินีเกษม แกนนำกลุ่มพลังมวลชนเชียงราย นายกิตติพงษ์ นาตะเกศ อายุ 24 ปี และนายนิติเมธพนฎ์ อายุ 23 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มร.ช.) ทั้งหมดจะถูกเรียกตัวไปรายงานตัวและสอบปากคำเพิ่มเติมให้ครบในวันที่ 2 ส.ค.ต่อไป แต่ช่วงนี้พนักงานสอบสวนให้ปล่อยตัวชั่วคราวออกมาโดยไม่ต้องประกันตัว ส่วนนักศึกษาอีก 2 คน คือ นายเอกพันธ์ ทาบรรหาร อายุ 19 ปี และนายสาทิตย์ เสนสกุล อายุ 19 ปี จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำรวจอยู่ระหว่างนัดสอบปากคำต่อไป

สำหรับกรณีนายไก่ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนชื่อดังในเชียงราย หนึ่งในผู้ถูกดำเนินคดี ล่าสุดพบว่า พ.ต.ท.บัญญัติ ทำทอง รอง ผกก.สส.สภ. เมือง พาตัวนายไก่พร้อมผู้ปกครองไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก จ.เชียงราย เมื่อ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา เพราะตามกฎหมายเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีจะต้องส่งตัวไปอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานดังกล่าว อย่างไรก็ตาม น.ส.สุมาลี ญาณภาพ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก จ.เชียงราย แจ้งให้นายไก่และผู้ปกครองกลับมารายงานตัวอีกครั้งเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.ค.นี้เพื่อสอบปากคำตามขั้นตอน ทำให้ช่วงนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดรวมทั้งนายไก่ไม่ได้ถูกควบคุมตัว

น.ส.สุมาลีกล่าวด้วยว่า ตามขั้นตอนเมื่อดำเนินคดีกับเยาวชนจะถูกส่งตัวไปยังสถานพินิจและคุ้มครอง เด็ก เพื่อให้อยู่ในการดูแลด้านการสอบปากคำเบื้องต้น หลังจากนั้นจะถูกควบคุมที่สถานพินิจหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคดีนั้นๆ ว่ามีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด หากหนักผู้ปกครองก็สามารถประกันตัวออกไปได้ แต่สำหรับกรณีนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ เพราะต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมในวันนัดสอบปากคำก่อน ขั้นตอนต่อไปหลังการสอบปากคำภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กแล้วจะส่งราย ละเอียดให้พนักงานสอบสวน หากฝ่ายตำรวจยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติมต้องพาตัวไปยังสำนักงานอัยการจังหวัด เพื่อสอบปากคำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายไก่ นักเรียนผู้คัดค้านการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กล่าวว่า ช่วงนี้รอไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กในวันที่ 30 ก.ค.ตามขั้นตอน และว่า ไม่ได้ถูกควบคุมตัวหรือกระทำการใดๆ เจ้าหน้าที่คงเห็นว่าไม่ใช่คดีร้ายแรง ดังนั้น เมื่อตำรวจพาตัวไปมอบให้ก็ปล่อยออกมาและนัดสอบปากคำดังกล่าว เรื่องคดีตนไม่หนักใจ เพราะเห็นว่าเราทำไปโดยบริสุทธิ์ใจ ชีวิตประจำวันปกติสุขดี หลังผ่านขั้นตอนการสืบสวนแล้วตำรวจไม่ได้เข้ายุ่งเกี่ยวกับตนอีก

ด้านนายธนิต แกนนำกลุ่มพลังมวลชนเชียงราย กล่าวว่า ไม่เคยคิดกังวลเกี่ยวกับคดีนี้เพราะเห็นว่าทุกคนทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ตนสงสารเด็กที่ทำไปโดยความบริสุทธิ์แต่กลับตกเป็นเหยื่อ รวมทั้งปัจจุบันยังเริ่มถูกแยกสอบปากคำแต่ละคน เหมือนเลี่ยงไม่ให้ข่าวสารออกสู่สื่อมวลชนอีกด้วย

วันเดียวกัน น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงการจับกุมนักเรียนและนักศึกษาในเชียงรายว่า ตำรวจต้องลงไปดูแล โดยยึดหลักไม่ให้เป็นการไปละเมิดเขา สื่อเองก็ต้องติดตามเรื่องนี้จากตำรวจว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร ได้ยึดตามหลักสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เช่นเดียวกับที่สถานพินิจจะเรียกตัวนักเรียนชายชั้น ม.5 ไปรายงานตัวอีกครั้งวันที่ 30 ก.ค. สื่อต้องตามดูว่าเจ้าหน้าที่ได้กระทำการที่ไม่ละเมิดสิทธิเขา ต้องเปิดเผย และโปร่งใส ซึ่งรวมทั้งการทำงานของทหารในพื้นที่ด้วย

ทั้งนี้ รายงานข่าวจากคณะทำงานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความพยายามจากนายทหารยศพันตรี สังกัดจังหวัดทหารบกเชียงราย ไปติดต่อเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่งในเชียงรายให้ไปกล่อมน.ร.-น .ศ.ทั้ง 5 คนให้สารภาพว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดถูกว่าจ้างจากนายธนิต แกนนำกลุ่มพลังมวลชนเชียงราย แล้วจะช่วยให้ทั้ง 5 คนพ้นข้อกล่าวหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่น.ร.-น.ศ.กลุ่มนี้บอกปฏิเสธไป เนื่องจากไม่เป็นความจริง

นอกจากนั้น การที่ ศอฉ. เคยแถลงอ้างว่าการจับน.ร.-น.ศ.ทั้ง 5 คนเนื่องจากมีความผิด พ.ร.บ.การจราจร แต่ความจริงแล้วตามบันทึกแจ้งข้อหาของ สภ.เมืองเชียงราย ระบุไว้ชัดเจนว่าถูกจับเนื่องจากฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตามมาตรา 9 (1) และ (2) คือ ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือกระทำการใดเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย และ 2.ห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือการทำให้แพร่หลาย ซึ่งหนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถาน การณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนในทั่วราชอาณาจักร ทั้งที่ข้อความที่น.ศ.-น.ร.ทั้ง 5 คนถือไม่ได้มีข้อความใดเลยที่เข้าข่ายลักษณะดังกล่าว

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net